เกาะ 1,400 ให้แน่น!

*ก่อนอื่นต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า การขึ้นลงของดัชนีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใด เพราะตลาดหุ้นไทยต้องผ่านบททดสอบแรงขายอีกพักใหญ่ ๆ ก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม และจุดที่เป็นกุญแจสำคัญของการเล่นเที่ยวนี้ก็อยู่ที่แนวรับบริเวณ 1,400 จุดยังสามารถทำหน้าที่ประคองตลาดหุ้นได้ดีขนาดไหนเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า การขึ้นลงของดัชนีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกเป็นกังวลแต่อย่างใด เพราะตลาดหุ้นไทยต้องผ่านบททดสอบแรงขายอีกพักใหญ่ ๆ ก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม และจุดที่เป็นกุญแจสำคัญของการเล่นเที่ยวนี้ก็อยู่ที่แนวรับบริเวณ 1,400 จุดยังสามารถทำหน้าที่ประคองตลาดหุ้นได้ดีขนาดไหนเจ้าค่ะ

*ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันโดยตรงกับสัญญาณเทคนิคมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นแยกแยะเหตุการณ์แต่ละอย่างให้ชัดเจน เพราะเป็นรูปแบบที่ทำให้นักเล่นมีความคล่องตัวมากสุดในภาวะผันผวน รวมทั้งเรื่องราวของโควิดยังตามหลอกหลอนไม่เลิกเสียที จึงควรตั้งหลักการลงทุนให้มั่น เพื่อทำให้สถานการณ์ทุกอย่างออกมาตรงตามแผนที่วางไว้นะจะบอกให้

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่ดัชนีกวัดแกว่งตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,416.02 จุด ลบไป 8.37 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.95 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติในสภาวะข่าวร้ายท่วมประเทศ จึงไม่สามารถคาดหวังอะไรได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ และตราบใดที่ดัชนียังสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้ เดี๊ยนก็มองเป็นโอกาสทองของการลงทุนพะยะค่ะ

*ยกเว้นในรายของหุ้น DELTA เพียงตัวเดียว เพราะเมื่อมองในมุมของค่า P/E 80 เท่า เทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 420 บาท บวกไป 42 บาท หรือขึ้นไป 11.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.22 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่สามารถชี้แนะว่า หุ้นตัวนี้น่าเล่น ! ผนวกกับมีข่าวเม้าท์เกี่ยวกับกองทุนไต้หวันลุยดะ ยิ่งทำให้หุ้นตัวนี้เข้าในสูตรสำเร็จที่ว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” นะคะ

*คล้ายกับในรายของ AMANAH ถูกปั่นอย่างกับลูกเต๋าในบ่อนกาสิโนแบบนี้ “โมนิก้า” รับสภาพไม่ไหวจริง ๆ เพราะสิ่งที่แสดงออกมาสัมพันธ์กับปัจจัยพื้นฐานน้อยมาก ๆ วานนี้ถึงเห็นรายการลากขึ้นไปถึง 4.94 บาท ก่อนจะทุบเปรี้ยงเดียวลงมาปิดที่ระดับ 3.90 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 11.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.23 พันล้านบาท เดี๊ยนบอกได้คำเดียวว่า โหดจริงลูกพี่ !

*ดูดีขึ้นมานิดหนึ่งคงเป็นในรายของหุ้น PRM หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.05 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 13.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 750 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่เล่นอยู่บนพื้นฐานจริง ๆ และกำไรก็มาตามนัดเสียด้วย เดี๊ยนเลยมองแบบแฟร์ ๆ ว่า หากราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปถึงฐานเก่าบริเวณ 8.50 บาทก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะวันนี้ยังเทรดบน P/E 13 เท่า จึงเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งสบาย ๆ เจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่กระแสมาดีเหลือเกินอย่าง AS ก็ต้องยอมให้เขาลิงโลดต่อไปเรื่อย ๆ เพราะการเทิร์นอะราวด์เที่ยวนี้มาพร้อมกับกำไรโต แต่ราคาหุ้นวันนี้กลับเทรดบน P/E 9.40 เท่า จึงไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดที่หุ้นจะไปต่อยาว ๆ และการยืนปิดที่ 6.20 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 232 ล้านบาท น่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ขาลุยได้เล่นกันอีกยกนะจ๊ะ

*สำหรับในรายของ COTTO พุ่งขึ้นแรงก่อนจะโดนจับ Cash Balance แบบนี้ “โมนิก้า” มองได้แค่ว่า นี่คือการดันออกของเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อดูตามหน้าเสื่อที่เกิดขึ้นกับหุ้นตัวอื่นที่โดนจับขัง ล้วนโดนขายทิ้งในวันถัดมากันเป็นแถว เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.95 บาท บวกไป 0.27 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 198 ล้านบาทยังน่าเล่นตามน้ำจริงไหมเอ่ย ?

*เช่นเดียวกับในรายของหุ้น LEO พยายามดันราคาขึ้นเหนือ 6 บาท สุดท้ายก็ไม่สำเร็จสักทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของแวลูที่มาเต็มแม็ก จึงเหลือแก๊ปให้เล่นต่อไม่มาก บวกกับวานนี้หุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 6.25 บาท แต่หลังจากนั้นโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 5.80 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 277 ล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่า พอเถอะโยม !..อิอิอิ

Back to top button