เคาะเรื่อย ๆ..เหนื่อยก็พัก
*ทันทีที่ “โมนิก้า” เม้าท์ถึงรีเสิร์ชต่างชาติขึ้นมาอธิบายปรากฏการณ์ของตลาดหุ้นไทย (ปีหน้า 1,700 จุด) กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้คนมากมายพูดถึงความเป็นไปได้มีมากขนาดไหน ? เพราะตัวแปรหลายอย่างยังออกลูกแทงกั๊กตลอดเวลา รวมทั้งท่าทีของกองทุนในประเทศก็เกิดอาการป๊อดขึ้นมากะทันหัน เลยไม่เชื่อว่า การให้ข้อมูลเมื่อวันก่อนจะเป็นจริงเหมือนที่ได้นำเสนอนะซี
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ทันทีที่ “โมนิก้า” เม้าท์ถึงรีเสิร์ชต่างชาติขึ้นมาอธิบายปรากฏการณ์ของตลาดหุ้นไทย (ปีหน้า 1,700 จุด) กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้คนมากมายพูดถึงความเป็นไปได้มีมากขนาดไหน ? เพราะตัวแปรหลายอย่างยังออกลูกแทงกั๊กตลอดเวลา รวมทั้งท่าทีของกองทุนในประเทศก็เกิดอาการป๊อดขึ้นมากะทันหัน เลยไม่เชื่อว่า การให้ข้อมูลเมื่อวันก่อนจะเป็นจริงเหมือนที่ได้นำเสนอนะซี
*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ต้องแจกแจงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งว่า โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางแกว่งตัวขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด และยังได้อานิสงส์จากเงินทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะขึ้นไปยืนบริเวณ 1,700 จุดในปี 65 และขอย้ำคำเดิมอีกครั้งว่า หากตลาดหุ้นไทยจะเกิดการปรับฐานด้วยการไหลลง 50 จุดก็ไม่ใช่เรื่องวอร์รี่ เพราะข่าวดีใหม่ ๆ กำลังทยอยเปิดตัวนะซี
*วานนี้ถึงเห็นดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,433.56 จุด บวกไป 17.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.05 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นช็อตต่อเนื่องจากวันก่อน ๆ และวันนี้น่าจะได้เห็นการทดสอบแรงขายอีกระลอก เพื่อทำให้ฐานแนวรับบริเวณ 1,400 จุดแน่นขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” ถึงมองการเคาะขวาเที่ยวนี้จะออกไปในทาง “เคาะเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก” ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนตกขบวนได้เข้าร่วมขบวนเถิดเทิงอีกครั้งไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้นกระดาษตัวพ่อ SCGP ออกอาการเป๋ในช่วงแรก ๆ แต่ทันทีที่ตั้งลำได้สำเร็จ หลังจากนั้นก็มีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 41.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 6.41% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.40 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทุกคนเล่นได้สบาย ๆ เพราะแวลูที่พวกฝรั่งหัวทองมองไว้ มันยังมีแก๊ปให้เล่นได้อีก 10-15% นะนายจ๋า !
*เช่นเดียวกับในรายของหุ้น SAWAD ก็เป็นหุ้นที่เดี๊ยนเชียร์เป็นเวลานาน (ของเขาดี ก็ต้องพูดถึงบ่อย) เพราะแค่มองเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และการขยายฐานลูกค้าด้วยการจับมือกับแบงก์ออมสิน กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ปักใจเชื่อว่า กำไรจะโตกระหึ่มเหมือนที่ผ่านมา และการยืนปิดของราคาหุ้นที่ระดับ 58.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.32 พันล้านบาท น่าจะมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบพะยะค่ะ
*ในเมื่อทุกคนมองความคาดหวังใช้เป็นธงนำในการเล่น “โมนิก้า” ย่อมเล็งเป้าไปที่น้องมิ้น MINT เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมายืนปิดที่ 25.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.10 พันล้านบาท ทั้งที่ต้นเดือนมีอาการร่อแร่อยู่ที่บริเวณ 17 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองใช้ทฤษฎีราคาเหมาะสม 2 เท่าของ BV 14 บาท ทำให้ได้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 28 บาทเมกเซนส์เพียงใด..อิอิอิ
*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น DELTA เป็นรายถัดไปทันที หลังแมงลือพูดถึงกองทุนไต้หวันเข้ามาลุยเก็บหุ้นอีกครั้ง (เก็งติดโผ SET50) บวกกับราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 225 บาท บวกไป 29.50 บาท หรือขึ้นไป 15.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.14 พันล้านบาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับเทียบกับยอด 2 ครั้งก่อนที่ทำไว้บริเวณ 200 บาท มันทำให้ราคาหุ้น ณ ตอนนี้น่าสนใจหรือเปล่า ?..ลองกระซิบถามคนข้าง ๆ ดูนะตัวเอง
*ส่วนรายที่ก้ำกึ่งเหมือนจะไปต่ออย่าง PSL กลายเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงเพื่อชี้ให้เห็นยอด 2 ครั้งก่อนที่บริเวณ 6.30 บาทยังเป็นด่านหิน และแรงส่งที่จะทำให้หุ้นทะลุเพดานดังกล่าวแบบสะดวกโยธินต้องอาศัยผลงานปี 64 เป็นที่ตั้งเสียด้วย (9 เดือนปี 63 ขาดทุนไป 1.30 พันล้านบาท) เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า การขึ้นมาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 306.47 ล้านบาท มันใกล้ถึงทางตันของการเล่นเที่ยวนี้อะป่าว ?
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงการย่อตัวของหุ้น COM7 เป็นรายถัดไปในทันที เพราะการโค้งตัวลงมาเรื่อย ๆ จากยอดใหม่ 45 บาท ล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 38 บาท ทรงตัวจากวันก่อนหน้าด้วยมูลค่าการซื้อขาย 325.16 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า จบรอบพีค ! จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในภาวะคลุมเครือแบบนี้..ถ้าจะให้ดีควรไปถาม “หมอพงศ์ศักดิ์” เริ่มทยอยปล่อยของออกมาหรือเปล่าเจ้าค่ะ