EKH จากวิกฤติเป็นโอกาส.!
การระบาดรอบใหม่ของไวรัสมรณะโควิดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ตลาดกลางกุ้งใน จ.สมุทรสาคร ไม่ต่างจากฝันร้ายของภาคธุรกิจ ขณะที่ปัจจุบันขยายวงกว้างไปใน 54 จังหวัดแล้ว ยิ่งทุบเศรษฐกิจไทยให้ดิ่งเหวลึกไปอีก
สำนักข่าวรัชดา
การระบาดรอบใหม่ของไวรัสมรณะโควิดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ตลาดกลางกุ้งใน จ.สมุทรสาคร ไม่ต่างจากฝันร้ายของภาคธุรกิจ ขณะที่ปัจจุบันขยายวงกว้างไปใน 54 จังหวัดแล้ว ยิ่งทุบเศรษฐกิจไทยให้ดิ่งเหวลึกไปอีก
เรียกว่ารอบที่แล้วยังยืนขาสั่นอยู่เลย มาเจอรอบนี้ทุบซ้ำอีกก็แทบล้มทั้งยืน…เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริง ๆ
ที่น่าสนใจ…บังเอิ๊ญบังเอิญศูนย์กลางการระบาดครั้งนี้ เป็นพื้นที่ตั้งของบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เสียด้วยสิ…
จึงถูกมองว่า EKH น่าจะได้รับผลกระทบหนัก…เผลอ ๆ อาจกระอักเลือดเอาได้ เพราะมีโรงพยาบาลเพียง 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.สมุทรสาคร
ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก จึงพร้อมใจกันเทหุ้น EKH กันจ้าละหวั่น ส่งผลให้เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. 2563 ราคาดิ่งทันที 8.40% หลังจากนั้นราคาก็ค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัว…โดยในรอบ 1 สัปดาห์ราคาปรับขึ้นไปแล้ว 18%
นั่นเป็นเพราะไม่เพียง EKH จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างที่คาดกันก่อนหน้านี้…แต่ที่ไหนได้กลับได้ประโยชน์ซะด้วยซ้ำ…
ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลออกมาว่า นับตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2563 (เริ่มต้นตรวจพบเชื้อ) มีผู้ที่เกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิดเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชัยเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากเข้าตรวจแบบ Drive Thru ที่โรงพยาบาล และออกไปตรวจนอกสถานที่ หรือตามโรงงานต่าง ๆ ซึ่งรองรับได้สูงสุด 600-700 คนต่อวัน
ขณะที่จากต้นปีจนถึงปัจจุบันโรงพยาบาลให้บริการตรวจโควิดไปแล้วมากกว่า 3,000 ราย โดยคิดค่าบริการรายละ 4,150 บาท ซึ่งคาดจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/2563 ราว 15 ล้านบาท
แถมลูกค้าส่วนใหญ่ชำระเงินเองและบริษัทประกันรับผิดชอบบางส่วนทำให้มีมาร์จิ้นสูง.!!
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยหนุนจากผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกที่เข้าใช้บริการต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากไวรัส RSV ที่ระบาดหนักในเด็กเล็ก ส่งผลให้อัตราครองเตียงแตะที่ 80-90% เลยทีเดียว…
เท่ากับว่า แทนที่จะเป็นวิกฤติกลับกลายเป็นโอกาสของ EKH ซะงั้น.!!
ขณะเดียวกัน คาดว่า EKH จะคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น…หนุนให้ผลประกอบการในไตรมาส 4/2563 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี
แต่ถ้าหวังจะเห็นกำไรปี 2563 กลับมาโตระเบิดระเบ้อ…อันนั้นต้องปิดประตูตายไปก่อน เอาแค่ประคองตัวให้รอดก็นับว่าบุญโขแล้ว…
ขณะที่นักวิเคราะห์สถาบันต่าง ๆ พร้อมกันปรับเป้ากำไรในปี 2563 ขึ้นเป็น 49 ล้านบาท และอัพราคาใหม่สูงสุดที่ 6.20 บาท
ก็ยังมีอัพไซด์ให้เล่นอีกพอสมควร…
ส่วนใครใคร่ซื้อก็ซื้อ…ใคร่ขายก็ขาย…
เอาที่สบายใจละกัน…
…อิ อิ อิ…