สรรหาสีดำที่กสทช.
ผมเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของผู้ได้รับการคัดเลือก 2-3 คน ที่เคยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท เพลย์เวิร์ค อันเป็นบริษัทที่ฟ้องร้องกสทช.และอสมท เป็นเงินตั้ง 1.7 หมื่นล้านบาทให้เยียวยาโครงการเคเบิลทีวีดิจิทัลอันไม่มีใครรู้จักกันเลย
ขี่พายุ ทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
8 ปีของฐากร ตัณฑสิทธิ์ ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ คือบุรุษผู้ถือดุลแห่งการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ยุคเทคโนโลยี 3จี- 4จีจนมาถึงยุค 5จี ที่บรรจุรวมเอาระบบคอมพิวเตอร์และระบบโทรคมนาคม มาไว้ในโทรศัพท์มือถือที่เดียวอย่างสมบูรณ์แบบ
ผ่านยุคโบราณ 1จี -2จีมา กว่าจะได้เข้าสู่ยุค 3จี สปป.ลาว ก็มี 4จีไปแล้ว พอไทยเข้าสู่ยุค 4จีได้ ใช้เวลาไม่นานก็ผลักดันสู่ยุค 5จีได้ และกลายเป็นชาติแรกในอาเซียนที่เข้าสู่เทคโนโลยี 5จีเชิงธุรกิจ สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจแนวใหม่ให้กับประเทศชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ
8 ปีของเลขาฯ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ ได้สะท้อนเจตนารมณ์ขององค์กรกสทช.ให้เป็นองค์กรที่ผลักดันความก้าวหน้า เสรี เป็นธรรม และโปร่งใส ตลอดจนการรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
การประมูลคลื่น 4จีและ 5จี ได้นำส่งรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่า 4.5 แสนล้านบาท ประชาชนได้มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้อย่างทั่วถึงแม้อยู่ตามป่าตามดอย และทลายกำแพงค่าโทรศัพท์ไม่เป็นธรรม ที่มีทั้งอัตราตจว.และกทม.ให้เป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ
ทว่า! โพรไฟล์ขนาดนี้ของฐากร ตัณฑสิทธิ์ ยัง “สอบตก” ไม่ผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาบอร์ดกสทช.รวมทั้งข้อเคลือบแคลงในตัวผู้ได้รับการคัดเลือกเต็มไปหมด ราวกับ “มีธง” ในการตัดสิน
ดูเอาแล้วกัน ผลงานคัดเลือกผู้สมัคร 14 รายชื่อ 7 ด้าน ๆ ละ 2 คน นำเสนอไปให้วุฒิสภาคัดเลือกเหลือ 1 คนในแต่ละด้าน ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลที่มีผลงานหรือเป็นที่รู้จักมากน้อยเพียงใด ขอเชิญทัศนากันเอาเอง
- ด้านกิจการกระจายเสียง พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ อดีตผบ.ทอ. และนางอรษา มุขเตียร์ เปอร์ตี้ ที่ปรึกษามูลนิธิคนพิการไทย
- ด้านกิจการโทรทัศน์ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต อาจารย์ประจำภาควิชาวารสารสนเทศ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และน.ส.จินตนันท์ ชญาต์รศุภมิตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ
- ด้านโทรคมนาคม นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม และนายอธิคม ฤกษบุตร อาจารย์ในสาขาวิชาวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
- ด้านวิศวกรรม นายอานนท์ ทับเที่ยง ประธานสาขาการจัดการธุรกิจดิจิทัล (ประธานสาขาการจัดการโทรคมนาคมและบรอดคาสติ้ง) และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
- ด้านกฎหมาย นายจิตรนรา นวรัตน์ อดีตผู้ตรวจอัยการ และ ร.ท.ธนกฤษฎ์ เอกโยคยะ ผู้ชำนาญการบมจ.ท่าอากาศยานจำกัด (มหาชน)
- ด้านเศรษฐศาสตร์ นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการกสทช.สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ และนายอารยะ ปรีชาเมตตา ศาสตราจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ด้านการคุมครองผู้บริโภคหรือส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน พล.ต.ท.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายต่อพงศ์ เสลานนท์ ที่ปรึกษาประจำรองประธานกสทช.
โนเนมเยอะไปหน่อย ที่พอจะมีชื่อเสียง เห็นจะมีสัก 2 คนได้ในจำนวน 14 คน แต่ก็ไม่มีผลงานที่ชัดเจนตรงกับสาขาที่สมัคร
หนังตัวอย่างจากกรณีอดีตผบ.ทอ.ซึ่งรับการกลั่นกรองด้านกิจการกระจายเสียง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวัดจากอะไร วัดจากการมีคลื่นวิทยุทอ.ในกำกับหรือ ก็ไม่ปรากฏว่าลงไปกำกับจนมีผลงานเด่นชัดอะไรนะ และหากจะเอาไปเปรียบเทียบกับฐากร ตัณฑสิทธิ์ ซึ่งโดนกรรมการเล่นงานว่าบริหารคลื่นวิทยุ 1 ป.ณ.ซึ่งเป็นวิทยุสาธารณะและติดมากับกรมไปรษณีย์ฯ ก็ดูจะไม่แฟร์นะ
2 มาตรฐานเลยเชียวแหละ
ในปัญหาด้านคุณสมบัติ ทั้งในเรื่องของการมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 10 ปีในกิจการด้านนั้น ๆ และการต้องพ้นจากการประกอบธุรกิจด้านกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคมมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ซึ่งบุคคลผู้มี “คุณสมบัติต้องห้าม” ก็ควรจะถูกตีตกก่อนเข้าแสดงวิสัยทัศน์ด้วยซ้ำ
แต่นี่ผู้สมัครทั้ง 80 คน ที่ขาดคุณสมบัติ กลับได้รับโอกาสเข้าแสดงวิสัยทัศน์ ส่วนที่ถูกตีตกก็ตกไป แต่หลายคนยังได้รับการคัดเลือกให้ส่งรายชื่อไปให้วุฒิสภาเห็นชอบเสียอีก
นี่ก็แหวกจารีตดั้งเดิมของการคัดเลือกกสทช. ที่จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติหลังการสมัคร ก่อนประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าแสดงวิสัยทัศน์
ผมเห็นเงาตะคุ่ม ๆ ของผู้ได้รับการคัดเลือก 2-3 คน ที่เคยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัท เพลย์เวิร์ค อันเป็นบริษัทที่ฟ้องร้องกสทช.และอสมท เป็นเงินตั้ง 1.7 หมื่นล้านบาทให้เยียวยาโครงการเคเบิลทีวีดิจิทัลอันไม่มีใครรู้จักกันเลย และบัดนี้ก็รับเงินเยียวยาก้อนแรกไปแล้วกว่า 70 ล้านบาท ยังจะมาฟ้องร้องเพิ่มวงเงินเยียวยาขึ้นอีก
ประการสำคัญคือฟ้องร้องกสทช.และอสมท เสียด้วย คนแบ็คอัพไม่รู้เป็นใครใหญ่แค่ไหน
น่าห่วงว่าจะมี “มือที่มองไม่เห็น” จัดแถว 7 อรหันต์กสทช.ชุดใหม่ เพื่อประโยชน์นอกเหนือภารกิจโดยชอบของกสทช.เสียจริง ๆ