พาราสาวะถี

อรชุน

ออกอาการอย่างผิดสังเกต แค่ฝ่ายค้านประกาศว่าจะยื่นซักฟอกรัฐบาล โดยที่ยังไม่ได้มีการประชุมวางแนวทางกัน แต่คนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาดักคอหน้าสลอน บอกเสียงข้างมากชนะแน่ แล้วก็โยนไปเป็นหน้าที่ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ตัวเองร่วมคณะด้วย โดยเชื่อมั่นจะสามารถชี้แจงข้อกังขาของฝ่ายอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ พร้อม ๆ ยืนยันความบริสุทธิ์ โปร่งใสของรัฐมนตรีในสังกัดของตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย

การแสดงท่วงทำนองเช่นนี้ โดยที่พรรคแกนนำรัฐบาลยังไร้ปฏิกิริยาใด ๆ เหมือนพวกร้อนท้อง เสมือนว่าคนของตัวเองจะถูกซักฟอกด้วยเสียอย่างนั้น มิหนำซ้ำ การที่กระบอกเสียงบางรายเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเปิดข้อมูลแสดงหลักฐานก่อนการอภิปราย อย่าเอาแค่พูดตีกินไปวัน ๆ ไม่รู้ว่าแกล้งโง่หรืออย่างไรไม่ทราบ หรือไม่ก็ไม่เข้าใจมารยาทของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่พรรคของตัวเองก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านมายาวนาน ใครจะมาเปิดเอกสารหลักฐานก่อนการอภิปราย

ในเมื่อมั่นใจในความบริสุทธิ์ของรัฐมนตรีในพรรคตัวเอง ก็ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ปล่อยให้คนที่เขาอยู่ในข่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแสดงออกเพียงคนเดียวจะดีกว่า หรือไม่ก็คนที่มีชื่อจากการแพลมมาของฝ่ายค้านอย่าง วิษณุ เครืองาม หรือ ดอน ปรมัตถ์วินัย ไม่ใช่กระโตกกระตากโวกเวกโวยวาย เหมือนว่าเสนาบดีของตัวเองจะถูกซักฟอกอะไรประมาณนั้น สิ่งสำคัญเมื่อบอกเองว่าฝ่ายค้านเป็นพวกท่าดีทีเหลวก็ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร

หรือมันมีอะไรที่ไปแอบซุกกันไว้โดยเฉพาะในช่วงของการสู้รบปรบมือกับโควิด-19 ที่เกรงว่าจะกวาดเก็บหลักฐานกันไม่หมดหรืออย่างไร ต่อให้จะสันหลังหวะยังไง แต่ประสาคนที่เจนจัดเวทีการเมืองกว่าใครเพื่อนก็ต้องเก็บอาการ รักษารูปมวย ไม่ใช่ออกลูกโฉ่งฉ่างให้กองเชียร์เสียขวัญกันอย่างนี้ ก็รู้อยู่แล้วว่าการมาร่วมงานกับเผด็จการสืบทอดอำนาจ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น ขอแค่อย่าได้เหิมเกริมมาปีนเกลียวกันเท่านั้นพอ เรื่องอื่น ๆ เดี๋ยวจัดการเป่าให้บริสุทธิ์ผุดผ่องได้เอง

นี่ก็กลายเป็นเรื่องให้ชวนกังขาหลัง วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนามหนังสือคำสั่งให้ปิดสถานที่สนามกอล์ฟ ดิโอเชี่ยนเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต บิ๊กเมาน์เท่น เฟสติวัล 2020 ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2563 เวลาบ่ายสองโมง ถึงวันที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลาบ่ายสองโมง โดยอ้างเหตุผลว่าเกรงจะเป็นการแพร่เชื้อโควิด-19 งานนี้ผู้จัดงานคือ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม ต้องยอมรับสภาพแต่โดยดี

แต่ก็ใช่ว่าจะยอมโดยง่าย เมื่อยังมีการจัดการแสดงไปจนถึงเวลาสี่ทุ่มของคืนวันที่ 13 ธันวาคม เนื่องจากมีคนมาร่วมงานจำนวนมากแล้วเกรงว่าจะทำให้เกิดความเสียหาย แม้ฝ่ายจัดจะยอมคืนค่าบัตรให้ก็ตาม น่าสนใจคือหลังเลิก มีการชู 3 นิ้วพร้อมร้องเพลง 12345 I Here Too กันดังกึกก้อง นี่คงเป็นสาเหตุหลักกระมังที่ทำให้งานถูกยกเลิก เพราะก่อนหน้านั้นนักร้องเจ้าของเพลงนี้ แอมมี่ เดอะบอททอมส์ บลู ที่ถูกเชิญขึ้นเวทีก็ถูกแคนเซิลงานกะทันหันมาแล้ว

