น้ำผึ้งหวานแห่งมายา
ตำรวจในห้องสอบสวนยุคปัจจุบันที่การซ้อมผู้ต้องหาเป็นความผิด (ยกเว้นตำรวจไทยบางคน) ถือว่า วิชาว่าด้วยจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์และจุง ล้วนมีคุณค่าให้ศึกษาเพื่อ “คั้นมะนาว” ของความจริงจากผู้ต้องหาจนหมดเปลือก ก่อนส่งฟ้องศาล
พลวัตปี 2021 : วิษณุ โชลิตกุล
ตำรวจในห้องสอบสวนยุคปัจจุบันที่การซ้อมผู้ต้องหาเป็นความผิด (ยกเว้นตำรวจไทยบางคน) ถือว่า วิชาว่าด้วยจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์และจุง ล้วนมีคุณค่าให้ศึกษาเพื่อ “คั้นมะนาว” ของความจริงจากผู้ต้องหาจนหมดเปลือก ก่อนส่งฟ้องศาล
ฉันใดก็ฉันนั้น นักลงทุนกับความรู้ว่าด้วยจิตวิเคราะห์ก็ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญเช่นกันเพื่อเป้าหมายสำคัญคือลด “ค่าโง่” ลงไปให้น้อยที่สุด
ค่าโง่ที่สำคัญคือบทวิเคราะห์และข่าวสารของบริษัทจดทะเบียนจากผู้บริหารบริษัทที่เกินจริงและ อำพรางข้อมูลด้านลบจนมิด หาเหตุผลไม่ได้
ข้อมูลที่ถูกอำพรางไว้ทั้งหลาย ล้วนมีจุดหมายเดียวคือปิดบังความขี้เหร่ของกิจการหรือมูลค่าที่แท้จริงของราคาหุ้นในกระดาน จนกระทั่งมีราคาที่ไม่สมเหตุสมผล
คำชี้แนะประเภท “ซื้อ” ในยามที่ผลประกอบการย่ำแย่ โดยอ้างถึงการ “พ้นจากจุดต่ำสุดแล้ว” หรือ “อนาคตสดใส” อาจดูสวยงาม แต่นักลงทุนต้องใช้ดุลยพินิจให้มากกว่าปกติเพราะเป็นจินตนาการที่คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
เป็นเรื่องปกติ ที่ผู้บริหารของบริษัทจะพยายามปลอบขวัญโดยให้คำมั่นสัญญาว่า ทิศทางธุรกิจในปีที่ ผ่านมาซึ่งถดถอยลงจนขาดทุน หรือกำไรลด งดจ่ายปันผล หรือเพิ่มทุนใหม่ ๆ จะออกมาบอกว่า ปีที่จะมาถึงจะดีขึ้นเพราะ บริษัทวางเป้าหมายผลประกอบการให้กลับมาทำกำไร มีฐานะทางการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง พร้อมพัฒนาธุรกิจให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแค่ “ลมปาก” ที่ต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยตัวเลขผลประกอบการจริง แต่ก็อย่างน้อยสะท้อนให้เห็นความพยายาม “หากุญแจมาเปิดประตูแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น”
นักลงทุนที่รอบคอบเมื่อเห็นคำชี้แนะหรือคำพูดที่ดูดีเกินปกติ ต้องตรวจสอบว่า บริษัทดังกล่าวมีผู้บริหารที่ไม่ได้แอบขายหุ้นทิ้งให้เกิดวิกฤตศรัทธา หรือ การกระทำใด ๆ อันมีเป้าหมายบิดเบือนคำพูดที่ออกไป เช่นการหลบเลี่ยงไม่ยอมตอบคำถามตรงไปตรงมาว่าเหตุใดที่ผ่านมา บริษัทจึงสร้างผลงานที่ต่ำกว่าความคาดหวังมาก ปล่อยให้นักลงทุนงมโง่กับการค้นหาคำถามสะเปะสะปะ
ความคาดหวังแบบ “โลกสวย” จะต้องมาจากการกระทำที่สอดรับกันด้วยสำหรับหุ้นบริษัทมหาชนในตลาด ไม่ใช่ปล่อยให้นักลงทุนคาดหวังปาฏิหารย์ กับผลประกอบการ…ที่ยังไม่เกิดขึ้นและยากจะเกิดขึ้นได้ เสมือนให้ งาช้างงอกจากปากสุนัข
ตัวอย่างกรณีหุ้นสายการบินแห่งชาติที่มีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ กว่า 1.28 แสนล้านบาท จากผลการบันทึกตัวเลขขาดทุนสุทธิในปีที่ผ่านมามากถึง 141,180 ล้านบาท จนตลาดหลักทรัพย์ต้องขึ้น C, SP หุ้นเอาไว้ ย่อมสะท้อนว่าผู้ถือหุ้นและกิจการมีความเสี่ยงในอนาคตอย่างมาก แม้ว่าฐานะรัฐวิสาหกิจที่ “ล้มไม่ได้” อาจจะทำให้ฟื้นคืนกลับมาได้ แต่อนาคตย่อมหมิ่นเหม่ และไม่ง่าย
กรณีของการบินไทย ทำให้ยากต่อการคาดเดาว่าจะมีอนาคตแบบใดระหว่างสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ของญี่ปุ่น หรือสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ของมาเลเซีย แต่ที่แน่นอนคือ มูลค่าหุ้นเดิมที่ติดลบ หากมีการเพิ่มทุนใหม่ย่อมสูญเปล่าโดยปริยาย
เรื่องนี้ นักวิเคราะห์ที่เคยเชียร์ให้ซื้อหุ้น THAI จะทำหน้าอย่างไรเมื่อถูกนักลงทุนถาม
เป็นปริศนาที่น่าสนใจพอสมควร