ปิดแก๊ป 1,300 เพื่อขึ้นใหม่!
*แรงเทขายที่ออกมาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,336.31 จุด ลบไป 9.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.72 หมื่นล้านบาท กลายเป็นประเด็นทำให้รู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไหม ? “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า ไม่หวั่นใจแม้แต่นิดเดียว เพราะข้อมมูลทางเศรษฐกิจหลายอย่างชี้ไปในทางเดียวกันว่า กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เผอิญตลาดหุ้นทั่วโลกตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวเร็วไปหน่อยพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*แรงเทขายที่ออกมาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,336.31 จุด ลบไป 9.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.72 หมื่นล้านบาท กลายเป็นประเด็นทำให้รู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไหม ? “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า ไม่หวั่นใจแม้แต่นิดเดียว เพราะข้อมมูลทางเศรษฐกิจหลายอย่างชี้ไปในทางเดียวกันว่า กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เผอิญตลาดหุ้นทั่วโลกตอบสนองต่อข่าวดังกล่าวเร็วไปหน่อยพะยะค่ะ
*เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับการ take profit อย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อผสานกับสัญญาณเทคนิคที่มีการเปิดแก๊ปทิ้งไว้บริเวณ 1,300 จุด “โมนิก้า” ย่อมเห็นด้วยกับการลงมายังจุดยุทธศาสตร์ที่เกริ่นนำไว้ เพราะเป็นภาพที่พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า นักเล่นพร้อมใจที่จะช้อนหุ้นจริงไหม ? ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ดัชนีถีบตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,350 จุดอีกครั้งไงล่ะค่ะ
*เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นวันนี้ถึงชิล ๆ สำหรับความคิดของ “โมนิก้า” เพราะเมื่อดู P/E ตลาด 23 เท่า เทียบกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น ย่อมส่อไปในทางโอเวอร์รีแอกต์อย่างไม่ต้องสงสัย และตรงจุดนี้เองที่ทำให้พวกกองทุนขายหุ้นทำกำไรช่วงสั้นออกไปก่อน (กดขายคนเดียว 4.50 พันล้านบาท) ขณะที่ฝรั่งดักเก็บหุ้นเมื่อย่อตัวลงมาถึงจุดนัดพบ (ช้อนไป 2.23 พันล้านบาท) เดี๊ยนจึงต้องถามแฟนคลับกลับไปว่า มองภาพตรงนี้เหมือนกันไหมจ๊ะ !
*เหมือนกับในรายของ SAWAD เห็นกันทนโท่ว่า พื้นฐานแกร่งทั่วแผ่นขนาดไหน แถมยังมีสตอรี่ให้ตื่นเต้นอีกเพียบ “โมนิก้า” ถึงไม่ยี่หระกับการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 54 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31 พันล้านบาท เพราะเมื่อดูสถิติเก่าที่เคยทำไว้แถว 65 บาท มันทำให้เดี๊ยนมีอาการเนื้อเต้นตุ๊บ ๆ ตลอดเวลา เพราะองค์ประกอบหลายอย่างเอื้อให้หุ้นขึ้นไปหายอดเก่าอีกครั้งเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ JMART มีสตอรี่เกี่ยวกับกำไรนิวไฮเป็นหัวเชื้อหล่อลื่นสำคัญ “โมนิก้า” เลยไม่กังวลกับการอ่อนตัวลงในบางครั้งบางคราว เพราะรู้ดีว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปทำฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม จึงมองการยืนปิดที่ระดับ 16.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 668 ล้านบาท คือโอกาสของคนที่มีเงินเย็น และต้องการตามรอยหุ้นเติบโตนะจะบอกให้
*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลียวมองหุ้นกล่องกระดาษ SCGP เพราะทรงธุรกิจระยะยาวดีชัวร์ ซึ่งเป็นจังหวะของคนที่มีเงินเย็น และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 37.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.87 พันล้านบาท น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกให้แฟนพันธุ์แท้ทยอยเก็บหุ้นใส่พอร์ต เดี๊ยนเลยอยากนำเสนอหุ้นตัวนี้ไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการ “ช้าแต่ชัวร์” นะออเจ้า
*อีกตัวที่น่าจะแจ่มสวัสดิ์ คงต้องมองไปที่หุ้นขายไก่ขายหมู CPF หลังยืนบวกสวนภาวะตลาดหุ้นที่แดงเถือกอย่างแข็งแกร่ง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 27.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาท น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกให้ขาประจำได้รู้ว่า เริ่มมีการสะสมของรอบใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่คิดจะปั้นพอร์ตให้สวย เพราะหุ้นเพิ่งเริ่มผงกหัวนะจ๊ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” เลือกที่จะพูดถึงหุ้นน้องใหม่กลุ่มขนส่งอย่างพี่เสือ LEO เป็นตัวเลือกของการเล่นในเที่ยวนี้ เพราะลองประเมินดูผลงานที่จะไปได้สวยในอนาคต เทียบกับราคาหุ้นล่าสุดที่ยืนปิดบริเวณ 3.90 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 246 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดที่ลงทุนได้สบาย ๆ สำหรับคนที่มองอะไรไกล ๆ หลังแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นเหลือเกิน เลยทำให้เชื่อว่า หุ้นน่าจะไปต่อเจ้าค่ะ
*เหมือนกับน้องดูดี DOD ของคุณน้อง “ผึ้ง” ซึ่งส่งไม้ต่อให้กับผู้บริหารมืออาชีพอย่าง “ธนิน” ก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังแต่อย่างใด หลังกำไรไตรมาส 3 โต 3 เท่า ทำให้ผลงานปี 63 เลิศสะแมนแตนเอามากๆ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองประเมินกำไรต่อหุ้นเป็นคราว ๆ เมื่อจบปีน่าจะอยู่แถว 0.50-0.60 บาท ต่อจากนั้นนำมาเทียบค่าพี/อีที่ตลาดเทรดกันเป็นส่วนใหญ่ก็จะเห็นว่า ราคาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 46 ล้านบาท ต่ำเกินไปจริงไหม..อิอิอิ