OR หุ้นมหาชน

ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

หุ้น OR ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน

สะท้อนจากมูลค่าการซื้อขายของวานนี้ (24 ก.พ.) ยังอยู่ระดับสูงกว่า 4,786 ล้านบาท แม้ว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ มา 9 วันแล้วก็ตาม

ผ่านมาถึงวันนี้

รายย่อย (ส่วนใหญ่) ยังคงถือหุ้นกันอยู่อย่างเหนียวแน่น

คนที่ได้หุ้นไอพีโอมา อาจมีทั้งเข้ามาซื้อเพิ่ม รวมถึงอาจจะมีการขายทำกำไรไปก่อนหน้าแล้วเล่นรอบไปเรื่อย ๆ

ขณะเดียวกัน ยังมีนักลงทุนอีกจำนวนมากเพิ่งได้รับใบหุ้น ยังไม่ได้นำหุ้นเข้าพอร์ต

และอีกหลายคนยังไม่ได้รับใบหุ้น ด้วยเหตุผลอาจจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไกลออกไป และน่าจะมียอดรวมอยู่เยอะพอสมควร

หุ้น OR แนวรับ 30.00 บาท ยังค่อนข้างแข็งมาก

เมื่อวานนี้ นั่งดูราคาหุ้นตั้งแต่เช้า จะพบว่า มีแรงรับที่ระดับ 30.00 บาท เป็นหลักสิบล้านหุ้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นยอดรวมของรายย่อย หรือมีรายใหญ่มาซื้อกันไว้ ไม่ให้หลุด

แม้ว่าระหว่างวันจะมีไม้ใหญ่ระดมขายออกมา ที่มีทั้ง 8 แสนหุ้นบ้าง 7 ล้านหุ้นบ้าง และอีกหลายไม้

ทว่าราคายังยืนเหนือ 30.00 บาทอย่างเหนียวแน่น

ตามที่เขียนเรื่อง OR ไปในฉบับก่อนหน้านี้

“รายย่อย” กับ “รายใหญ่” (รายบุคคล-กองทุน) ยังยืนซัดกันสนุก ชิงไหวชิงพริบกันอยู่ตลอดเวลา

ทั้งกลุ่มนักลงทุนรายย่อย และรายใหญ่ ต่างเชื่อมั่นว่า ราคาหุ้น OR จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ 30 บาท +/- อย่างแน่นอน

นั่นคือ ราคาจะค่อย ๆ วิ่งขึ้นไป เพราะทุกคนต่างเชื่อมั่นในทีมการบริหารของกลุ่ม ปตท.

และ OR เอง ก็ถูกวางเป็น Flagship หรือ เรือธงของกลุ่ม ปตท.ในอนาคต

มูลค่าธุรกิจของกลุ่ม ปตท.นั้น มีมากกว่าล้านล้านบาทขึ้นไป

รู้ไหมกลุ่ม ปตท. เป็นกลุ่มธุรกิจที่ลงทุนเพื่อทำ “วิจัย” มากที่สุด

เป็นการวิจัยคล้ายกับเรื่อง SWAT Analysis หรือเป็นการค้นหาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เพื่อที่จะดูว่า ธุรกิจที่พวกเขาทำกันนั้นจะต้องเดินไปในทิศทางใด ตรงไหนจะถูก Disruption ตรงไหนคือ โอกาส

ดังนั้น เวลาที่กลุ่ม ปตท. มอง เขาจะมองไป 5 ปีข้างหน้า หรืออาจเลยไปถึง 10 ปีข้างหน้า

นำผลจากงานวิจัยมาวางแผนธุรกิจ

ธุรกิจของ OR ก็เช่นกัน น่าจะถูกวางแผนไว้แล้วว่า จะเดินไปในทางไหน

ก่อนหน้านี้ ได้เคยคุยกับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ และกองทุน

ทุกคนต่างเชื่อมั่นว่า ต่อไปสัดส่วนธุรกิจค้าปลีกจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนน้ำมัน ก็ยังสร้างรายได้ต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าสัดส่วนรายได้จากน้ำมันจะค่อย ๆ ถูกแทนที่จากค้าปลีกที่เป็นสินค้ามาร์จิ้นสูง

และในที่สุดหุ้นจะถูกย้ายจากกลุ่ม Energy ไปกลุ่มค้าปลีก

ทั้งหมดนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรืออาจเร็วกว่า ช้ากว่านี้เล็กน้อย บวก/ลบไม่น่าเกิน 1-2 ปี

หุ้นที่ดีแบบนี้ ทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุน

ราคาหุ้นของ OR ทุกนักลงทุนต่างมั่นใจว่า จะค่อย ๆ ปรับขึ้นไปได้เรื่อย ๆ

แต่ในเกมราคาหุ้นระหว่างที่ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปนั้น

แน่นอนว่าจะมีบางช่วงที่ราคาจะย่อตัวลงบ้าง ซึ่งคนที่ถือหุ้นอยู่จะต้องใจแข็งมาก ๆ

หรือต้องวางแผนเล่นรอบดี ๆ

ย้ำกันอีกครั้งว่า นักลงทุนรายใหญ่เอง ยังคงพยายามที่จะสลัดรายย่อยออกไปให้มากที่สุด ด้วยเกมราคาหุ้นระหว่างที่ราคากำลังวิ่งขึ้นไปเพื่อสะท้อนพื้นฐานของหุ้นในแต่ละปี

หุ้นไอพีโอที่มีรายย่อยเข้ามาจองมาก ๆ มักจะถูกใช้ด้วยวิธีการแบบนี้ เช่น SCGP

ส่วนวันนี้หุ้น OR จะเข้า MSCI มีผล ณ ราคาปิด

ช่วงเปิดตลาดภาคเช้า น่าจะมีการเก็งกำไรกันพอสมควร

ส่วนช่วงปิดตลาด มีความเป็นไปได้ว่า เงินที่เข้ามาจากกองทุนที่ต้องซื้อหุ้นตามการเพิ่มน้ำหนักกว่า 3,885 ล้านบาท อาจจะส่งไม้ซื้อที่ต่ำกว่าราคาตลาดในช่วง  ATC เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้

นี่ก็ขึ้นอยู่กับรายย่อยอีกนั่นแหละว่า พลังซื้อ (เพิ่ม) จะช่วยยันหุ้นไว้ได้มากแค่ไหน

OR แม้ว่าจะมีสัดส่วนของฟรีโฟลต หรือการถือหุ้นของรายย่อยเพียง 25%

แต่ขณะนี้ ยังถือว่ามีความเป็น “หุ้นมหาชน” สูงมาก