พาราสาวะถีอรชุน

เป็นภาพย้ำอย่างดีว่า เสียงที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคสช.ไม่ว่าจะโดยหวังดีหรือไม่ก็ตาม หากไม่ถูกใจและเป็นผลให้ภาพลักษณ์ของท่านผู้นำและคณะเสียหายดูตกต่ำ เป็นต้องถูกเรียกไปปรับทัศนคติทุกราย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่ามาตรการจะเข้มข้นขึ้น จากเดิมที่ถูกเรียกเช้าปล่อยเย็นแต่รายของ พิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยที่ถูกเรียกตัวไปตั้งแต่วันพุธยังไม่ได้รับการปล่อยตัว


เป็นภาพย้ำอย่างดีว่า เสียงที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคสช.ไม่ว่าจะโดยหวังดีหรือไม่ก็ตาม หากไม่ถูกใจและเป็นผลให้ภาพลักษณ์ของท่านผู้นำและคณะเสียหายดูตกต่ำ เป็นต้องถูกเรียกไปปรับทัศนคติทุกราย แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่ามาตรการจะเข้มข้นขึ้น จากเดิมที่ถูกเรียกเช้าปล่อยเย็นแต่รายของ พิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยที่ถูกเรียกตัวไปตั้งแต่วันพุธยังไม่ได้รับการปล่อยตัว

ยืนยันมาเองจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นักการเมืองพรรคการเมืองที่ออกมาพูดวันนี้ ไม่มีใครพูดได้แต่ตนก็ให้พูดหรือจะเขียนโซเชียลมีเดีย แต่ต่อต้านตรงๆไม่ได้ ไม่มีใครเขายอม นี่ถือว่าให้โอกาสเยอะแล้ว ก่อนที่จะตอบคำถามนักข่าวว่านอกจากมาตรการยึดหนังสือเดินทางและควบคุมตัวในค่ายทหารแล้ว ต้องเอาพลาสเตอร์ปิดปาก ก่อนที่จะออกตัวว่า ต้องให้คณะทำงานกันไป ตัวเองไม่ต้องสั่งทุกเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเป็นคิวของ การุณ โหสกุล อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่ถูกเรียกตัวไปควบคุมไว้ที่มทบ. 11 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้แกนนำพรรคนายใหญ่หลายราย อาทิ จาตุรนต์ ฉายแสง ภูมิธรรม เวชยชัย ต้องออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว โดยในรายเดอะอ๋อยมองตามประสานักประชาธิปไตยที่เข้มข้นว่า การจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกของคนคนหนึ่งก็คือการจำกัดเสรีภาพของคนทั้งหลายในสังคม

ข้อเท็จจริงที่หลายฝ่ายน่าจะเห็นตรงกันนั่นก็คือ ความเห็นของพิชัยที่ผ่านมาเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองอย่างมาก การวิจารณ์นโยบายและการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นตามหลักวิชาการและหลักการบริหาร หลายๆ เรื่องพิสูจน์แล้วด้วยซ้ำว่า พิชัยพูดไว้ถูกต้อง ถ้าทำตามนั้นคงลดความเสียหายไปได้ไม่น้อย แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดใจรับฟัง

เมื่อเป็นเช่นนั้นการจำกัดอิสรภาพพิชัยเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลไม่ต้องการฟังความเห็นต่าง และไม่ต้องการให้ประชาชนรับรู้ความเห็นที่หลากหลาย ซึ่งจะส่งผลเสีย ถ้าผู้บริหารประเทศเลือกที่จะฟังแต่ความเห็นที่ตรงกับตนเองเพียงอย่างเดียวแล้ว ผู้ใกล้ชิดก็จะไม่กล้าทักท้วง เมื่อเป็นเช่นนั้นยิ่งจะพากันเข้ารกเข้าพงไปใหญ่

ข้อเท็จจริงอีกประการก็คือ การปิดกั้นความเห็นต่างยังจะกระทบต่อความน่าเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ ต่อนโยบายและการแก้ปัญหาด้วย เพราะข้อมูลที่ให้โดยรัฐฝ่ายเดียวไม่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างที่เพิ่งผ่านไปได้แก่การคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ก็เป็นผลอันเนื่องมาจากกระบวนการยกร่างไม่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น เมื่อจะยกร่างกันใหม่ย่อมใช้เวลานานและเป็นไปได้ว่าจะยืดโรดแมปออกไปอย่างไม่มีกำหนด

