ลากไปเชือด
*ดูเหมือนการไต่ขึ้นสู่ระดับ 1,500 จุด ของตลาดหุ้นไทยจะยังไม่ใช่เรื่องง่าย และสถานการณ์เริ่มเจอความผันผวนมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อเห็นดัชนีสวิงอย่างรุนแรง เริ่มจากการทะยานขึ้นแต่กลับย่อตัวลงมาด้วยแรงขายที่มากกว่า ! ถือเป็นการทดสอบความยืดหยุ่นของนักเล่น และมองเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความไวมาเป็นตัวนำในการเล่นหุ้นรอบนี้เจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนการไต่ขึ้นสู่ระดับ 1,500 จุด ของตลาดหุ้นไทยจะยังไม่ใช่เรื่องง่าย และสถานการณ์เริ่มเจอความผันผวนมากขึ้น “โมนิก้า” ถึงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อเห็นดัชนีสวิงอย่างรุนแรง เริ่มจากการทะยานขึ้นแต่กลับย่อตัวลงมาด้วยแรงขายที่มากกว่า ! ถือเป็นการทดสอบความยืดหยุ่นของนักเล่น และมองเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความไวมาเป็นตัวนำในการเล่นหุ้นรอบนี้เจ้าค่ะ
*วานนี้ดัชนีวิ่งขึ้นไปทดสอบ 1,495.18 จุด ก่อนจะมาลงเอยที่ระดับ 1,476.13 จุด ลบไป 6.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท โดยมีฝรั่งหัวทองแท็กทีมกับกองทุนตัวแสบเข้ามารับบทขายหุ้นรวมกันกว่า 6.47 พันล้านบาท มันทำให้ความหวังที่จะได้เห็น 1,500 จุดยังดูยากเสียเหลือเกิน “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นอย่าหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นอันขาด และต้องคิดไปพร้อมกับการเคลื่อนตัวของดัชนีในแต่ละวันนะคะ
*การเคลื่อนไหวของดัชนีรอบนี้ “โมนิก้า” จึงมองเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ เพราะอย่าลืมว่า หุ้นตัวเดิม ๆ ที่เคยเป็นทีเด็ดสำหรับพวกขาประจำเริ่มขึ้นไปจนน่ากลัว และหุ้นตัวไหนที่วิ่งแรงเกินปัจจัยพื้นฐานไปแล้วจะเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกเทขายทำกำไรออกมาเสมอจึงไม่ควรยึดติดกับหุ้นเพียงรายตัว และต้องกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นแลกการ์ดที่มีโอกาสฟื้นตัวสูงกว่าเสียบ้างเจ้าค่ะ
*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ DELTA ที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาแบบติดเทอร์โบทำเอาเดี๊ยนเริ่มหวั่นใจ เพราะเมื่อเหลือบมองราคาที่ทะยานมาปิดที่ 374 บาท บวก 31 บาท หรือ 9.04% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.78 พันล้านบาท เลยทำให้ต้องกลับมาคิดว่ามันเว่อร์เกินพื้นฐานไปไหม ? เป็นเรื่องที่ต้องขบคิดก่อนเข้าไปลุยว่าหุ้นซื้อขายปัจจุบันใช่เวลาเข้าไปคลุกวงในกับเขาหรือเปล่า ?
*ในรายของหุ้นเหล็กอย่าง TMT ที่นาน ๆ จะมาให้เห็นบนหน้ากระดานสักที วานนี้ทะยานแรงต่อเนื่องจนมาปิดที่ระดับ 6.25 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 5.93% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.99 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบ 1 ปี 7 เดือน แรงหนุนรอบนี้เน้นไปที่งบไตรมาส 4 จะโชว์กำไรโดดเด่นในรอบ 3 ปี ตามราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนพุ่งแรง แถมโบรกฯ จัดหนักอัพประมาณการกำไรปีนี้โตทะลัก 138% พ่วงปันผลเกิน 9% จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นเลยพุ่งกระฉูดอย่างที่เห็นเจ้าค่ะ
*ด้าน AAV เป็นอีกตัวที่ราคายังคงร้อนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ด้วยการทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.84 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 15.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 828.99 ล้านบาท จากความคาดหวังเรื่องวัคซีนโควิด-19 แต่หากพูดกันถึงเรื่องพื้นฐาน “โมนิก้า” ขอสะกิดให้คิดสักนิดว่าปัจจัยหนุนที่คาดว่าจะเข็นหุ้นให้ไปต่อยังเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนผลงานกว่าจะเทิร์นอะราวด์คงต้องเท้าคางรอต่อพักใหญ่ ราคาที่ขึ้นมารอบนี้จึงเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้นเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งตัวที่มาพร้อมกัน “โมนิก้า” ขอสอดสายตาไปดู BA เป็นรายถัดมา และเที่ยวนี้ไม่ต้องถามหาเหตุผล เพราะรู้ ๆ กันอยู่ วานนี้ถึงได้เห็นราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.60 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 13.43% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 102.16 บาท เดี๊ยนมองเป็นเกมที่เหมาะสำหรับพวกขาซิ่งแบบ “ไปเร็ว มาเร็ว” เท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าผลงานยังขาดทุนยับเยิน แถมไม่เห็นแววฟื้นได้เร็ว ๆ นี้ หากใครมีไว้ในพอร์ตควรจะรีบทยอยปล่อยของออกมาบ้างเจ้าค่ะ
*หันมาดูหุ้นใหญ่อย่าง ADVANC หลังจากก่อนหน้านี้ขึ้นลงแบบสลับฟันปลา เล่นเอาแฟน ๆ ลุ้นไม่ขึ้น ก่อนจะเริ่มไต่ระดับขึ้นมาในช่วงท้ายของสัปดาห์ก่อน ล่าสุดยังสามารถวิ่งต่อจนนักเล่นหลายคนอยากลุ้นให้กลับไปแตะ 200 บาทอีกครั้งเพราะภาพรวมแล้ว “โมนิก้า” มองว่าธุรกิจเริ่มเห็นการฟื้นตัวจากไอโฟน 12 กระแสตอบรับท่วมท้น แถมในประเทศไทยตอนนี้ของขาดตลาดเหมือนแจกฟรี ! ซึ่งน่าจะหนุนยอดขายไตรมาส 4 แบบทะลุทะลวง การขึ้นมาปิดที่ระดับ 191 บาท บวกไป 2 บาท หรือ 1.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.07 พันล้านบาท มันถึงเป็นช็อตที่ต้องคอยลุ้นต่อเจ้าค่ะ
*หันมาที่ AMANAH ราคามีการเคลื่อนไหวไม่ค่อยหวือหวา ล่าสุดได้เห็นการย้อยตัวลงต่อเนื่อง มาลงเอยที่ระดับ 2.76 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.13% ด้วยมูลค่า 48.55 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าปัจจัยพื้นฐานยังไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ แถมราคาหุ้นยังซื้อขายต่ำเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกัน หากใครพร้อมถือหุ้นได้ยาว ๆ ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะค่อย ๆ ทยอยสะสม เพราะนาทีนี้หุ้นใกล้เข้าสู่เขต “ขายมากเกินไป” หากย่อตัวไปอีกสักหน่อยถือเป็นจังหวะช้อนเจ้าค่ะ