บาทอ่อน..ฝรั่งขาย..น้ำมันลงโมนิก้าและทีมงาน

*สิ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันในเวลานี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในเงื้อมมือเฟดอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องอะไร มักมีเฟดเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประจำ หรือจะทำอะไรก็ต้องรอดูท่าทีของเฟดก่อน ฯลฯ “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่เหล่านักเล่นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า บรรยากาศการลงทุนหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิม และแก๊ปในการทำกำไรจะแคบลงเรื่อยๆ นะค่ะ


*สิ่งที่ทุกคนคิดเหมือนกันในเวลานี้คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในเงื้อมมือเฟดอย่างบูรณาการ ไม่ว่าจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องอะไร มักมีเฟดเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นประจำ หรือจะทำอะไรก็ต้องรอดูท่าทีของเฟดก่อน ฯลฯ “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่เหล่านักเล่นต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า บรรยากาศการลงทุนหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิม และแก๊ปในการทำกำไรจะแคบลงเรื่อยๆ นะค่ะ

*เนื่องจากเมื่อเรียงลำดับความสำคัญของข่าวสารที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า ปัญหาอย่างแรกที่ทุกคนมองเหมือนกันเป็นเรื่องเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศหลายภาคส่วน และยังส่งผลโดยตรงกับตลาดหุ้นไทยอีกด้วย  “โมนิก้า” ถึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างแรก เพราะค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปเรื่อยๆ หลังเสียงส่วนใหญ่มองว่า เฟดกำลังพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยกลางเดือนนี้นะซี

*อย่างที่ทราบกันดีว่า “ดอกเบี้ยขึ้น ตลาดหุ้นลง”  เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่เห็นฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมาอีก 2 พันล้านบาท และถ้านับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. ทิ้งออกมา 5 พันล้านบาท แต่ถ้านับตั้งแต่ต้นปีถล่มออกมา 9.10 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเกิดอาการติดๆ ขัดๆ ไปไหนไม่ได้สักทีนั้น มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนเล่นอึดอัดใจอย่างแรงเจ้าค่ะ

*ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกถูกถ่วงน้ำหนักด้วยหุ้นพลังงาน ย่อมเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในชะตากรรม sideway down ไปโดยปริยาย และตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังหัวทิ่มดินแบบนี้ “โมนิก้า” ก็นึกไม่ออกสักทีว่า หุ้นไทยจะขึ้นไปได้อย่างไร? วันนี้ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจการเคลื่อนไหวของดัชนีต่อจากนี้ว่าจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนพะยะค่ะ

*ขนาดหุ้นพิมพ์นิยมอย่าง JAS ซึ่งอุดมไปด้วยข่าวสารทางบวกเยอะแยะไปหมด พอเอาเข้าจริงๆ กลับไม่เป็นเหมือนกับที่วาดฝัน “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของสถานการณ์ที่ไม่เอื้อ แต่เมื่อดูจากวอลุ่มที่หนาแน่นทุกวัน ก็พอเข้าใจได้ว่า กำลังมีคนพยายามทยอยสะสมหุ้นเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.70 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3 พันล้านบาท มันธรรมดาซะที่ไหน?

*เม้าท์ถึงเรื่องไม่ธรรมดาขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” ต้องหันกลับไปมอง AJD อย่างรวดเร็ว หลังหุ้นขึ้นมาติดอันดับ 2 ในกระดาน most active ด้วยการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.73 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท หากมองในมุมของเซียนเทคนิคต้องเม้าท์ว่า รีบาวด์ ส่วนจะเป็นการเด้งขึ้นหลังจากลงแรง ต่อจากนั้นจะไปต่ออีกพักใหญ่ๆ หรือไม่? อันนี้น่าสนใจจริงๆ เพราะหุ้นวิ่งทะลุแนวต้าน 1.70 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะซี

*ส่วนอีกหนึ่งทีเด็ดของนักเล่นรอบ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง ABC จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 0.70 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท มันมาจากเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นมาเป็นเดือนแล้วว่า มีคนอยากเข้าประตูหลัง! แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สุดท้ายดันกลายเป็นวานนี้ที่มีการเล่นข่าวกันอย่างเมามันส์ แม้ผู้บริหารจะออกมาปฏิเสธ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า พวกนักเล่นจินตนาการไปถึงขั้น “ข่าวลือมักเป็นจริงเสมอ” เชื่อเดี๊ยนเถอะ!

*เหมือนกับในรายของ 2 แม่ลูก SALEE กับ SLP วานนี้ผนึกกำลังโชว์ความแข็งแกร่งอีกครั้ง และดูเหมือนจะมีกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี หุ้นแม่ถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.37 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท ส่วนหุ้นลูกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.30 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่ากระจิ๊ดริดแบบนี้..ต้องดูกันต่อไปว่าเป็น สงครามวันเดียวหรือเปล่า? เพราะก่อนหน้าสองสามครั้ง มันเป็นแบบนี้จริงๆ เจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ AUCT อาจแตกต่างจากรายข้างต้นนิดหนึ่งตรงที่ มีแรงช้อนซื้อเข้ามารับหุ้นเป็นระยะ และในบางครั้งยังโชว์สเต็ปการไล่ราคาให้เห็นอีกต่างหาก “โมนิก้า” ถึงชอบเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้บ่อยครั้ง เพราะเมื่อดูจากแรงเทขายที่กดลงมาในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ หุ้นสามารถรักษาแนวรับ 11 บาทได้อย่างเหนียวแน่น จนวานนี้เด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 12.40 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 10.70% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป้าแรก 14 บาทได้ทันทีนะคะ

*ส่วนในรายของ NDR หากมองโพสิชั่นของหุ้นแบบยาวๆ จะเห็นว่า มีแฟนคลับเข้ามาเล่นเป็นประจำ รอบขึ้นลงของหุ้นถึงเป็นแบบ w-shape โดยกรอบด้านบนอยู่แถว 5.50 บาท ส่วนรอบด้านล่างอยู่แถว 3.80 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ระดับ 4.98 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 7.80% ด้วยมูลค่า 320 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นวงรอบที่ 3 ซึ่งเกิดขึ้นในระยะเวลา 6 เดือนแบบนี้..follow buy ไปก่อนแล้วกัน..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ IRCP หุ้นไอทีที่เจ้ามือหวนกลับเข้ามาปั้นเกมรอบใหม่ พร้อมกับเปิดคอนเซ็ปต์กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผสานกับราคาหุ้นร่วงลงมากเกินไป วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.05 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่า 213 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ตั้งอยู่บนค่า P/E ที่ 14 เท่า “โมนิก้า”ถึงมั่นใจว่าจะมีการไล่ราคากันอีกยกพะยะค่ะ

*ทิ้งท้ายกันที่หุ้นภายใต้อาณัติ “เสี่ยขุน” อย่าง UWC  DIMET  RWI เพื่อให้แฟนคลับลองไปพิจารณากันดูอีกทีหนึ่งว่า นี่ใช่ทางเลือกไหม? เพราะเรื่องบางเรื่องไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรมากมาย..จริงไหม..บรรดาขาปั่นน่องเหล็กทั้งหลาย!

Back to top button