พักตัวชั่วคราว

*หากมองรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะการวิ่งผลัด นักเล่นคงมองเห็นภาพการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น เพราะมันเป็นเกมที่วัดกันด้วยความไวของแต่ละทีมที่ส่งเข้ามาประชันฝีมือ จึงอย่าไปคิดอะไรมากมายให้รกสมองอีกเลย เพราะความได้เปรียบเสียเปรียบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา แถมเกมการลงทุนในตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้แก้มือได้ตลอดเวลาแบบนี้..อย่าไปถอยนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะการวิ่งผลัด นักเล่นคงมองเห็นภาพการแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น เพราะมันเป็นเกมที่วัดกันด้วยความไวของแต่ละทีมที่ส่งเข้ามาประชันฝีมือ จึงอย่าไปคิดอะไรมากมายให้รกสมองอีกเลย เพราะความได้เปรียบเสียเปรียบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลา แถมเกมการลงทุนในตลาดหุ้นเปิดโอกาสให้แก้มือได้ตลอดเวลาแบบนี้..อย่าไปถอยนะคะ

*เนื่องจากยุทธวิธี “ดันหุ้น ทุบหุ้น” ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และสัปดาห์นี้ก็ต้องเจออีกเหมือนกัน แถมสัปดาห์ถัดไปก็คงมีให้เห็นอีกอยู่ดี จึงมีความจำเป็นต้องอยู่กับสถานการณ์ ณ ตอนนี้ให้ได้ เพื่อจะได้เข้าใจอารมณ์ของตลาดหุ้นอย่างแจ่มแจ้งขึ้นกว่าเดิม และตรรกะดังกล่าวก็ทำให้ “โมนิก้า” ไม่ยึดติดกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป เพื่อทำให้การลงทุนมีความคล่องตัวไงล่ะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ไหลลงมาปิด 1,417.95 จุด ลบไป 2.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.82 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ช่วงแรกขึ้นไปถึง  1,430.49 จุด โดยปอบผีฟ้าสาดหุ้นทิ้ง 900 ล้านบาท บวกกับแมงเม่าเกิดความกลัวขึ้นมาอีก จึงปล่อยหุ้นออกมา 100 ล้านบาท “โมนิก้า” เลยมองเป็นการ take profit ธรรมดา ๆ แต่เรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้ฝรั่งหัวทองรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด จึงฉวยโอกาสเก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปพันล้าน เพราะกลยุทธ์ที่เวิร์กสุดเที่ยวนี้คือ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” นะซี

*เหมือนกับในรายของหุ้น CPF อุตส่าห์ทะยานขึ้นไปยืนเหนือ 30 บาท และกำลังเตรียมตัวจะขึ้นไปทดสอบ 35 บาทได้ไม่ทันไร ก็มีแรงเทขายออกมาอีกแล้ว หุ้นเลยมีอาการซึมลงเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 27.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.08 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถึงต้องหันมามองเส้นแนวรับ 200 วันที่ระดับ 28 บาทในทันที เพราะคิดว่า แนวรับดังกล่าวน่าจะช่วยผลักดันหุ้นกลับขึ้นมาใหม่นะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ก็ต้องกันมาดู PTTEP หลังหุ้นโดนรินออกมาต่อเนื่อง จนวันก่อนหลุดแนวรับ 100 บาทหน้าตาเฉย ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 98.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2 พันล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้าทำท่าทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับที่สูงกว่าเดิม เดี๊ยนเลยเชื่อว่า เกมราคาหุ้นใกล้จบเต็มทีแล้ว ! ซึ่งทำให้หุ้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องเด้งขึ้น เพื่อทำให้สมาชิกในขบวนรู้สึกอุ่นใจนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ AOT ตกอยู่ใต้ความกลัวโควิด-19 การขึ้นลงของหุ้นในแต่ละรอบถึงไม่มีประเด็นที่ทำให้คิดมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนได้ย้ำหัวหมุดกับมิตรรักแฟนเพลงตั้งแต่คลายล็อกดาวน์ จึงไม่แปลกใจที่หุ้นเซถลาลงมาปิดที่ 64.25  บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาท เพราะมีข่าวคนติดเชื้อทีไร หุ้นตัวนี้โดนก่อนประจำ..อิอิอิ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลือบมาดู BTS เป็นรายถัดมาในทันที และเหตุผลในการเม้าท์ถึงก็มาจากสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายคลึงกับรายข้างต้นที่เพิ่งเม้าท์ไปหยก ๆ และเข้าใจว่า เมื่อใดก็ตามสถานการณ์ติดเชื้อลามเข้ามาถึงกรุงเทพฯ ราคาหุ้นมักจะย่อยยับโดยไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมานอนที่ 10.10 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1.95%  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 329 ล้านบาท เลยมีคนตั้งคำถามตลก ๆ ว่า เล่นทำพรือ ?

*ส่วนในรายของหุ้นน้องใหม่ไฟแรง JR ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ต้องตามติดทุกฝีก้าว และเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ ล้วนอยู่ที่ความสามารถในการทำกำไรค่อนข้างบรรเจิด เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 8.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท ยังเป็นโอกาสสำหรับคนที่เชื่อว่า ธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่อง 3 ปีนะคะ

*เช่นเดียวกับคนที่ย้อนกลับเข้ามาเล่นหุ้นถุงมือยาง STGT ก็เป็นลักษณะเดียวกับที่เกริ่นนำให้ฟังข้างต้น แต่เผอิญรายนี้ฝากผีฝากไข้ไว้กับโควิด-19 มากเกินไปหน่อย จึงอยากจะเตือนให้แฟนคลับระวังเป็นพิเศษ เพราะธีมการเล่นลักษณะนี้ยืนระยะไม่นาน  และสิ่งที่สังเกตได้คือ ช่วงแรกจะเปิดตัวสวยหรูตามท้องเรื่อง แต่ผ่านไปสักระยะก็เหี่ยวเป็นมะเขือเผา จึงต้องไปดูกันเอาเองว่าราคาปิดที่ 75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท น่าเล่นไหม ?

Back to top button