ตีมึนหลอกตัวเอง

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ประเทศไทยได้วัคซีน 317,300 โดส ตีฆ้องร้องป่าวราวกับได้ 30 ล้านโดส ทั้งที่กัมพูชาได้ฟรีจาก COVAX 324,000 โดส มากกว่าเราเสียอีก มาเลเซียก็ได้ไปแล้ว 312,390 โดสตั้งแต่ 21 ก.พ. จากที่สั่งซื้อของไฟเซอร์และ BioNTech ไว้ 32 ล้านโดส

นายกฯ ต้องรอเกือบ 2 สัปดาห์กว่าจะได้ฉีดแอสตราเซเนกาวันศุกร์นี้ เพราะฉีด Sinovac ของจีนไม่ได้ แต่รีบเล่นใหญ่ประกาศพาสปอร์ตวัคซีน ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรประเมินว่าจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้กว่า 2 ล้านคน (โอ้โห ตั้ง 2 ล้านคน)

ตีปี๊บอย่างไรก็กลบความจริงไม่ได้ว่า อย่างเก่ง ถ้าฉีดวัคซีนได้เดือนละ 10 ล้านโดส ปลายปีครบ 63 ล้านโดส ครึ่งหนึ่งของประชากร จึงเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ แล้วธุรกิจท่องเที่ยวรอไหวหรือ เห็นเข้าชื่อเรียกร้องให้เลิกกักตัว 1 ก.ค.

รัฐบาลวันนี้หวังปั่นข่าวดี ให้ประชาชนกล้าใช้จ่าย อาศัยข่าวแจกเงินกระปริบกระปรอย คนละครึ่ง เรารักกัน เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ (เดี๋ยวมีข้าราชการชนะ ไม่รู้ใครแพ้) ควบข่าววัคซีน ให้ดูเหมือนมีแต่เรื่องดี ๆ ภาคธุรกิจการตลาดก็ช่วยตีปี๊บต่อ ฟื้นแล้ว ๆ เพื่อให้ขายของได้ แต่กำลังซื้อจริง ๆ มีแค่ในตลาดหุ้น ด้วยอานิสงส์ฟันด์โฟลว์ ในขณะที่ราคาน้ำมันกลับขึ้นไปใกล้จะเท่าก่อนโควิด -19 แล้ว

เศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจไทยไม่ราบรื่นฟื้นเป็นเส้นตรงหรอก มันจะมีผลข้างเคียงตลอด แบบบอนด์ยีลด์พุ่ง หรือหันไปเก็งกำไรบิทคอยน์กันอย่างน่ากลัว

10 เดือนก่อนสิ้นปีมีอะไรเกิดได้เสมอ ตั้งแต่สถานะรัฐบาล ไปจนการเคลื่อนไหวนอกสภา ซึ่งล่าสุดที่ไผ่ ไมค์ รุ้ง ไม่ได้ประกัน ก็ปลุกความโกรธของม็อบ แม้ฝ่ายรัฐอาจมองว่ายิ่งทำให้ภาพม็อบรุนแรงยิ่งง่ายต่อการจับปราบ

แต่ในภาพรวมรัฐไม่สามารถสยบม็อบได้ง่าย ๆ ยิ่งเมื่อสร้างเงื่อนไข ตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องผ่าน 2  ด่าน ทั้งให้ศาลออกใบอนุญาต ทั้ง 250 ส.ว.ประกาศคว่ำ

การใช้อำนาจเกินกว่าเหตุของตำรวจและกระบวนการยุติธรรม เช่นจับโตโต้ กลุ่ม WEVO ไปกินข้าวในห้าง โดยไม่มีหมายจับ อ้างว่าจะก่อเหตุร้าย อั้งยี่ซ่องโจร ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ (เมเจอร์รัชโยธินไม่มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิหรือไร)

ม็อบคนรุ่นใหม่คือ Generation กบฏ ที่ไม่สามารถปราบได้ด้วยกระบองหรือคุมขัง ถ้าไม่หาทาง Compromise ก็จะเป็นเชื้ออยู่ตลอดไป รอวิกฤติการเมือง หรือเศรษฐกิจ เริ่มตั้งแต่ร่างรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลผสมก็ไม่มีเสถียรภาพ แต่ไม่สามารถแตกกัน ยังไงก็ต้องลากถู เลือกตั้งซ่อมประชาธิปัตย์แพ้พลังประชารัฐ จำต้องกลืนเลือด ทั้งที่เห็นชัด ๆ ว่า ร่วมรัฐบาลไปอย่างนี้มีแต่สูญพันธุ์

ความพ่ายแพ้ของ ปชป. ไม่เพียงเป็นสัญญาณหมดยุคการเมืองเอาดีใส่ตัว แต่เห็นกันชัด ๆ ว่า วันนี้รัฐประหารสืบทอดอำนาจ ผนึกเป็นเนื้อเดียวนักการเมืองระบบอุปถัมภ์ ที่เคยเป็นลิ่วล้อทักษิณ ที่ พธม. กปปส. ปชป. เคยด่าทอว่าชั่วช้าสามานย์ วันนี้มาอยู่รอบข้างประยุทธ์ ประวิตร และทิ้ง ปชป. กปปส. พธม. ไว้ข้างหลัง

การปรับ ครม.ก็เจอแรงกดดันสูงมาก ภูมิใจไทยรุกคืบขอแลกตำแหน่ง อาศัยการไล่บี้ 6 ดาวฤกษ์ พปชร. ไม่โหวตให้ศักดิ์สยาม จัดงานถล่มราคารถไฟฟ้าแพง-สายสีเขียว แล้วก็ร้องไชโยได้ ศาลปกครองจำหน่ายคดีล้มประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

กระทั่งในพรรค พปชร. ทีแรกมีข่าวนิ่งแล้ว 2 ชื่อ จู่ ๆ ธรรมนัสก็กลับมาเป็นตัวเก็งว่าการ ใครที่หวังจะได้เทคโนแครตมีฝีมือคือฝันกลางแดด

สภาพนี้ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลจะล่ม แต่ค่อย ๆ จมลง และดันทุรังได้ไม่ตลอดปี ถ้ายอมแก้รัฐธรรมนูญ ให้ประกันแกนนำม็อบ ลดกระแส ก็ยังพอซื้อเวลาได้