โยกบอนด์ โยกทอง..มาลงหุ้น

* ต้องยอมรับว่า การที่ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,573.05 จุด บวกไป 22.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท พร้อมกับฉีกแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,550 จุดจนขาดวิ่น ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก ๆ เพราะมองในมุมของข่าวสารก็มีเพียงแค่การลงทุนในทองคำไม่เวิร์ค และผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดบอนด์ไม่โดน ซึ่งเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่เคยเม้าท์ให้ฟังมาแล้วระยะหนึ่งเจ้าค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ต้องยอมรับว่า การที่ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,573.05 จุด บวกไป 22.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท พร้อมกับฉีกแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,550 จุดจนขาดวิ่น ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก ๆ เพราะมองในมุมของข่าวสารก็มีเพียงแค่การลงทุนในทองคำไม่เวิร์ค และผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดบอนด์ไม่โดน ซึ่งเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่เคยเม้าท์ให้ฟังมาแล้วระยะหนึ่งเจ้าค่ะ

* สถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้ “โมนิก้า” มองปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยมาเร็วกว่ากำหนดค่อนข้างเยอะ และจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปถึง 1,600 จุดในไม่ช้า เพราะแรงซื้อกระจายไปยังหุ้นกลุ่มหลักเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ผลงานในไตรมาส 1 ของหุ้นกลุ่มต่าง ๆ น่าจะออกมาดี และราคาหุ้นก็ควรขยับขึ้นไปตั้งฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมอย่างแข็งแกร่งนะจะบอกให้

* เมื่อแนวความคิดออกมาในโทนนี้เป็นส่วนใหญ่ “โมนิก้า” ย่อมต้องคล้อยตามเป็นธรรมดา และเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนต้องไหลตามน้ำมาจากการใช้ชีวิตของผู้คนมีความคึกคักขึ้นกว่าเดิม แถมรถราบนท้องถนนก็กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง หรือแม้แต่โรงแรมในที่ต่าง ๆ ก็มีการจองห้องกันพรึ่บพรับ ก่อนจะถึงเทศกาลสงกรานต์ ล้วนเป็นตัวเร่งที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเย้ายวนใจขึ้นไปอีกขั้นนะคุณแม่!

* เมื่อระบบเศรษฐกิจมีการเคลื่อนตัวอีกครั้ง CPALL เลยได้รับผลบุญแบบเต็ม ๆ “โมนิก้า” จึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 68 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.15 พันล้านบาท เพราะมันเป็นไฟต์บังคับที่ต้องเล่นตามกระแส ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการเค้นผลงานในแต่ละไตรมาส จึงไม่ควรคาดหวังกับหุ้นสะดวกซื้อรายนี้มากนัก เพราะเที่ยวก่อนเพิ่งโดน “คนละครึ่ง” เล่นงานไปหยก ๆ นะสิ

* เช่นเดียวกับการขยับตัวของแบงก์สีเขียว KBANK ก็เป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในรอบเดือนครึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำท่ายึกยักในกรอบ 138-148 บาทเป็นประจำอยู่แล้ว “โมนิก้า” จึงมองไม่เห็นความต่างของการขึ้นมายืนปิดที่ 149.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.08 พันล้านบาท ยกเว้นวันนี้บวกต่อสวย ๆ และตั้งฐานใหม่แถว 150 บาทอีกระยะหนึ่ง จึงจะเชื่อได้ว่า ของจริงนะคุณพี่!

* คล้ายกับอาการที่เกิดขึ้นกับ ADVANC บวกต่อเป็นวันที่สองแบบสวย ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ 172.50 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.35 พันล้านบาท อาจเป็นผลงานที่เพอร์เฟ็กต์ในสายตาคนที่ดูหุ้นผ่าน ๆ แต่สำหรับอิฉันไม่ได้มองเป็นเช่นนั้นแม้แต่นิดเดียว เพราะไซเคิลใหญ่ของหุ้นยังอยู่ในช่วงของ “เด้งเพื่อลง” มากกว่า จึงเหมาะต่อการเคาะสั้น มากกว่านะคะ

* สถานการณ์ของรายข้างต้นช่างตรงข้ามกับหุ้น IVL อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้กรุยทางขึ้นไปเรื่อย ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 45.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.11 พันล้านบาท พร้อมกับทำ new high ไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตที่เหมาะต่อการไหลตามน้ำเหลือเกิน เพราะทุกคนรู้ดีว่า ปีนี้หุ้นปิโตรเคมีจัดเต็มทุกตัวแน่นอนไงหล่ะค่ะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น CPN เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมาปิดที่ 60 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 7.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.46 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ได้เวลาไต่เพดานสูงขึ้นเสียที และการมาเที่ยวนี้ก็เกี่ยวพันกับเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง เดี๊ยนถึงมองว่า ต่อจากนี้จะไล่ราคากันมันหยด เพราะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจดี เคยขึ้นไปยืนแถว 80 บาท นะจะบอกให้

* ในเมื่อกำลังซื้อในประเทศเริ่มกลับมา หุ้นอสังหาฯ ย่อมดี๊ด๊ากันถ้วนหน้า และตัวเด่นที่เคาะขวารัว ๆ “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น J หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 3.74 บาท บวกไป 0.72 บาท หรือขึ้นไป 23.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 601 ล้านบาท เพราะเป็นการเด้งรับแนวโน้มกำไรโต แต่เผอิญวานนี้โดนตลาดหลักทรัพย์จับติดแคช จึงต้องรอสถานการณ์ให้นิ่งเสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยรัวเคาะแล้วกัน..อิอิอิ

Back to top button