หุ้นเล็กสุดติ่ง
*ช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับหุ้นใหญ่เยอะพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาเม้าท์มอยถึงหุ้นเล็กเสียที เพราะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเคาะขวารัว ๆ บวกกับหลายตัวมีพัฒนาการที่น่าสนใจหลายอย่าง จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ขุดข้อมูลของหุ้นบางตัวขึ้นมาศึกษา และอยากให้แฟนคลับเอาข้อมูลดังกล่าวมาแลกเปลี่ยน เพื่อทำให้เกมหุ้นเที่ยวนี้มีความไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม..อิอิอิ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ช่วงที่ผ่านมา “โมนิก้า” ให้พื้นที่กับหุ้นใหญ่เยอะพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาเม้าท์มอยถึงหุ้นเล็กเสียที เพราะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเคาะขวารัว ๆ บวกกับหลายตัวมีพัฒนาการที่น่าสนใจหลายอย่าง จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ขุดข้อมูลของหุ้นบางตัวขึ้นมาศึกษา และอยากให้แฟนคลับเอาข้อมูลดังกล่าวมาแลกเปลี่ยน เพื่อทำให้เกมหุ้นเที่ยวนี้มีความไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม..อิอิอิ
*สำหรับเกณฑ์ที่ใช้วัดหุ้นเล็กที่ชัดเจนสุดคือ หุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำกว่าระดับ 5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้ทุกคนได้ลุ้นสนุกสุดเหวี่ยง เพราะจะมีพวกเข้าองค์ทรงเจ้าแวะเวียนเข้ามามากมาย “โมนิก้า” จึงเลือกจะเม้าท์ถึงหุ้นตัวที่วิบวับ..วิบวับ เพื่อกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ทำงานอีกครั้ง ผนวกกับผู้เล่นสถาบันไม่ค่อยวอร์รี่กับโควิด-19 เดี๊ยนเลยเชื่อว่า บรรยากาศของตลาดหุ้นไทยจะแจ่มขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ
*ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,449.83 จุด บวกไป 11.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.28 หมื่นล้านบาทแบบชิว ๆ แถมโบรกต่างชาติมีการอัพเป้าดัชนีขึ้นไปแถว 1,600 จุด “โมนิก้า” เลยไม่ต้องอธิบายรายละเอียดปลีกย่อยที่เกิดขึ้น เพราะผู้รู้เหล่านั้นไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องราวของปัจจัยลบที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน (ขนาดโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ยังรู้สึกเฉย ๆ แสดงว่า เศรษฐกิจไทยต้องมีอะไรดีซ่อนไว้แน่ ๆ) พะยะค่ะ
*โดยเฉพาะในรายที่หงอยเหงาเป็นแรมปี พอถึงจังหวะทะยานขึ้น..ก็แรงเกินบรรยาย “โมนิก้า” คงชี้เป้าไปที่หุ้นโลจิสติกส์ III เป็นรายแรกก่อนใครเพื่อน เพราะการกระชากขึ้น 3 วันติด จนสุดท้ายยืนปิดที่ 6 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 153.28 ล้านบาท โดยก่อนหน้ายืนอยู่แถว ๆ 4.50 บาท มันเป็นจังหวะที่เย้ายวนใจสำหรับพวกขาลุยแบบสุดซอยนะตัวเอง
*เช่นเดียวกับในรายของ IIG พยายามวิ่งฝ่าแนวต้านสำคัญบริเวณ 25 บาทมาทั้งหมด 2 ครั้งในระยะเวลา 4 เดือน แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จสักที แต่ดูเหมือนเที่ยวนี้จะมาแบบจัดเต็ม ราคาหุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ 24.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 1.64% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.05 ล้านบาท ท่ามกลางสตอรี่ “รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม” เป็นตัวบิลต์อารมณ์ตลอดเวลาแบบนี้..น่าสนไหมล่ะจ๊ะ
*ส่วนรายที่เล่นบนเกมหุ้นเต็มตัว พร้อมกับงัดเครื่องมือการเงินออกมาใช้เป็นระยะอย่าง OTO กลายเป็นกิมมิคที่แมงลือเม้าท์กันสนั่นหวั่นไหว และยังมีเรื่องราวให้ติดตามแบบหนังซีรีส์เรื่องยาวในปีหน้า ก็เป็นจุดที่นักเล่นต้องประเมินให้ดีว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.20 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 9.57% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42.81 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการขึ้น XD และราคาทำเทนเดอร์ฯ อยู่ที่ 2.40 บาท มันสัมพันธ์กันหรือยัง ?
*สำหรับรายที่มีโมเมนตัมไปได้ดี “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น SONIC เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหวังกำไรปัง ! ราคาหุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ 1.53 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 15.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 48.87 ล้านบาทอย่างรวดเร็ว ประเด็นดังกล่าวเลยทำให้พวกนกรู้เม้าท์กันให้แซ่ดว่า วันนี้หุ้นเทรดบน P/E 16 เท่า มันน้อยเกินไปอะป่าว..ลองไปคิดกันดูนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ AIE เห็นกันทนโท่ว่า ราคาปาล์มพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แถมยอดขายไตรมาส 4 ก็เป็นไฮซีซั่น ต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีหน้า แต่ราคาหุ้นก็ยังขยับขึ้นได้ไม่มาก ผนวกกับมีการประเมินกำไรต่อหุ้นปี 63 คร่าว ๆ จะอยู่แถว 0.08 บาท เมื่อนำมาเทียบกับ P/E 15 เท่า ราคาเหมาะสมก็ควรอยู่แถว 1.20 บาท ขณะที่ราคาในกระดานอยู่ที่ 0.70 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 2.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38.48 ล้านบาท มันสมเหตุสมผลไหมตัวเอง !
*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้น UPA กันสักหน่อย เพราะการเข้ามาของพวกเสี่ยใหญ่ทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นจ้องตาเป็นมัน และอยากรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับตัวบริษัทแบบนี้ เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า ต้องดูกันยาว ๆ เพราะสตอรี่ที่นำมาปั่นกระแสเที่ยวนี้เป็นเรื่องเทิร์นอะราวด์ และการแตกไลน์ธุรกิจที่ทำ จึงอยากให้จับตาการยืนปิดที่ระดับ 0.23 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 34.68 ล้านบาท โดยมีบุ๊กอยู่ที่ 0.37 บาท มีโอกาสที่จะทำให้หุ้นไปถึงตรงนั้นไหม ?