ดังนั้น จึงสันนิษฐานได้ว่าการที่ผู้มีอำนาจต้องหันมาเล่นบทโหด ใช้มาตรการเด็ดขาดในห้วงนี้ เป็นเพราะผลแห่งความล้มเหลวจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับดอกเตอร์ปื๊ด จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในหลายประการ ขณะเดียวกันก็จะไม่ได้เป็นการเปิดช่องให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกมาวิจารณ์ชี้นำสังคม แต่ดูแนวโน้มคนในซีกเพื่อไทยน่าจะมีโอกาสถูกเรียกเข้าค่ายทหารอีกหลายราย

หันไปมองการคัดสรรตัวบุคคลที่จะมานั่งเป็นคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 21 ราย การปรากฏชื่อของ มีชัย ฤชุพันธุ์ และ อานันท์ ปันยารชุน น่าจะเป็นการหยั่งเชิง โยนหินถามทางต้องอาศัยคนที่มีต้นทุนสูงมาซื้อใจกันไว้ก่อน แต่เมื่อย้อนกลับไปฟังคำพูดของ วิษณุ เครืองาม ที่ว่า“พี่น้องจะไม่ยึดเมืองกันเอง” ก็น่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีชัยน่าจะโซย์เน

เนื่องจากสายสัมพันธ์ระหว่าง มีชัย วิษณุ และ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเหมือนพี่-น้อง ที่มีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญในอดีตกันมา เมื่อร่างรัฐธรรมนูญชุดบวรศักดิ์ถูกคว่ำ พี่-น้องจึงไม่น่าจะเข้ามารับงานที่เป็นเหมือนการตบหน้ากันเอง แม้มีชัยจะมีสถานะเป็นสมาชิกคสช.ก็ตาม

สำหรับอานันท์ในฐานะผู้ดีรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นอดีตนายกฯสองสมัย และเคยได้ฉายา “หอยลืมเปลือก” อันเนื่องมาจากการไม่ยอมฟังคำสั่งของคณะยึดอำนาจเมื่อปี 2534 ที่แต่งตั้งมา บวกกับศักดิ์ศรีของการร่วมยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ถือว่าเป็นฉบับประชาชนอย่างแท้จริงนั้น ด้วยต้นทุนสูงขนาดนี้จึงเชื่อได้ว่า น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะตอบรับการทาบทามจากคสช.

กระนั้นก็ตามยังมีชื่อของ อมร จันทรสมบูรณ์ กรรมการสภาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้าว่าจะเข้ามานั่งเป็นประธานกรรมการยกร่างคนใหม่ แต่ก็มีเสียงกระซิบเตือนมาว่า ให้ดูบทเรียนจากบวรศักดิ์เป็นสำคัญ ขนาดทำงานแบบถวายหัวไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น เพราะคิดว่านั่งอยู่บนเรือแป๊ะอย่างอุ่นใจ สุดท้ายกลับถูกถีบให้ลอยคอกลางทะเล จนต้องมาไล่แจกพระรุ่นไม่รับร่างเป็นการแก้อาการหน้าแหก

ดังนั้น คนที่จะเข้ามาใหม่คงต้องคิดกันให้หนักจะยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างไรเพื่อให้ถูกใจแป๊ะแต่ขณะเดียวกันก็จะต้องไม่ให้เกิดกระแสต่อต้าน ยิ่งรอบนี้หลังจากยกร่างเสร็จจะต้องส่งไปเข้าสู่กระบวนการประชามติ อันเป็นเสียงของมหาชนโดยตรง คงต้องรอบคอบ เพราะข้อเท็จจริงหนีไม่พ้นหลังที่พิงหากไม่ยึดโยงกับประชาชนโอกาสที่จะถูกปฏิเสธย่อมมีสูง

ปัญหาความขัดแย้งที่สำคัญของบ้านเมืองตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่เกิดจากการใช้หลักประชาธิปไตยแบบแถไถไม่เป็นสากล มีเรื่องสองมาตรฐาน ตัดสินหลายๆ เรื่องโดยไม่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม หากยังเดินย่ำรอยเดิมก็ยากที่จะเห็นความปรองดองและปฏิรูปบ้านเมืองให้ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการยกร่างชุดใหม่จึงมีเดิมพันสูง

ร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกคว่ำจึงเป็นตัวอย่างที่สำคัญว่า แม้บ้านเมืองจะมีปัญหาแต่ประชาชนคนส่วนใหญ่ก็ไม่อาจยอมรับกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตยได้ มากไปกว่านั้นคือ ต้องไม่บังคับให้คนคิดเหมือนกันหรือทำตามสิ่งที่ผู้มีอำนาจชี้นิ้วอยากจะให้เป็น ความสันติสุขจะกลับคืนมาก็ต่อเมื่อมีการยอมรับความเห็นที่แตกต่างและมองเห็นคุณค่าของเสียงประชาชนที่ต้องเท่ากัน ไม่ทำลายหลักการว่าด้วยเสียงข้างมากตามครรลองประชาธิปไตยที่อารยประเทศยอมรับกัน

Back to top button