อัพไซด์เพียบ ?
*ดูเหมือนอาการเข่าอ่อนพร้อมกับแกว่งตัวไปมาของดัชนีบริเวณแนวต้าน 1,550 จุด กลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นหลายรายเกิดอาการหวั่นใจอีกครั้ง เพราะอุตส่าห์ทำทางขึ้นมาค่อนข้างดีในช่วงเช้า แต่ในระหว่างวันกลับโดนเทหน้าตาเฉยเสียฉิบแบบนี้ บรรดาแมงเม่าถึงเม้าท์กันให้แซ่ดว่า พวกนักเล่นกลุ่มสถาบันเขย่าเอาของอีกแล้วกระมัง! ถึงจัดหนักในหุ้นบางตัวในช่วงบ่ายแก่ ๆ พะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนอาการเข่าอ่อนพร้อมกับแกว่งตัวไปมาของดัชนีบริเวณแนวต้าน 1,550 จุด กลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นหลายรายเกิดอาการหวั่นใจอีกครั้ง เพราะอุตส่าห์ทำทางขึ้นมาค่อนข้างดีในช่วงเช้า แต่ในระหว่างวันกลับโดนเทหน้าตาเฉยเสียฉิบแบบนี้ บรรดาแมงเม่าถึงเม้าท์กันให้แซ่ดว่า พวกนักเล่นกลุ่มสถาบันเขย่าเอาของอีกแล้วกระมัง! ถึงจัดหนักในหุ้นบางตัวในช่วงบ่ายแก่ ๆ พะยะค่ะ
*ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” รู้สึกเสียวซ่านไปทุกรูขุมขนเหมือนกัน หลังเห็นดัชนีพุ่งขึ้นไปถึงระดับ 1,562.56 จุด แต่พอถึงตอนจบดันร่วงผล็อยลงมาปิดที่ 1,543.76 จุด ลบไป 0.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 แสนล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า หุ้นไทยยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนถ่ายฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม และการขายหุ้นเมื่อวิ่งผ่านจุดสำคัญย่อมทางออกที่ดีสำหรับการเล่นหุ้นในเที่ยวนี้นะจะบอกให้
*วันนี้ถึงไม่ต้องถามสาเหตุการขึ้นลงของดัชนีให้เสียเวลา (เหมือนลิเวอร์พูลแพ้คาบ้าน 6 นัดติด) เพราะเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดีว่า ปัจจัยหลายอย่างยังไม่ลงตัว ส่งผลให้การประคองตัวเพื่อให้อยู่รอดในแต่ละวันเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงมองอาการไปไม่สุด ต่อจากนั้นโดนขายหนัก ล้วนเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ (พีอีตลาดปาเข้าไปตั้ง 40 เท่า) นะจ๊ะ
*เหมือนกับการขึ้นของหุ้น SAWAD หากมองในมุมของ “อัพไซด์” ที่มีอย่างเหลือล้น ก็เป็นจังหวะของการตามน้ำได้สบาย ๆ หรือมองในมุมของการ “ทำกำไร” ก็เป็นจังหวะที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินสถานการณ์ดังกล่าวจากการขึ้นไปถึง 89.25 บาท ต่อจากนั้นย่อตัวลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ระดับ 83.75 บาท บวกไป 6.25 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.79 พันล้านบาท ควรเลือกทางไหนมากกว่ากันเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PTTGC มีแรงซื้อเข้ามาไล่หุ้นตั้งแต่เช้า จนหุ้นเปิดกระโดดขึ้นมาปิดที่ระดับ 67.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.19 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องประเมินสถานการณ์อีกเช่นกัน โดยเฉพาะในมุมของ PBV 1 เท่า น่าจะเป็นมุมที่ทำให้หุ้นไปต่อได้อีกระยะหนึ่งไหมเอ่ย?..ลองไปคิดดูจ้า
*ส่วนรายที่แรงจนน่ากลัวอย่างหุ้น ZMICO กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มอยด์เป็นประจำ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้เป็นการซื้ออนาคตเพียว ๆ และยังไม่มีใครรู้ว่า ผลลัพธ์จะออกมาดีเหมือนกับที่แมงลือเม้าท์กันไว้หรือเปล่า? เดี๊ยนถึงอ่านไม่ออกเหมือนกันว่า การขึ้นมายืนปิดที่ 4.18 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 12.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 652 ล้านบาท คือจังหวะที่ต้องเล่นอะป่าว?..อิอิอิ
*อีกรายที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังแบบใกล้ชิด “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น AWC ภายใต้กลุ่ม “เสี่ยเจริญ” เป็นลำดับถัดมาในทันที เพราะการขึ้นมาปิดที่ 5.35 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาท น่าจะเป็นการแหวกม่านประเพณีที่เคยเป็นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะกรอบที่เคาะกันไปมาไม่เคยเกิน 5.15 บาท เดี๊ยนถึงต้องการรู้ว่า วันนี้จะมีแรงซื้ออัดเข้ามาอีกไหม? เพราะจะเป็นตัวบอกว่า หุ้นจะได้ไปต่อไหม!!..อิอิอิ
*เหมือนกับในรายของ JKN กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 10.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 962 ล้านบาท พร้อมกับปิดราคาสูงสุดของวัน ก็เป็นช็อตของการวัดแรงซื้อจะต่อเนื่องขนาดไหน? เพราะสตอรี่ที่ทำให้ราคาหุ้นคึกเป็นม้ามาจากกัญชงเพียว ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับนึกดูดี ๆ ดีลกัญชงที่เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง และคนที่มีเอี่ยวเต็มๆ มากที่สุดเวลานี้ คือใคร?..ลองไปคิดดูดี ๆ นะคะ
*ตบท้ายที่หุ้น “เชียร์สนุก เชียร์มัน” คงต้องยกให้กับ JMART ภายใต้การบริหารจัดการของ “พี่ตุ้ม” เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 33 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 6.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 921 ล้านบาท คือผลพวงที่เกิดจากการทำงานหนัก บวกกับสัปดาห์ก่อนคุณพี่เรียกความมั่นใจให้กับทุกคนด้วยการเก็บหุ้นเพิ่ม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเกาะติดหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะของเขาดีจริง ๆ นะตัวเอง