ได้เวลาหุ้นกลาง/เล็ก
ตัวเลขซื้อขายตลาดหุ้นไทยของกลุ่มนักลงทุนนับจากต้นปี 2564 มาถึง 27 ม.ค.
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ตัวเลขซื้อขายตลาดหุ้นไทยของกลุ่มนักลงทุนนับจากต้นปี 2564 มาถึง 27 ม.ค.
นักลงทุนสถาบันขายสุทธิแล้วกว่า 12,560 ล้านบาท
ส่วนนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 5,292 ล้านบาท
ต่างชาติเพิ่งจะมาขายแบบไม้หนัก ๆ เมื่อวานนี้เองกว่า 4,864 ล้านบาท
มาดูตัวเลขดัชนีกันซักหน่อย
จากสิ้นปี 2563 มาจนถึงวานนี้ (27 ม.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นมา 3.36% หรือจากระดับ 1,449 จุด เมื่อสิ้นปี 2563 มาอยู่ที่ 1,498 จุด (วานนี้ 27 ม.ค.)
ในช่วง 18 วัน (ทำการ) ของการซื้อขายหุ้น
ดัชนีขึ้นไปสูงสุด 1,561 จุด (13 ม.ค.) และต่ำสุด 1,468 จุด (4 ม.ค.)
ก่อนหน้านี้ ประเมินหรือคาดการณ์กันว่า
ปรากฏการณ์ของ January effect จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมนี้
January effect ก็คือ ความเชื่อที่เชื่อกันว่าตลาดหุ้นมักที่จะวิ่งเป็นขาขึ้น และเป็นบวกได้ในช่วงเดือนมกราคม (ของทุกปี)
สาเหตุหลัก ๆ มาจากการกลับมาของนักลงทุน หลังจากการหยุดยาวในช่วงเทศกาลคริสมาสต์ และเทศกาลปีใหม่ และเป็นช่วงของการขายทำกำไรก่อนจะวกกลับเข้ามาซื้อ
แต่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแต่ละที่แตกต่างกัน
เข้าใจว่า ทำให้การตัดสินใจลงทุนจึงย่อมแตกต่างกัน
ในสัปดาห์นี้เหลืออีกเพียง 2 วัน จะหมดเดือนมกราคม ต้องมาลุ้นกันว่า ต่างชาติ จะขายต่อหรือซื้อกันล่ะ
เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่เป็นประเภทกองทุน จะกลับมาซื้อด้วยหรือไม่
หากติดตามตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2563 หุ้นไทยวิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นำโดยหุ้นในกลุ่ม SET50
ทั้งกลุ่มธนาคาร สื่อสาร หุ้นขนาดใหญ่ต่างถูกต่างชาติไล่ซื้อกับสนุกสนาน
จึงไม่น่าแปลกอะไร หากต่างชาติจะขายทำกำไรออกมาบ้าง
หุ้นในขนาดใหญ่ใน SET50 ที่วิ่งขึ้นมา
พบว่า หลายตัวเต็มมูลค่า และเกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว
จึงมีคำแนะนำให้ระวังการเข้าหุ้นขนาดใหญ่เหล่านี้ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563
เช่น PTT ที่ราคาหุ้นขึ้นไปสูงสุดของปีนี้ 45.00 บาท ส่วนล่าสุดลงมาเหลือ 39.25 บาท เปลี่ยนแปลง -12.77% และน่าจะมีส่วนกดดัชนีลงมาพอสมควร
AOT นับจากต้นปี ขึ้นไปสูงสุด 65.25 บาท วานนี้ปิด 60.25 บาท เปลี่ยนแปลง -7.66%
หุ้นใน SET50 อีกหลายตัวที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้ ก็มีสภาพไม่ได้แตกต่างไปจาก PTT และ AOT ซักเท่าไหร่
มีคำถามว่า ต่างชาติ และกองทุนขายออกมาแบบนี้ “รับดีไหม”
คำตอบ คือ นักวิเคราะห์แนะนำให้ “เลี่ยง” ไปก่อน เว้นแต่บางตัวที่ดูแล้วราคาลงมาต่ำกว่าพื้นฐานค่อนข้างมาก และอนาคตยังดูดี ไปได้ ก็ให้ทยอยสะสม
แต่หากจะให้ปลอดภัยจริง ๆ แนะนำให้หันมาช้อปหุ้น “กลาง-เล็ก” ที่ราคายังแลกการ์ดตลาด
และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2563 ออกมาดี
และน่าจะดีต่อเนื่องในปี 2564
จะเห็นว่าหุ้นขนาดกลาง เล็ก ราคาหุ้นเริ่ม ๆ ขยับกันบ้างแล้ว
โบรกฯ แต่ละแห่งต่างออกบทวิเคราะห์หุ้นกลาง เล็กที่ตนเองชื่นชอบ หรือมองว่ามีปัจจัยบวกเฉพาะตัวมาแนะนำกัน
แต่ก็มีหุ้นกลาง เล็กหลายตัวที่ราคาพยายามจะขึ้น แต่ไม่ยอมขึ้น ทั้งที่มีปัจจัยบวกหนุน
เหตุน่าจะมาจาก “เจ้ามือ” ดึงไว้ เก็บของไปเรื่อย ๆ หากรายย่อยคนไหนเข้าไปแล้ว ทนได้ ก็ทนถือไป ใครทนไม่ได้ก็ต้องขายและ เมื่อเจ้ามือดูแล้ว รายย่อยเริ่มขายออกจากพอร์ต หรือตนเองตุนหุ้นไว้ค่อนข้างเยอะแล้ว
ก็จากกระชากฝั่ง Offer แบบ “รวบช่อง” ขึ้นไปเลย
หุ้นกลาง เล็กตัวท็อป ๆ หลายตัว ต่างมีเจ้ามือคุมอยู่
ต้องหาจังหวะเข้า และออกกันดี ๆ