กองทุนตื่นตูม
วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วง 80.60 จุด ปิด 1,401.78 จุด
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วง 80.60 จุด ปิด 1,401.78 จุด
มูลค่าการซื้อขายกว่า 129,435 ล้านบาท
นักลงทุนสถาบันหรือ “กองทุน” ที่ขายสุทธิออกมากว่า 7,392 ล้านบาท ไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดหมายเลยจริง ๆ
และมีส่วนกดดัชนีรูดลงมาหนัก
การขายของกองทุน เท่าที่สอบถามแบบหลังไมค์
ส่วนใหญ่ยังให้ข้อมูลแบบเดิม ๆ เหมือนก่อนหน้านี้ คือ ผู้ถือหน่วยในกองทุนส่วนบุคคล หรือ “ไพรเวทฟันด์” เป็นคนสั่งให้กองทุนขายหน่วยลงทุนออกมา
ทราบกันดีกว่า กองทุนส่วนบุคคล ส่วนใหญ่จะเป็นของ “นักลงทุนรายใหญ่”
และหุ้นที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่ หรืออาจจะทั้งหมด จะอยู่ใน SET50 หรือ บิ๊กแคปจริง ๆ
คำถามคือว่า แล้วกองทุนส่วนบุคคลที่ว่านี้ ขายออกมาแบบสะเด็ดน้ำหรือยัง
คำตอบ… ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 นั่นแหละ
หากมีการพบตัวเลขผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะถ้าอยู่นอกเขตสมุทรสาครเพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดหวั่นว่า จะมีการล็อกดาวน์รอบสอง ก็อาจจะเกิดการสั่งขายเพิ่มได้
แต่หากประเมินว่า ทางการเริ่มเข้ามาควบคุมได้ และตัวเลขเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว
อาการแพนิก หรือตื่นของของผู้ถือหน่วย น่าจะเบาบางลง
ส่วนบรรดาผู้จัดการกองทุนนั้น
หากมีคำสั่งจากผู้ถือหน่วยให้ขาย เขาก็ต้องขาย
ในกรณีนี้อาจจะรวมถึงการสั่งขายของผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนแบบปกติ หรือทั่ว ๆ ไปด้วยก็ได้
ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้น
เป็นไปตามที่ผู้จัดการกองทุนให้ข้อมูลมาหรือเปล่า คนในวงการหุ้นน่าจะพอทราบกัน
มาถึงประเด็นที่น่าสนใจกันดีกว่า
นั่นคือ การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศกว่า 3,794 ล้านบาท ถือว่าน่าสนใจ
เพราะก่อนหน้านี้ หรือปลายสัปดาห์ที่แล้ว ต่างชาติเพิ่งจะขายออกมา 2 วันติดต่อกัน เริ่มจาก 17 ธ.ค. ขายสุทธิ 2,635 ล้านบาท และ 18 ธ.ค. ขายสุทธิ 5,608 ล้านบาท
ก่อนจะสบช่องกลับเข้ามาซื้อเมื่อวานนี้
ทำให้ยอดการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่ 1–21 ธ.ค. 63 กลับมามียอดซื้อสุทธิกว่า 3,051 ล้านบาท
ต่างชาติน่าจะมองเห็นโอกาสในหุ้นหลาย ๆ ตัวที่ราคาลงมามากเกินไป
จึงเกิดการเข้าช้อนซื้อเข้าพอร์ต
มีการเปรียบเทียบตลาดหุ้นไทยที่เผชิญโควิดรอบใหม่ กับกลุ่มประเทศยุโรปที่เผชิญโควิดรอบสอง
หุ้นกลุ่มประเทศยุโรปเกิดการปรับลงกว่า 6% บวก/ลบ เล็กน้อย
ส่วนของประเทศไทยเมื่อวานนี้ลงมาแล้ว 5.44%
จึงเกิด “ข้อจำกัด” ในการที่จะลงมาอีก และคาดว่าแนวรับ 1,390 จุด บวก/ลบ น่าจะรับไหว
หรือ (ลง) อย่างมากสุด ไม่น่าจะหลุด 1,370 จุด
ยิ่งเมื่อวานนี้ต่างชาติที่ซื้อสุทธิ จะเป็นเซนติเมนต์ที่ดีกับนักลงทุนและตลาดหุ้น ทำให้วันนี้มีโอกาสเปิดบวก หรืออาจจะลงก่อน (เล็กน้อย) ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาได้
หุ้นที่ถูกกระแทกลงมาวานนี้
น่าจะเป็นโอกาสดีของนักลงทุนที่ยังมี “เงินสด” บนหน้าตัก เริ่มกลับเข้ามาซื้อ
โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ตกขบวนในช่วงที่ดัชนีวิ่งขึ้นไปบริเวณ 1,500 จุด บวก/ลบ เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา
ว่ากันว่า โอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นที่ช่วงที่หลายคนเกิด “ความกลัว”
และเราต้อง “กล้า”