เม่าครองตลาด (เล็ก)

เอาจริง ๆ “โมนิก้า” ไม่ได้กังวลกับการขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีมากนัก เพราะทราบกันดีว่า ทั้งหลายทั้งปวงเป็นผลมาจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนของ “ฝรั่ง” กับ “กองทุนตัวจี๊ด”


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เอาจริง ๆ “โมนิก้า” ไม่ได้กังวลกับการขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีมากนัก เพราะทราบกันดีว่า ทั้งหลายทั้งปวงเป็นผลมาจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนของ “ฝรั่ง” กับ “กองทุนตัวจี๊ด” ผสานกับดัชนี “ดาวน์โจนส์” ยังเป็นตัวชี้นำตลาดหุ้นทั่วโลก ผลที่ออกมาเลยเถิดเทิงอย่างที่เห็นกันนี่แหล่ะ! เดี๊ยนถึงเข้าใจเหตุผลที่หุ้นบลูชิพโดนลากโดนทุบตลอดทั้งสัปดาห์ และปัจจัยดังกล่าวก็ยังมีอิทธิพลมาถึงทุกวันนี้พะยะค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ยังโล่งใจได้นิดหนึ่งว่า แมงเม่าไทยยังมีทางเลือกการลงทุนที่ปลอดแรงขายนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนมาก สัปดาห์ที่ผ่านมาถึงเห็นแมงเม่าออกมาโชว์ป๋ากันเป็นแถว พร้อมโชว์ซื้อสวนภาวะตลาดหุ้นแดงเถือกแบบไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ โมนิก้า” รู้สึกเอ็นจอยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเรื่องดังกล่าวเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ไม่มีอะไรต้องกลัวนะตัวเอง

*ฉะนั้นการที่ดัชนีลงมาปิดที่ 1,466.98 จุด ลบไป 1.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.57 หมื่นล้านบาท คงไม่ต่างไปจากก่อนหน้านี้ และถ้ามองท่าทีของแมงเม่าที่หันไปลุยหุ้นกลางเล็ก ล้วนเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนนึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ในยุคที่หุ้นเล็กเรืองรองอำนาจ และปล่อยให้หุ้นใหญ่เคาะกันเปาะแปะเป็นเวลาหลายเดือนขึ้นมาในทันที เนื่องจากสถานการณ์ในตอนนี้มันคล้ายคลึงกันเสียเหลือเกินเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะในรายของหุ้นเล็กที่ขึ้นมาใหญ่ (ย้ายจากเอ็มเอไอมาอยู่เซ็ท) JKN ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊แอน” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจสุด ๆ เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ทำให้โลกตะลึงไม่ใช่น้อย และเมื่อดูจากการเคาะสวนตลาดหุ้นที่แดงอ่อน ๆ เดี๊ยนตีความได้ทันทีว่า รายใหญ่กับแมงเม่าลุยหนักเจ้าค่ะ

*คล้ายกับในมุมของหุ้น CHAYO โตวันโตคืนก็มาจากฝีมือของ “เฮียอั๋น” ที่พยายามดันโปรเจกต์ต่างๆ เพื่ออัพเลเวลแบบสุดซอย จนหุ้นขยับจากราคาที่ย่ำต๊อกต๋อยแถว 8 บาท ขึ้นมาทำจุดสูงสุดที่ระดับ 11.20 บาทเมื่อวันก่อน  ขณะที่ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 11.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่เดี๊ยนอยากให้แฟนคลับลองไปตามดูข้อมูลกันว่า น่าสนใจอะป่าว?

*ส่วนรายที่มาแรงแซงทางโค้ง และเคาะกันยาวเป็นเดือน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น ZIGA  เป็นตัวเลือกแรกของการเม้าท์แตกในเที่ยวนี้ เพราะถ้าย้อนกลับไปในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ราคาหุ้นขยับขึ้นจากระดับ 2.30 บาท แต่ล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 4.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 9.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท กลายเป็นช็อตที่ต้องคิดหนักสุด ๆ หลังหุ้นขึ้นมาแตะเป้าที่วางไว้แล้วนะซี

*สำหรับรายที่เริ่มดันอย่างจริงจัง น่าจะโฟกัสไปที่หุ้นตัวจิ๋วอย่าง ALL แบบไม่ลังเลใจ เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.40 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท พร้อมกับแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า บวก 5 วันติด “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แถมช่วงหลังวอลุ่มมาแน่นทุกวัน จึงกลายเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ AIE มีวอลุ่มซับพอร์ตเข้ามาเรื่อย ๆ ตามประสาหุ้นเทิร์นอะราวด์ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นหุ้นที่ต้องเอ่ยถึงบ่อย ๆ เพราะเมื่อมองดูรูปแบบการยกฐานสูงขึ้นเรื่อย ๆ ผสานกับวอลุ่มซื้อที่มีเข้ามาไม่ขาดสาย “โมนิก้า” ย่อมมองการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 0.94 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท คือจังหวะที่แฟนคลับขาลุยต้องตามไปดูอีกเช่นกันค่ะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น SONIC ขึ้นมาทันทีอีกเช่นกัน โดยเฉพาะในมุมของไซเคิลธุรกิจปี 64 ที่ทุกคนเชื่อว่า มาดีสุดๆ ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่นักเล่นต้องกระโจนใส่ตั้งแต่เนิ่น ๆ บวกกับเมื่อสำรวจหุ้นโลจิสติกส์ตัวอื่น ที่วิ่งขึ้นไปก่อน เทียบกับการวิ่งของหุ้นตัวนี้ล่าสุด ล้วนเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นน่าจะไปต่อได้สบาย ๆ เพราะราคาปิดที่ 1.84 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21 ล้านบาท เป็นการเทรดบน PE 22 เท่าเอง! ซึ่งเป็นระดับที่ลงทุนได้สบาย ๆ สำหรับหุ้นที่มี growth นะจ๊ะ

Back to top button