พาราสาวะถีอรชุน
ผู้ใหญ่ที่เป็นอดีตสปช.ซึ่งยกมือเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายแหล่ ควรที่จะนำเอาจดหมายเปิดผนึกของเด็กม.5 ที่ถูกรวบตัวจากเวทีต้านโกงซึ่งนายกรัฐมนตรีบิ๊กตู่ไปเป็นประธานเปิดงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นเครื่องเตือนสติหรือเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างในเรื่องของประชาธิปไตย
ผู้ใหญ่ที่เป็นอดีตสปช.ซึ่งยกมือเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายแหล่ ควรที่จะนำเอาจดหมายเปิดผนึกของเด็กม.5 ที่ถูกรวบตัวจากเวทีต้านโกงซึ่งนายกรัฐมนตรีบิ๊กตู่ไปเป็นประธานเปิดงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นเครื่องเตือนสติหรือเปิดโลกทรรศน์ให้กว้างในเรื่องของประชาธิปไตย
หลังจากถูกรวบตัวไปสอบถามที่สน.ปทุมวันและได้รับการปล่อยตัว เด็กคนดังกล่าวที่มีชื่อว่า พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเรียนชั้นม.5และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกออนไลน์เพื่อส่งถึงท่านผู้นำ อธิบายถึงการเดินทางไปพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยตัวเองไว้ได้อย่างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ควรเงี่ยหูฟัง
น้องเพนกวินเริ่มต้นจดหมายว่า ต้องขออภัยท่านนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างยิ่งที่ในวันนี้ผมได้นำข้อเสนอที่ร่างจากใจจริงของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทไปยื่นแด่ท่านโดยมิได้แจ้งไว้ล่วงหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ท่านเกิดความตกใจหรือไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน และผมเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่สุดท้ายจดหมายของผมก็ไม่สามารถนำส่งถึงมือท่านได้ด้วยตนเอง เพื่อความบริสุทธิ์ใจผมจึงขอเรียนท่าน 3 ประการ
ท่านอาจมองว่าการกระทำของผมเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและผิดกาลเทศะที่ไม่ยื่นจดหมายตามระบบระเบียบราชการ จึงขอเรียนว่าที่ผมจำเป็นต้องเสียมารยาทนั้น ก็เพื่อให้ท่านสามารถรับสารจากผมได้โดยตรง ไม่ตกหล่นหรือผิดเพี้ยนจากเจตนาเดิมไปหากไม่สามารถยื่นส่งถึงท่านได้โดยตรง นี่คงเป็นภาพจดจำจากหลายๆ กลุ่มที่ไปยื่นหนังสือร้องเรียนแล้วเรื่องเงียบหายไป
ประการต่อมาท่านอาจมองว่า การกระทำของผมนั้นเป็นการจัดฉาก ถูกยุยง มีเบื้องหลังหรือหวังผลทางการเมืองหรือไม่ ผมขอชี้แจงว่าเบื้องหลังการกระทำของผมมีเพียงความจริงใจและความหวังดีที่มีต่ออนาคตของประเทศไทย ไม่มีผู้ใดยุยงส่งเสริมทั้งสิ้น ข้อเสนอของผมเป็นเพียงการเรียนปรัชญาและจริยศาสตร์ซึ่งจะสร้างจริยธรรมให้นักเรียนได้ดีกว่าแทนวิชาหน้าที่พลเมืองแต่เพียงเท่านั้น
มุมมองของเด็กที่ถือว่าจะต้องเรียนรู้โดยตรง เป็นสิ่งที่ผู้บริหารโดยเฉพาะ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เจ้ากระทรวงศึกษาธิการน่าจะต้องรับไปพิจารณา เพื่อให้สอดรับกับการจะให้เด็กนักเรียนเลิกเรียนบ่ายสอง เพื่อไปดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ กรณีของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท หากไม่อคติ กล่าวหาว่ามีการเมืองหนุนหลังก็ถือเป็นกิจกรรมที่ควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
ประการสุดท้าย น้องเพนกวินยืนยันว่า เป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้มีความสามารถพิเศษไปกว่าใครอื่นเลย หากแต่ในวันนี้ผมเห็นประโยชน์ของส่วนรวมสำคัญกว่าตนเองจึงกล้าที่จะลุกขึ้นพูดเพื่ออนาคตการศึกษาไทย ยังมีผู้คนอีกมากที่มิได้มีโอกาสเช่นนั้น ขอให้ท่านเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงนักเรียนตัวเล็กๆ อย่างเช่นผม เพราะสุดท้ายแล้ว ทุกเสียงจะขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปด้วยกัน
