1,380..จุดเด้ง!โมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของหุ้นหลายตัวค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางตัวทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง บางตัวออกทะเลไปไกล ล้วนเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นักเล่นปวดหัวไปตามๆ กัน วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปยังหุ้นรายตัวที่มีข่าวดีไม่เหมือนกับหุ้นตัวอื่นๆ เพราะเป็นทางเลือกที่เจิดจรัสในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน และแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้บริหารในการแก้เกมอีกด้วยนะคะ


*สถานการณ์ของหุ้นหลายตัวค่อนข้างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางตัวทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง บางตัวออกทะเลไปไกล ล้วนเป็นสถานการณ์ที่ทำให้นักเล่นปวดหัวไปตามๆ กัน วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปยังหุ้นรายตัวที่มีข่าวดีไม่เหมือนกับหุ้นตัวอื่นๆ เพราะเป็นทางเลือกที่เจิดจรัสในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน และแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้บริหารในการแก้เกมอีกด้วยนะคะ

*โดยเฉพาะในช่วงที่ดัชนีกำลังแกว่งตัวเพื่อหาฐานแนวรับที่มั่นคง ถือเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวมากเป็นพิเศษ เพราะเวลานี้เป็นเกมของการเข้าทำเร็วแบบวันต่อวัน “โมนิก้า” ถึงขอให้แฟนคลับเข้าใจกิมมิคของการลงทุนเที่ยวนี้..มันว่าด้วยเรื่องหน้าตักใครเยอะกว่ากัน และช่วงนี้ใครต้องการเก็บหุ้นเข้าพอร์ตมากสุดนะจะบอกให้

*เมื่อกำหนดรูปแบบการลงทุนได้คร่าวๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เจ้าภาพใหญ่อย่างกองทุนเข้าเก็บหุ้น 1.11 พันล้านบาท และฝรั่งตาน้ำข้าวเข้ามาเก็บอีก 800 ล้านบาท ดัชนีถึงเด้งจากจุดต่ำสุด 1,384.39 จุด ขึ้นมาปิดที่ 1,396.16 จุด ลบไป 0.13 จุด ด้วยมูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาท มันเป็นการตอกย้ำแนวคิดที่เดี๊ยนพร่ำบอกไว้ว่า แนวรับ 1,380 จุด คือจุดวัดใจไงล่ะค่ะ

*สิ่งที่ต้องคิดถัดมาคือ หากดัชนีไม่สามารถวิ่งทะลุแนวต้าน 1,400 จุดขึ้นไปได้ ก็ต้องกลับมาดูแนวรับสำคัญข้างต้นยังใช้การได้ไหม? และนักเล่นยังกล้าเข้าไปรับหุ้นหรือเปล่า? หรือมองในมุมกลับกัน ดัชนีวิ่งขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,400 จุดสำเร็จ ต่อจากนั้นเอาอย่างไรดี? “โมนิก้า” ถือเป็นโจทย์ที่นักลงทุนต้องกลับไปคิดเป็นการบ้าน เพื่อเปิดโอกาสในการทำรอบไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ CPF เดี๊ยนถือเป็นหุ้นยอดเยี่ยมกระเทียมดองสำหรับคนที่มีเงินเย็น ยิ่งมองในมุมที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาต่ำกว่า 20 บาท ยิ่งเป็นจังหวะของการเข้าลงทุน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้มีคนเข้ามาไล่เก็บหุ้นอย่างคึกคัก จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 20.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 1,250 ล้านบาท มันได้แรงหนุนจากการซื้อหุ้นคืนไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ STPI เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ใช้ท่าไม้ตาย “ซื้อหุ้นคืน” แรงซื้อถึงไหลบ่าเข้ามาตลอดทั้งวัน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 15.70 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการบิ้วลด์ความเชื่อมั่นที่มาถูกจังหวะจะโคนพอดี ผสมผสานกับเป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเข้ามาเล่นเป็นประจำ มองได้ถึงยอดเก่า 18 บาทเลยนะเนี่ย

*ส่วนที่น่าเสียใจกลับเป็นในรายของ SVI  ประกาศซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ต้นปี 58 จนบัดนี้ยังไม่มีการซื้อหุ้นแม้แต่บาทเดียวแบบนี้ ตั้งใจหลอกแมงเม่าหรือเปล่าเฮีย? แถมข้ออ้างเรื่องไฟไหม้โรงงาน ทำให้บริษัทต้องกันเงินไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน มันเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้นเลยพับผ่าสิ! เพราะเรื่องดังกล่าวมันเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 57 “โมนิก้า” ในฐานะกองเชียร์ที่ชอบพูดถึงมุมดีๆ ของหุ้นตัวนี้ให้แมงเม่าฟังบ่อยๆ จึงต้องออกโรงกล่าวเตือนอะไรกันบ้างก็เท่านั้นเอง

*เมื่อสถานการณ์ต่างๆ เข้าร่องเข้ารอยมากขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้น WICE มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนวานนี้จะได้รับอานิสงส์จากหลายด้านด้วยกัน หุ้นถึงขึ้นมาปิดที่ 3.10 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท คุณน้อง “อารยา” คงรู้แล้วว่า นักลงทุนชอบข่าวดี เพราะทันทีที่ประกาศบุ๊ครายได้ 50 ล้านบาทเข้ามาในไตรมาส 4 หุ้นวิ่งปรู๊ดทันทีแบบนี้…ขยันออกข่าวหน่อยแล้วกัน..คุณแม่ขอร้อง!

*ส่วนในรายของ RICH ข่าวดีก็ยังไม่มีมาให้เห็น แถมมีคนติดหุ้นเยอะแยะ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกมึนงงที่เห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.07 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 12.60% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่เดี๊ยนไม่กล้าออกตัวแทนเจ้าของ จึงต้องปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง เพราะหลายคนรู้ว่า คนที่ขันอาสาเข้ามาเป็นเจ้ามือไม่ธรรมดาเหมือนกันเจ้าค่ะ

*แม้สถานการณ์ของการลงทุนจะงึกๆ งักๆ แต่เรื่องนี้ไม่ได้กระทบกับหุ้น TMB  สักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่หุ้นตั้งฐานแนวรับได้อย่างมั่นคงที่บริเวณ 2.20 บาท หุ้นก็พยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2.60 บาทตลอดเวลา โดยครั้งแรกทำได้ดีสุดแค่ระดับ 2.40 บาท ต่อจากนั้นก็ทิ้งตัวลงมาฐานที่มั่น และในครั้งที่สองครั้งที่สามก็เป็นเหมือนกัน เพิ่งจะมีครั้งนี้ที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.54 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่า 630 ล้านบาท หากทะลุได้..ไปยาวแน่ๆ ค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ATP30 ทำท่าจะหมดสภาพอยู่รอมร่อ และดูเหมือนจะไปต่อไม่ไหว แต่หลังจากหุ้นลงมาทดสอบ low ที่บริเวณ 1.07 บาท มากถึง 3 ครั้ง วานนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีในการวิ่งรอบใหม่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.17 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยวอลุ่มที่จุ๋มจิ๋ม ตามประสาหุ้นที่เริ่มตั้งไข่อีกครั้งแบบนี้..ตามไปดูกันอีกสักวัน ก็คงไม่มีอะไรเสียหายหรอกนะคะ

Back to top button