CPF ทำไมราคาไม่วิ่ง

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ราคาหุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF นับจากสิ้นเดือนส.ค. 63 ราคาร่วงลงมา (จาก 33.00-34.00 บาท) เรื่อย ๆ (น่าจะมาจากการปรับพอร์ตของกองทุนต่าง ๆ)

เหตุที่หุ้นปรับลงมีการวิเคราะห์ว่า น่าจะมาจาก 2 ปัจจัย

คือเรื่อง “ต้นทุนอาหารสัตว์” ที่ราคาสูงขึ้น ทำให้กระทบกับกำไรขั้นต้นของ CPF

และอีกประเด็นคือ “การเพิ่มทุน” ของ CPALL

หาก CPALL เพิ่มทุน (จริง) ก็จะทำให้ CPF ต้องใส่เงินตามลงไปด้วย

ทว่า เท่าที่ไปหาข้อมูลมาพบว่า มีการหวั่นเรื่องของต้นทุนอาหารสัตว์มากกว่า ส่วนการเพิ่มทุนของ CPALL ไม่น่าจะมีนัยสำคัญของราคาหุ้นที่ร่วงลงมา

และล่าสุด ทาง CPALL เอง ก็แจ้งออกมาแล้วว่า “ไม่มีการเพิ่มทุน”

หลังจาก CPF แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2563 ออกมา

พบว่ามีกำไรงวดไตรมาส 3/2563 กว่า 7.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ถามว่าตัวเลขกำไรนี้ดีกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไหม

คำตอบคือ “ดีกว่า”

แถมยังเป็นกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกด้วย

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 3 เพิ่มจาก 13.5% เป็น 18.8% (เทียบกับไตรมาส 3/2562) หนุนโดยราคาหมูที่เพิ่มขึ้นจากการระบาดของไข้หวัดหมูในไทย เวียดนาม และกัมพูชา

และธุรกิจสัตว์น้ำที่มีการดำเนินงานดีขึ้น

แล้วแนวโน้มในงวดถัด ๆ ไปล่ะ?

มีการคาดหมายว่า ราคาหมูจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปีนี้ จากผลกระทบของ “อุปทานหมู” ในตลาด และ CPF ได้เตรียม “วัตถุดิบ” และทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว

พร้อมคาด “ราคาข้าวโพด” และ “กากถั่วเหลือง” จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

หลังการแจ้งงบไตรมาส 3 ปีนี้

พบว่า มีโบรกเกอร์ หรือบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 17 แห่งได้ Cover หุ้น CPF

ในจำนวนนี้มี 16 โบรกฯ ที่แนะนำ “ซื้อ” และ “ ถือ” 1 แห่ง

ราคาเป้าหมายสูงสุด 49.50 บาท และต่ำสุด 29.00 บาท

ส่วนราคาที่เป็น IAA Consensus Target Price อยู่ที่ 38.75 บาท

แม้โบรกฯ เกือบทั้งหมด จะแนะนำซื้อ และราคาหุ้นมีอัพไซด์อย่างมากจากราคาเป้าหมาย

ทว่า ราคาหุ้นก็ไปไหนไม่ได้ไกลนัก

แม้ราคาหุ้น CPF ค่อย ๆ ฟื้นกลับมาจากที่ลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 25.00 (+) บาท แต่ก็มาแป๊ก ๆ ระหว่าง 27.00–28.00 บาท ขึ้นไปสูงสุด 28.25 บาท (หลังแจ้งงบไตรมาส 3/63)

ล่าสุดวานนี้ (18 พ.ย.) ราคาหุ้น ปิด 27.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ในทางเทคนิค CPF ยังมีราคาที่เป็นแนวต้านสำคัญคือ 28.00 บาท

ต้องยอมรับว่า หุ้นขนาดใหญ่อย่าง CPF หากราคาหุ้นจะดีดกลับไปมากกว่านี้ ต้องอาศัยกลุ่มนักลงทุนที่มีเงินหน้าตักเยอะ ๆ อย่างกองทุนต่าง ๆ เข้ามาช่วยไล่ซื้อ

ส่วนช่วงที่ผ่านมา ที่เข้ามาซื้อและขายหุ้น CPF (ช่วงที่ราคาลงมา) ส่วนใหญ่ยังเป็นเพียง “รายย่อย”

ทำให้ราคาไม่ไปไหน

ส่วนกองทุนต่าง ๆ เท่าที่ทราบ ต่างยังคงเฝ้ารอเกี่ยวกับตัวเลขต้นทุนอาหารสัตว์ก่อนว่า “แนวโน้มเป็นอย่างไร”

นักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน กับรายย่อย จะมีวิธีการมอง หรือพิจารณาในการเลือกซื้อหุ้นเข้าพอร์ตที่แตกต่างกัน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งบอกว่า รายย่อยอาจจะชอบหุ้นที่มีกำไรมาก ๆ เติบโตสูง

แต่กองทุนกลับมองมากกว่านั้น

ล่าสุด CPF มี P/E อยู่ที่ 9.88 เท่า P/BV 1.22 เท่า และอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.58% (วัดจาก 4 ไตรมาสย้อนหลัง)

รายย่อยที่รอการวิ่งขึ้นของราคาหุ้น CPF อยู่

ต้องวัดใจหรือรอ “พี่กอง” เขานั่นแหละ