B52 วิ่งหาโอกาส.!?

ไม่แน่การได้วันดิจิตอลเน็ตเวิร์คเข้ามาอยู่ในพอร์ตอาจช่วยหนุนการเติบโตของ B52 ได้ไม่มากก็น้อย แต่จะถึงขั้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ภายในปีนี้ได้อย่างที่คาดหวังหรือเปล่า..? อันนี้ต้องดูกันยาาาวววว....


สำนักข่าวรัชดา

บริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 เป็นอีกบริษัทที่พยายามร่อนตะแกรงหาธุรกิจหลักมาหลายปีแล้ว ทั้งในแง่การเพิ่มทุน ปรับโครงสร้างธุรกิจ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายรอบ…

ไล่มาตั้งแต่ปี 2521 ภายใต้ชื่อบริษัท บางกอก ไนล่อน จำกัด (มหาชน) หรือ BNC ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงเท้าทั้งในและต่างประเทศ แต่เจอวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ทำให้ BNC มีปัญหาการเงิน ธุรกิจจึงหยุดชะงักไป

ต่อมาปี 2556 เปลี่ยนอีกครั้งเป็นบริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC หันมาทำ “ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” ก็ไปไม่รอด

กระทั่งปี 2560 หุ้น ABC ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดิจิตอลเทค แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ DIGI พร้อมกับรุกไปสู่ธุรกิจอี-เพย์เมนต์ และอี-คอมเมิร์ซ

ให้หลังมา 2 ปี ก็เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นบริษัท บี-52 แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ B52 ในปัจจุบัน

เรียกว่าเปลี่ยนชื่อบ๊อยบ่อยจนนักลงทุนแทบจำเค้าโครงเดิมหุ้นตัวนี้ไม่ได้แล้วละมั้ง…

สิ่งที่น่าคิด แม้กลายพันธุ์มาหลายรอบแล้ว แต่บรรทัดสุดท้ายของ B52 ก็ยังขาดทุนเหมือนเดิม…โดยปี 2560 มีรายได้ 85 ล้านบาท ขาดทุน 168 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้ 844 ล้านบาท ขาดทุน 319 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้ 35 ล้านบาท ขาดทุน 76 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2563 มีรายได้ 27 ล้านบาท ขาดทุน 45 ล้านบาท

ขนาดใช้ตะแกรงร่อนก็แล้ว กระชอนก็แล้ว แต่ B52 ก็ยังแก้โจทย์ตรงนี้ไม่ได้สักที…น่าเห็นใจจริง ๆ

ล่าสุดเอาอีกแล้วคร้าาบท่าน…จะเข้าไปลงทุนในบริษัท วันดิจิตอลเน็ตเวิร์ค จำกัด (ONE) ซึ่งดำเนินธุรกิจขายโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ checkraka.com และผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยจะใช้วิธีออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 250 ล้านหุ้น ขายที่ราคา 0.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อไปแลกกับบริษัท ไทยดิจิตอลเวนเจอร์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในวันดิจิตอลเน็ตเวิร์ค…

นั่นแปลว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้ B52 ก็ไม่ต้องควักเงินสดจ่ายนะสิ…แต่ในแง่ผู้ถือหุ้นเดิมจะเกิดไดลูชั่นแอฟเฟ็กต์จากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ต้องยอมรับชะตากรรม…ดีกว่าต้องใส่เงินเพิ่มทุนแหละน่า (ครั้นจะใช้กระแสเงินสดของบริษัทก็มีจำกัด โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2563 B52 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 43.54 ล้านบาท ยิ่งในยามที่ไม่ปกติเช่นนี้ การเก็บเงินสดไว้น่าจะดีสุด…ใช่ปะล่ะ)

ขณะที่ถ้าดูผลประกอบการวันดิจิตอลเน็ตเวิร์ค ช่วง 5 ปีย้อนหลังก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร…ปี 2558 มีรายได้รวม 40 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 37 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 38 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 37 ล้านบาท แต่พลาดท่าพลิกมาขาดทุน 4 ล้านบาท และปี 2562 มีรายได้รวม 42 ล้านบาท กำไร 717,958 บาท

ไม่แน่การได้วันดิจิตอลเน็ตเวิร์คเข้ามาอยู่ในพอร์ตอาจช่วยหนุนการเติบโตของ B52 ได้ไม่มากก็น้อย…แต่จะถึงขั้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ภายในปีนี้ได้อย่างที่คาดหวังหรือเปล่า..? อันนี้ต้องดูกันยาาาวววว….

ที่แน่ ๆ นี่คงไม่ใช่ธุรกิจสุดท้ายที่  B52 จะร่อนตะแกรงหาหรอกนะ อาจจะมีธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มเติมอีก…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button