ขณะเดียวกัน ท่าทีของป๋าเต็ดต่อความเคลื่อนไหวของคณะราษฎรนั้นก็ชัดเจน แต่หากผู้ว่าฯ โคราชยังยืนยันเป็นเรื่องของมาตรการป้องกันโควิด-19 ล้วน ๆ ถ้าเช่นนั้นก็เกรงว่าบรรดาคณะหมอลำทั้งหลายในภาคอีสานก็ควรที่จะต้องเตรียมการรับมือการถูกยกเลิกการแสดงไปด้วยกระมัง เพราะหลายพื้นที่ชัดเจนว่ามีคนดูล้นวิกหรือที่เรียกว่าวิกแตก ซึ่งมีการโหมประโคมยอดคนดูกันผ่านโซเชียลกันอย่างคึกคัก ถ้าใช้บิ๊กเมาน์เท่นเป็นบรรทัดฐาน ก็น่าเป็นห่วงคณะหมอลำทั้งหลายเหมือนกัน

เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า เพราะทางกรมควบคุมโรคก็ยืนยันชัดไม่มีคนป่วยโควิด-19 ไปร่วมงานคอนเสิร์ต และมาตรการที่ฝ่ายจัดงานเตรียมการคัดกรองร่วมกับฝ่ายสาธารณสุขในพื้นที่ก็ทำกันอย่างเต็มที่ โดยผู้ที่ไปร่วมงานก็ให้ความร่วมมือกันอย่างดี อย่าได้ใช้กรณีเช่นนี้มาปิดบังวาระซ่อนเร้น เพราะมันจะเป็นผลกระทบต่อคนที่เขาทำมาหากินจากการสร้างความบันเทิงเป็นด้านหลัก เหมือนคณะหมอลำที่ส่วนใหญ่มีคิวงานจองกันยาวเหยียดไปถึงกลางปีหน้าเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ประเด็นโควิด-19 สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้ไม่ใช่กรณีคอนเสิร์ตใหญ่ดังว่า แต่น่าจะเป็นเรื่องของการพบผู้ป่วยภายในประเทศจากกรณีพยาบาลของโรงพยาบาลบีเอ็นเอชที่ล่าสุดพบมีผู้ติดเชื้อเป็นรายที่ 7 แล้วนั้น กระบวนการสอบสวนโรคสามารถขีดวงจำกัดของผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ทั้งหมดแล้วหรือไม่ และมั่นใจว่าจะไม่มีเล็ดลอดแล้วใช่ไหม เพราะช่วงใกล้ปลายปีเช่นนี้ กิจกรรมการพบปะ รวมตัวกันในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีบ่อยขึ้นและมากขึ้นตามลำดับ

หากไม่ชัดเจนแล้วยังเป็นกังวล ความหวังเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือแม้กระทั่งภาคธุรกิจที่หวังจะใช้ช่วงจังหวะนี้สร้างรายได้ให้ดีขึ้น ก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ไม่ต่างจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ แม้จะมีการยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นกลับคืนมา ยิ่งมีข่าวก่อนหน้าว่าผู้ติดเชื้อมีการปกปิดข้อมูลพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว กลายเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นไปในทันที เพราะเท่ากับว่าที่ตรวจสอบได้ก็เชื่อได้ว่าปลอดภัย แล้วที่ไม่บอกไม่รู้ว่ามีการแพร่เชื้อกันไปถึงไหนแล้ว ซึ่งถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ถือว่าโชคดีไป

ในช่วงเวลาที่ม็อบผ่อนคลายกิจกรรม แทนที่จะเป็นจังหวะของการสร้างผลงานหรือเรียกความมั่นอกมั่นใจจากประชาชน รัฐบาลสืบทอดอำนาจกลับมาเจอสถานการณ์ในลักษณะนี้ เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ต่างจากฝ่ายต่อต้านที่โดยภาพรวมเหมือนจะผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีฝ่ายหนึ่งข้างใดเผด็จศึกได้เสียที ดังนั้น จึงต้องไปรอติดตามสถานการณ์กันในปีหน้าที่จะมีสารพัดปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเฉพาะพันธะสัญญาของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการเตรียมซักฟอกของฝ่ายค้าน ถ้าทุกอย่างเข้าล็อกมีข้อมูลช็อกจริงอย่างที่อ้าง ไม่แน่ว่าของดีที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมีอาจไม่สามารถคุ้มกะลาหัวได้อีกต่อไป