CPN ยุทธการรีดเงินสด.!

ในยามเกิดวิกฤติ โดยเฉพาะตอนนี้ที่โควิดทุบเศรษฐกิจทั่วโลกจนพังยับเยิน คำว่า Cash is the king หรือเงินสดคือพระเจ้า ยิ่งสะท้อนภาพชัดเจนมากขึ้น...บริษัทไหนที่มีเงินสดเยอะ เท่ากับมีสายป่านยาว สามารถประคองธุรกิจ เอาตัวรอดจากวิกฤติได้...


สำนักข่าวรัชดา

ในยามเกิดวิกฤติ โดยเฉพาะตอนนี้ที่โควิดทุบเศรษฐกิจทั่วโลกจนพังยับเยิน คำว่า Cash is the king หรือเงินสดคือพระเจ้า ยิ่งสะท้อนภาพชัดเจนมากขึ้น…บริษัทไหนที่มีเงินสดเยอะ เท่ากับมีสายป่านยาว สามารถประคองธุรกิจ เอาตัวรอดจากวิกฤติได้…

อย่างกรณี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เห็นได้ชัดว่าอาศัยช่วงจังหวะนี้ในการเติมกระแสเงินสด ด้วยการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNREIT จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวมไม่เกิน 5,672 ล้านบาท

สินทรัพย์ที่ CPN จะขายเข้ากอง CPNREIT นั้น ได้แก่ โครงการเซ็นทรัลมารีนา มีกำหนดระยะเวลาการเช่าประมาณ 15 ปี (สิ้นสุดการเช่า 30 เมษายน 2578) รวมพื้นที่เข้าลงทุน 45,149 ตารางเมตร และโครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง เป็นระยะเวลาประมาณ 21 ปี (สิ้นสุดการเช่า 16 ธันวาคม 2584) รวมพื้นที่เข้าลงทุน 45,716 ตารางเมตร

ในแง่ของกอง CPNREIT ก็จะมีขนาดสินทรัพย์ของกองใหญ่ขึ้น โอกาสที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนก็มีมากขึ้นอันนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

แต่ไฮไลต์ที่น่าสนใจอยู่ที่ CPN ซึ่งระยะสั้น 1) จะมีเงินสดเข้ามา 5,672 ล้านบาท เอาไปบริหารจัดการ เป็นหน้าตักในการรีโนเวตห้าง อาคารต่าง ๆ เพื่อรองรับการกลับมาหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย…

2)หาโอกาสในแง่ M&A หรือการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ เพราะในช่วงวิกฤติมักมี “ของดี…ราคาถูก” ให้เลือกเยอะ (บริษัทไหนที่มีกระแสเงินสดตุนไว้เยอะ ก็มักอาศัยจังหวะที่มีวิกฤติไล่ซื้อกิจการอื่น เหมือนกรณีบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ของ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่ตั้งกองทุนวงเงินสูงถึงหมื่นล้านบาท เพื่อกว้านซื้อโรงแรมที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องในยุคโควิด)

และ 3) ตุนเงินสดไว้ หากเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้…ก็มีสายป่านยาวพอที่จะเอาตัวรอดได้

โอเค…แม้โควิดระลอกใหม่ไม่ได้กระทบต่อ CPN มากนัก เพราะภาครัฐไม่ได้สั่งปิดห้างเหมือนโควิดรอบแรก แต่ก็ทำให้เกิดอาการสะดุดไม่น้อย…ล่าสุดต้องประกาศปิดห้างเซ็นทรัลป่าตอง โดยไม่มีกำหนด หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เริ่ม 1 ก.พ.นี้ หลังจากสถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเงียบเป็นเป่าสาก…ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งหัวดำและหัวทอง…

ก็น่าจับตา ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีห้างเซ็นทรัล เปิดให้บริการ 4 สาขา ประกอบด้วย เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า, เซ็นทรัล ป่าตอง (สแตนอโลน) และ ปอร์โต เดอ ภูเก็ต…CPN จะปิดสาขาอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่..? หลังจากปิดห้างเซ็นทรัลป่าตองไปแล้ว

เหล่านี้เป็นเหตุและเป็นผลที่ทำให้ CPN ต้องงัดยุทธการรีดเงินสดออกมาใช้ในจังหวะนี้…

นี่ก็แว่ว ๆ มาว่า นอกจากสองโครงการข้างต้น ยังมีโครงการเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี และโครงการเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี อยู่ในไปป์ไลน์ที่ CPN จะขายเข้ากอง CPNREIT อีกด้วย…

ก็ไม่แปลก ตอนนี้เงินสดคือพระเจ้าอะนะ…

ที่จริงถ้าพูดถึงกลยุทธ์การตั้งกองรีทแล้วขายสิทธิทรัพย์เข้ากองรีท ถือเป็นวิศวกรรมทางการเงินที่หลายบริษัททำกัน เนื่องจากเป็นช่องทางหาเงินสดที่ทำได้ง่าย และเร็ว…ซึ่ง CPN มีความถนัดในเรื่องนี้ โดยกองรีทในเครือ CPN ก็มาจากฝีไม้ลายมือของ “นริศ เชยกลิ่น” เมื่อครั้งนั่งเป็นอดีตขุนคลังให้กับ CPN นั่นแหละ…

อิ อิ อิ…

Back to top button