AMANAH แนวโน้มโตต่อเนื่อง
มีการประเมินว่ากำไรของ AMANAH ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความต้องการสินเชื่อสูง เพราะเป็นช่วง High season ของการปล่อยสินเชื่อ
คุณค่าบริษัท
ว่ากันด้วยเรื่องผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2563 ของบริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH ที่มีการประเมินว่ากำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีความต้องการสินเชื่อสูง เพราะเป็นช่วง High season ของการปล่อยสินเชื่อ
กอปรกับการกลับมาชำระหนี้ตามปกติของลูกหนี้ที่หยุดพักการชำระไปในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งบริษัทยังมีการเร่งตามเก็บหนี้ที่เคยตัดสูญไปแล้วให้ได้เพิ่มมากขึ้น มั่นใจว่าผลดังกล่าวจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานเติบโตตามผลงานในช่วงไตรมาส 3/2563 ที่ผ่านมา
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 199.86 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 189.93 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 75.63 ล้านบาท หรือ 0.073 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 68.79 ล้านบาท หรือ 0.067 บาทต่อหุ้น เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นและรายได้อื่น (ส่วนใหญ่มาจากหนี้สูญได้รับคืน) ที่เพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ผลการดำเนินงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 583.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 531.66 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 213.62 ล้านบาท หรือ 0.207 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 177.52 ล้านบาท หรือ 0.173 บาทต่อหุ้น เป็นการสะท้อนว่าบริษัทยังเติบโตแกร่ง
เมื่อผลการดำเนินงานที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/2563 ทำให้ทางนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563-2564 ของ AMANAH ขึ้นเป็น 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ เหตุจากการปรับประมาณการรายได้อื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากรายได้หนี้สูญได้รับคืนที่ทาง AMAMAH สามารถเก็บได้สูงกว่าที่คาด
พร้อมกับปรับประมาณการเงินปันผลขึ้นเป็น 0.12 บาทต่อหุ้น และ 0.13 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ จากเดิมที่คาดไว้ที่ 0.11 บาทต่อหุ้น และ 0.12 บาทต่อหุ้น จากการปรับประมาณการกำไรขึ้น ส่งผลให้ราคาพื้นฐานปี 2564 ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.12 บาท รวมถึงคำแนะนำ “ทยอยซื้อ”
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- ธนาคาร อิสลามแห่งประเทศไทย 500,080,000 หุ้น 48.59%
- นายภานุรังษี ศรีวรัฏฐา 51,399,900 หุ้น 4.99%
- นายสุรศักดิ์ ไกรวิทย์ชัยเจริญ 17,800,000 หุ้น 1.73%
- นางลามิปาโกร์ ศรีคุรุวาฬ 16,597,697 หุ้น 1.61%
- บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 10,312,017 หุ้น 1.00%
รายชื่อกรรมการ
- พลตรีณัฏฐิพงษ์ เผือกสกนธ์ ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ
- นายไพบูลย์ ศิริภาณุเสถียร ประธานกรรมการบริหาร, กรรมการ
- นายนันทพล พงษ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ
- นายมนต์ชัย รัตนเสถียร กรรมการ
- น.ส.ศันสนีย์ เมธิสริยพงศ์ กรรมการ