ทีเด็ดหุ้นเล็ก
*ช่วงหลัง ๆ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงหุ้นเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะต้องการสื่อให้เห็นสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นเหล่านั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนไปพร้อมกัน เดี๊ยนจึงอยากให้พื้นที่กับหุ้นเหล่านี้มากเป็นพิเศษ เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไปสืบค้นมาพบว่า มีหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กพื้นฐานแกร่งมากถึง 400 ตัวที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันต่ำกว่า 1 ล้านบาทนะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ช่วงหลัง ๆ “โมนิก้า” ชอบเม้าท์ถึงหุ้นเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะต้องการสื่อให้เห็นสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นเหล่านั้นเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนไปพร้อมกัน เดี๊ยนจึงอยากให้พื้นที่กับหุ้นเหล่านี้มากเป็นพิเศษ เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไปสืบค้นมาพบว่า มีหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กพื้นฐานแกร่งมากถึง 400 ตัวที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันต่ำกว่า 1 ล้านบาทนะจ๊ะ
*ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนอิริยาบถในการพูดถึงหุ้นเล็กมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องให้พื้นที่กับหุ้นขนาดใหญ่ตลอดเวลา เพราะของมันเห็นจน นมยาน..อุ๊ย..นมนาน มาว่า วันนี้ของเขาดี..วันหน้าของเขาก็ต้องดี เดี๊ยนถึงพยายามชี้ให้เห็นสถานการณ์ของ “หุ้นใหญ่” กับ “ตลาดหุ้น” มักล้อไปทางเดียวกันเสมอมา จึงไม่ต้องถามหาสาเหตุที่ทำดัชนีลงมายืนปิดที่ 1,513.51 จุด ลบไป 2.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.89 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นลูปเดิมที่เห็นกันมาตลอดทั้งสัปดาห์เจ้าค่ะ
*ประกอบกับมุมของสตอรี่หุ้นใหญ่ที่เอามาเล่นมีแค่เรื่องผ่านจุดต่ำสุด กับความคาดหวังเติบโตในปี 64 เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นหันมามองหุ้นเล็กที่มีทีเด็ด “กำไรโตแต่หุ้นไม่วิ่ง” “หุ้นเทิร์นอะราวด์” และ “หุ้นปันผลงาม” กันบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจะสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี “โมนิก้า” ถึงอยากพาแฟนคลับไปเจาะทุกแง่มุมของหุ้นตัวที่จะเม้าท์ถึงนะจะบอกให้
*โหมโรงก่อนใครเพื่อนมาระยะหนึ่ง และน่าจะเล่นยาว ๆ เพราะในปี 64 จะเป็นปีของการเติบโต “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น CSS ซึ่งมีสตอรี่เกี่ยวกับการรับรู้กำไรธุรกิจไฟฟ้า และยังรอลุ้นประมูลงานจากอีกหลายพันล้าน ราคาหุ้นถึงพุ่งกระฉูดต่อเนื่อง จากหุ้นที่มีค่าตัวแถว 1.40 บาท วันนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 2.52 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 69 ล้านบาท ท่ามกลางพี/อี 22 เท่าแบบนี้..น่าสนใจไหมล่ะค่ะ
*อีกรายที่ไต่ระดับขึ้นต่อเนื่อง “โมนิก้า” คงมองไปที่ม้านอกสายตาอย่าง B หลังประกาศกร้าวพร้อมเทิร์นอะราวด์ในปี 64 หลังหันมาลุยขนส่งสินค้าให้กับนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจอาหารและเวชภัณฑ์เต็มตัว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของกลุ่มมิลล์คอนแบบนี้กระมั้ง ! ราคาหุ้นถึงไต่ขึ้นจากจุดต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่ระดับ 0.30 บาท ขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 0.51 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59 ล้านบาท ส่วนจะไปต่อหรือไม่ คงขึ้นอยู่กันผลงาน..อิอิอิ
*ส่วนอีกหนึ่ง “หุ้นเล็ก จี๊ดจ๊าด” ที่เล่นกันพักหนึ่งอย่าง 7UP กลายเป็นช็อตที่ต้องมองกันยาว ๆ เช่นกัน เพราะสตอรี่ที่เอามาดันหุ้นพุ่งเป้าไปที่เรื่อง growth เพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ปีนี้ต้องตามลุ้นกันแบบน้ำลายเหนียวคอ หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 0.57 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท ท่ามกลางค่า P/E 33 เท่า มันสูงเกินไปหรือเปล่า ? นายตำรวจเก่าอย่าง “สมยศ” น่าจะรู้ดี..อิอิอิ
*สำหรับคนที่ชอบหุ้นในสไตล์ “ช้าแต่ชัวร์” คงต้องมองไปที่ INSET ภายใต้การกุมบังเหียนของคุณน้อง “ศักดิ์บวร” หลังตั้งเป้าการเติบโตของบริษัทตกปีละ 20% จนทำให้แฟนคลับจินตนาการตัวเลขกำไรในปี 64 อย่างสวยหรูแบบนี้ เดี๊ยนมองว่า ไม่ยากเกินแกงสำหรับธุรกิจที่กำลังเป็นขาขึ้น และการที่หุ้นขึ้นมาปิด 3.66 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาท ท่ามกลางค่า P/E 16 เท่า มันเหลือแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบนะคะ
*คล้ายกับกรณีของหุ้นขายปาล์มอย่างเช่น AIE อย่างไรอย่างนั้นเลย เพราะแค่มองราคาปาล์มในท้องตลาดที่ขึ้นต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้ว่า กำไรปี 63 โตเยอะ และน่าจะทำให้กำไรไตรมาส 1 ปี 64 โตเด่นอีกเช่นกัน และเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในแวดวงตลาดหุ้นว่า เมื่อธุรกิจดีขึ้นมักจัดเต็มปันผล พ่วงแจกวอร์แรนต์ในคราวเดียวกัน น้องโมเลยมองการยืนปิดที่ 0.92 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท น่าสนใจนะจ๊ะ
*ไหน ๆ ก็ดูทรงยาว ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่ KUN ภายใต้การบริหารจัดการของคุณพี่คุณา กับคุณน้องรัตน์กันสักหน่อย หลังแอบได้ยินแมงลือเม้าท์ให้แซ่ดว่า คนอยากได้บ้านย่านบางบัวทองเยอะเหลือเกิน และดูเหมือนในปี 64 ก็ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นเคยนิ่ง ๆ บริเวณ 0.90 บาทเป็นเวลานาน แต่มาวันนี้สามารถขึ้นมายืนปิดที่ 1.10 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 2.80% แบบแบบชิล ๆ เจ้าค่ะ