แพ้ซักฟอกฉีกเป็นริ้ว
รัฐบาลชนะโหวต แต่แพ้ในสายตาประชาชน 10 รัฐมนตรีได้คะแนนไว้วางใจ แต่ไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดว่าคนในเลื่อยขากันเอง
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
รัฐบาลชนะโหวต แต่แพ้ในสายตาประชาชน 10 รัฐมนตรีได้คะแนนไว้วางใจ แต่ไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัดว่าคนในเลื่อยขากันเอง
พรรคฝ่ายค้านได้คะแนนเต็ม 10 นำเสนอข้อมูลทั้งเก่าและใหม่อย่างเป็นระบบ ประกอบเหตุผลหลักฐานชัดเจน รัฐบาลได้แต่อ้างว่าซื่อสัตย์ “ไม่มีนโยบายทุจริต” แต่หักล้างแก้ต่างไม่ได้ ประยุทธ์โบ้ยให้ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม
โธ่ถัง อภิปรายไม่ไว้วางใจคือตรวจสอบทางการเมือง ประชาชนคนฟังคือผู้พิพากษา บางเรื่องอาจเอาผิดไม่ได้ในศาล แต่ฝ่ายค้านโยงให้เห็นความไม่ชอบมาพากล รัฐบาลแก้ต่างไม่ได้ อธิบายไม่ได้ ประชาชนก็ตัดสินไปแล้ว
เช่น ทุจริตถุงมือยาง 2 พันล้าน แม้ย้ายอดีต ผอ.อคส. แต่ไม่รีบตามเงินคืน ไม่ปลดบอร์ด สอบสวนล่าช้า ฝ่ายค้านแฉว่าประธานบอร์ดเป็นคน ปชป. หัวหน้า ปชป.อ้างว่ารัฐมนตรีเป็นแค่บุรุษไปรษณีย์
แบบนี้ขึ้นศาลอาจรอด ไม่โดนข้อหาปล่อยปละละเลยให้ทุจริตแบบยิ่งลักษณ์ แต่ประชาชนเชื่อหรือไม่ ก็รู้แก่ใจ
หรือรัฐมนตรีศึกษาผลักดันคนสนิทตัวเองเป็นเลขา สกสค.ดูแลเงินสวัสดิการครูเป็นหมื่น ๆ ล้าน ทั้งที่ขาดคุณสมบัติ ขึ้นศาลอาจแถได้ว่าไม่เกี่ยว เป็นไปตามระเบียบราชการ แต่ครูเป็นแสน ๆ จะไว้วางใจให้ถือเงินสวัสดิการหรือไม่
เช่นเดียวกับ “ตั๋วช้าง” ที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น คงไม่สามารถเอาผิดใคร รังสิมันต์ โรม ต่างหาก อาจมีภัย จนบอกว่า “อันตรายที่สุดในชีวิต”
ฝ่ายค้านประสบความสำเร็จในการเปิดโปงรัฐบาล กระทั่ง “สลิ่ม” ยังอึ้ง นี่หรือผลงานรัฐประหาร “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ซ้ำยังกระทุ้งไปถึง “รัฐพันลึก” กองทัพ IO และกลุ่มทุนรัฐประหาร เช่นทุนพลังงาน
นอกจากนั้นยังทิ้งปมให้รัฐบาลต้องแก้ เช่นจะเอาอย่างไรกับประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว จะเล่นง่ายแบบต่อสัญญา BTS ถึงชาติหน้าคงไม่ได้
รัฐบาลชนะโหวต แต่จะถูกรุกต่อ ด้วยคำถามจากสังคมในประเด็นต่าง ๆ ที่คาใจ แน่ละ ประยุทธ์ไม่ยุบสภาไม่ลาออก แต่จะแก้ปัญหาด้วยการปรับ ครม.ก็ยาก เพราะไม่สามารถเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อเจาะดูผลคะแนนแม้รัฐมนตรีผ่านทุกคน ยังเห็นภาพจงใจไม่ลงให้กัน ทั้งในพรรคและข้ามพรรค
กลุ่มดาวฤกษ์ 6 ส.ส.แหกมติ พปชร. ไม่โหวตให้ศักดิ์สยาม ยังเป็นเรื่องเล็กเมื่อเทียบกับ 2 กบฏ ปชป. ไม่โหวตให้รัฐมนตรีทุกคน ไม่เว้นหัวหน้าพรรคตัวเอง
หนักกว่านั้นคือข่าวประยุทธ์เหน็บธรรมนัส คะแนนมากกว่าก็มาเป็นนายกฯ เมื่อไล่ดูผลโหวตพบว่า ประยุทธ์ได้ 272 ธรรมนัส 274 เท่า “หลวงพ่อป้อม” โดยมี ส.ส.เพื่อไทย 2 คนที่แหกมติพรรคซ้ำซาก มาโหวตให้ธรรมนัส-ประวิตรแต่ไม่โหวตให้ประยุทธ์
พอไปดูผลโหวตณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้น้อยที่สุด 258 คะแนน สุชาติ ชมกลิ่น 263 คะแนน ยังพบว่า ส.ส.รัฐบาลพรรคเล็กสลับกันโหวตไม่ไว้วางใจและงดออกเสียง
พลังประชารัฐคงด่าไม่ได้เพราะไม่ใช่คนของตัว แต่ใครคือ “ผู้จัดการ” พรรคเล็กจนมีคำศัพท์ “แจกกล้วย”
ภาพรวมรัฐบาลยังไม่แตกกัน แต่ฉีกกันเป็นริ้ว อาจมีผลต่อเก้าอี้รัฐมนตรีบางคน ขณะที่ภาพลักษณ์โดยรวมย่ำแย่
ฝ่ายค้านแม้มี “งูเห่า” เพิ่ม แต่ภาพรวมแท็กทีมกลมเกลียว ไม่ขัดขากันเองเหมือนปีที่แล้ว เนื้อหาอภิปรายก็แน่นทั้งเพื่อไทยก้าวไกล สร้างผลงานคู่เคียงกัน แม้เห็นชัดว่าเพื่อไทยไม่แตะ “เพดาน” ปิดปากสนิทเรื่องแก้ 112 แต่ก็หนุนเสริมสอดรับกันในด้านอื่น
การเคลื่อนไหวนอกสภาที่เริ่มกลับมานับหนึ่ง แม้ยังไม่พีคเท่าปลายปีที่แล้ว ก็จะเพิ่มแรงเหวี่ยง อย่างน้อยม็อบวันที่ 19-20 ก็ประสบความสำเร็จ ในแง่สามารถชุมนุมหน้ารัฐสภาอย่างสันติ ปูทางการชุมนุมต่อเนื่องในแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นั่นคือหลังอภิปราย รัฐบาลแพ้ ฉีกกันเอง พลังต่อต้านกลับมาคึกคัก