6 หุ้น ‘โลจิสติกส์’ กำไรแกร่งปี 63

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ทำการสำรวจบริษัทในกลุ่ม “โลจิสติกส์” ทั้งใน SET และ mai ยังคงมีบริษัทสามารถโชว์กำไรในปี 63 อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน


เส้นทางนักลงทุน

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศงบฯ ปี 2563 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

ทั้งนี้ ทางหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงทำการสำรวจบริษัทในกลุ่ม “โลจิสติกส์” ทั้งอยู่ในตลาด SET และ mai ปรากฏว่ายังคงมีบริษัทสามารถโชว์กำไรในปี 2563 ได้อย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าภาพรวมทั้งกลุ่มจะดูเหมือนว่าทิศทางไม่ดีนัก เหตุเจอแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

อย่างไรก็ตาม ในส่วนบริษัทกลุ่มโลจิสติกส์สามารถทำกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในปี 2563 ได้แก่ ASIMAR, WICE, PRM, SONIC, LEO และ KEX

สำหรับ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 30.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,931.68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.01 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้เพิ่มขึ้นจากงานเรือซ่อมที่สาขาสมุทรปราการมีปริมาณเรือและมูลค่าในการซ่อมต่อลำเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อน

ในส่วนของสาขาสุราษฎร์ธานีรับเรือลูกค้าราชการที่มีมูลค่าซ่อมสูงจำนวนหลายลำ รวมทั้งมีการบริหารการใช้พื้นที่ในการซ่อมเรือทั้งในอู่และเช่าคานเรือที่ภายนอกอู่ ส่งผลให้มีรายได้ซ่อมเรือเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้รายได้จากงานต่อเรือเพิ่มขึ้น เพราะมีจำนวนโครงการที่รับรู้รายได้ในระหว่างปีมีการส่งมอบเรือโดยสารอะลูมิเนียมปรับอากาศจำนวน 4 ลำ ของบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด และโครงการต่อเรือกำจัดผักตบชวา จำนวน 2 ลำ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งรับงานผ่านมาจากบริษัท ไมน์โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด จำนวน 5 ลำ ซึ่งรับรู้รายได้สะสม 61.10% และโครงการต่อเรือเก็บขยะของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจำนวน 2 ลำ ซึ่งรับรู้รายได้สะสม 56.45% โดยมีกำหนดส่งมอบภายในไตรมาส 1/2564

ส่วนรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากการได้เงินค่าปล่อยเรือของเรือที่บริษัทตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญไปแล้วเมื่อปี 2562

บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 201.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 224.48% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 61.97 ล้านบาท เกิดจากผลประกอบการของบริษัทตามกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ และจากผลประกอบการบริษัทย่อยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากบริษัทย่อย ได้แก่ WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd., WICE Logistics (Hong Kong) Limited และ Euroasia Total Logistics(M) Sdn Bhd ซึ่งรายได้เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับตัวของราคาค่าระวางทางอากาศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกำไรขั้นต้น เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจะเห็นว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อรายได้ในปี 2563 มีสัดส่วนลดลง โดยค่าใช้จ่ายในการขายมีสัดส่วนเท่ากับ 0.81% ลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วนเท่ากับ 1.54% และค่าใช้จ่ายในการบริหารมีสัดส่วนเท่ากับ 6.54% ลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วนเท่ากับ 11.55% บ่งบอกถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,533.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,023.39 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเป็นผลมาจากผลประกอบการของธุรกิจ FSU ที่ดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2563 ซึ่งสามารถชดเชยรายได้และกำไรขั้นต้นของธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศที่ชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของ COVID-19

บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 59.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 46.53 ล้านบาท มาจากการที่บริษัทมีลูกค้าใหม่ ประกอบกับปริมาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าเดิม โดยมีรายได้จากการให้บริการขนส่งทางเรือเพิ่มขึ้น รายได้จากการให้บริการขนส่งทางบกเพิ่มขึ้น และรายได้จากการให้บริการขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้น

บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 56.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 45.88 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางเรือเพิ่มขึ้น การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศเพิ่มขึ้น การบริการด้านบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรเพิ่มขึ้น ที่ประกอบด้วย การขนส่ง การบริการพื้นที่รับฝากและซ่อมตู้คอนเทนเนอร์ การบริการดำเนินพิธีการศุลกากร และอื่น ๆ และธุรกิจให้บริการพื้นที่เพื่อจัดเก็บสิ่งของตามความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น

อีกทั้งความสามารถในการเพิ่มกำไรขั้นต้นของบริษัท และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ  KEX รายงานผลการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,405.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,328.55 ล้านบาท โดยเป็นผลจากประสิทธิภาพด้านบริหารและจัดการต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน การบริหารจัดการการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น และการบริหารจัดการเส้นทางการจัดส่งและการจัดการยานพาหนะที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

สรุปสุดท้ายเป็นการคัดสรรหุ้นในกลุ่ม “โลจิสติกส์” พบว่าจากทั้งหมดมีเพียง 6 บริษัทที่สามารถโชว์กำไรแกร่งในช่วงปี 2563 แม้ในภาวะที่เกิดผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

Back to top button