ตรงนี้คงเป็นการตอกย้ำสิ่งที่เด็กม.5 คนนี้ได้พูดไว้ก่อนหน้าว่า “ผมคิดว่าความโปร่งใสเป็นสิ่งที่สำคัญในการปราบการทุจริต ซึ่งการโปร่งใสที่ว่ามันก็คงต้องให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้วย อย่างไม่ถูกปิดกั้นนะครับ” จุดนี้แหละที่ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ น่าจะได้เก็บไปคิดว่าการรับงานยกร่างรัฐธรรมนูญจนถูกคว่ำไปนั้นมีการเปิดโอกาสให้การมีส่วนร่วมเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางหรือไม่
ไม่เพียงเท่านั้น บทส่งท้ายที่เพนกวินส่งจดหมายไปถึงนายกฯผู้ยิ่งใหญ่ ยังเป็นข้อความที่กินใจและสะท้อนให้เห็นถึงความใจกว้างของคนที่ยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตย นั่นก็คือ แม้ว่าท้ายที่สุดจะถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน แต่ไม่มีความโกรธเกลียดชังแก่ผู้ใดเลย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัวออกไปหรือเจ้าหน้าที่ที่สอบสวนตนเอง เพราะทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่และปฏิบัติต่อตนด้วยดี
ทั้งนี้ หวังว่าในอนาคตจะไม่เพียงแต่ตนและคนอื่นๆ ที่สามารถแสดงความคิดเห็นของตนถึงผู้มีอำนาจได้ แต่จะเป็นทุกคนที่สามารถพูดในสิ่งที่ตนเชื่อมั่นศรัทธาจากก้นบึ้งของหัวใจได้ ตรงนี้ต่างหากคือปัจจัยสำคัญในการที่จะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ตอกย้ำด้วยความเห็นของ จาตุรนต์ ฉายแสง ล่าสุด ที่บอกว่าสาเหตุที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำเพราะมีเนื้อหาเป็นเผด็จการสุดโต่ง
ลำพังที่มาของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งไม่ยึดโยงกับประชาชนแล้ว แต่สิ่งที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯดำเนินการกลับเลยเถิดไปใหญ่นั่นก็คือ กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่รับฟังความคิดเห็นฝ่ายต่างๆ อย่างเพียงพอ ทั้งยังปล่อยให้มีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะฝ่ายที่เห็นแตกต่างตลอดกระบวนการ
การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดอกเตอร์ปื๊ดถูกคว่ำไป อาจเกิดจากสำนึกของสปช.บางส่วนที่เป็นห่วงชาติบ้านเมือง แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่ได้เกิดจากจิตสำนึกของผู้มีอำนาจหรือผู้กำกับการแสดงของสปช.ซึ่งจำเป็นต้องตัดสินใจสั่งให้คว่ำ เพราะเห็นว่ามีเสียงคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และหากปล่อยให้ผ่านไปก็จะถูกคว่ำในขั้นการลงประชามติอยู่ดี
ทั้งนี้เดอะอ๋อยยังมองว่าการที่ประชาชนฝ่ายต่างๆ ได้ร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญเผด็จการในครั้งนี้ถือว่าไม่เสียเปล่าหรือเหนื่อยเปล่า เพราะได้ช่วยกันป้องกันยับยั้งไม่ให้ประเทศต้องถลำไปสู่วิกฤติที่ร้ายแรงไปได้ ส่วนจากนี้ไปจะทำอย่างไรกันดี การร่างรัฐธรรมนูญและการคืนประชาธิปไตยให้แก่ประชาชนควรเป็นอย่างไร คงต้องคุยกันต่อ
ตรงนั้นต่างหากที่เป็นโจทย์ใหญ่เพราะในมุมของจาตุรนต์แล้วหากจะได้รัฐธรรมนูญที่ดีก็ต่อเมื่อกระบวนการร่างเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งมาจนถึงนาทีนี้ฟังจากสิ่งที่ วิษณุ เครืองาม อธิบายกระบวนการยกร่างใหม่แล้ว ยังมองไม่เห็นภาพที่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆ เป็นการยืนยันแล้วว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นได้กลางปี 2560 เพราะกว่ากระบวนการยกร่างใหม่จนนำไปสู่การเลือกตั้ง เนติบริกรบอกไว้ชัดเจนแล้วว่ามีอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20 เดือน เข้าทางฤาษีที่ทำนายไว้ว่าแป๊ะจะอยู่อีก 3 ปีเป๊ะ ช่างแม่นเสียจริงๆ