OR หลังขึ้น XD
วันนี้หุ้น OR จะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิในเงินปันผล
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วันนี้หุ้น OR จะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิในเงินปันผล
OR จะจ่ายเงินปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น และมีกำหนดจ่ายวันที่ 28 เมษายน 2564
ปกติแล้วหุ้นที่ขึ้น XD ราคาจะปรับลงมาในระดับหนึ่ง หรืออาจจะไม่เกินกว่าจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่เป็นผลตอบแทนเงินปันผล เช่น หุ้น A มีผลตอบแทนเงินปันผล ณ ราคา ปิดก่อนขึ้น XD ประมาณ 5%
วันที่ขึ้น XD ราคาหุ้นจะลงมาเท่ากับ หรือใกล้เคียงกับเงินปันผลที่ได้รับในงวดนั้น ๆ
มีคำถามว่าแล้วกรณีของ OR ราคาจะลงมาซักเท่าไหร่ล่ะ
คำตอบคือ ไม่น่าจะปรับลงมามาก
เพราะเงินปันผลรอบนี้เหมือนเป็นการจ่ายพิเศษ หลังเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และเทียบเป็นผลตอบแทนเงินปันผลหรือ dividend yield ไม่ได้สูงอะไรนัก
หรือสมมุติว่า หากราคาปรับลงมาจริง ๆ
ก็เชื่อว่า จะมีนักลงทุนโดยเฉพาะรายย่อยที่จะเข้ามารอรับซื้ออยู่จำนวนค่อนข้างมาก
อย่างที่เคยเขียนบอกไว้ก่อนหน้านี้
หุ้น OR ถือเป็น “หุ้นมหาชน” แท้จริง จากการกระจายหุ้นให้กับรายย่อยในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อีกมุมหนึ่ง
หุ้น OR จัดเป็นหุ้นที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นอย่างสูง (มาก) ต่อการเติบโตในระยะต่อไป
จึงเป็นเรื่องยากที่ราคาหุ้นจะย่อตัวไปมากกว่าปัจจุบัน
แม้ราคาหุ้น OR จะ Fully Valued หรือเต็มมูลค่าแล้ว แต่ราคาก็ไม่ได้ปรับลงมา ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 29.50 – 31.50 บาทต่อหุ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก www.settrade.com พบว่า มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทำบทวิเคราะห์หุ้น OR แบบค่อนข้างละเอียดทั้งหมด 8 แห่ง
แนะนำ “ซื้อ” 3 แห่ง
แนะนำ “ถือ” หรือ HOLD 4 แห่ง
และให้ “ขาย” 1 แห่ง
ราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 27.50 บาท และต่ำสุด 20.70 บาท และมี IAA Consensus Target Price หรือราคาเฉลี่ยที่ระดับ 23.00 บาทต่อหุ้น
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะพบว่า ราคาหุ้นเมื่อลงมาบริเวณ 29.50 บาท ก็มีแรงรับซื้อกันเข้ามาอย่างมากแล้ว
รายย่อยที่ไปรอแถว ๆ 28.00 – 29.00 บาท เก้อกันเป็นแถว
นักลงทุนรายใหญ่ที่เข้ามาเล่น เจอกับสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เล่นยากเหมือนกัน
หุ้นพอขึ้นมาที่ 31.00 บาท มีแรงขายทำกำไรกันเยอะ
พอลงมา 29.50 บาท นี่ก็มีแรงเข้ามารับเยอะเช่นกัน
OR เทรดอยู่ในกลุ่ม Energy และ P/E Ratio อยู่ราว ๆ 39-40 เท่า บวก/ลบ เล็กน้อย
P/E ระดับนี้ กับในกลุ่ม Energy อาจจะมูกมองว่าค่อนข้างแพง
แต่นั่นเป็นเรื่อของ P/E
เพราะหากนักลงทุนยังเชื่อมั่น และมองว่า หุ้นตัวนั้น ๆ จะเติบโตได้ดีต่อไปได้ทุกปี ๆ และพร้อมที่จะ “ทนถือ” เพื่อ “ทนรวย” หรือหากราคาย่อลงมา ก็พร้อมจะ “ซื้อเพิ่ม”
นี่เป็นปรากฏการณ์ของหุ้น OR ที่บรรดาเซียนหุ้นต่างคาดไม่ค่อยถึง
มีข้อมูลของ OR ณ สิ้นปี 2563 มาอัปเดตกันอีกครั้ง
ก่อนที่ OR จะมีการแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2564 ในช่วงเกือบกลางเดือน พ.ค.นี้
OR เป็นผู้ค้าปลีกน้ำมัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีส่วนแบ่งการตลาด 42.3% เมื่อพิจารณาจากปริมาณจำหน่ายทุกผลิตภัณฑ์
สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทย ปี 2562 มีอยู่จำนวน 1,911 และปี 2563 เพิ่มเป็น 1,997 เปลี่ยนแปลง +4.5%
EBITDA Margin กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปี 2562 อยู่ที่ 2.2% และปี 2563 อยู่ที่ 3.1%
กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตร (บาท/ลิตร) ปี 2562 ที่ 0.89 ปี 2563 ที่ 0.97 เปลี่ยนแปลง 8.2%
EBITDA Margin กลุ่มธุรกิจ Non-Oil ปี 2562 อยู่ที่ 25.0% และปี 2563 อยู่ที่ 26.6%
EBITDA Margin กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ ปี 2562 อยู่ที่ 2.1% และปี 2563 อยู่ที่ 4.0%
ปี 2563 ธุรกิจ Non-Oil มีเครือข่ายจำนวนสาขาของร้านอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 3,388 ร้าน แบ่งเป็นร้านคาเฟ่ อเมซอนในประเทศไทย จำนวน 3,290 ร้าน
จำแนกเป็นสาขาที่อยู่ในสถานีบริการจำนวน 1,966 ร้าน และนอกสถานีบริการ 1,324 ร้าน คิดเป็นสัดส่วน 60% และ 40%
รวมทั้งมีร้านคาเฟ่ อเมซอน ในต่างประเทศภายใต้ธุรกิจ Non-Oil จำนวน 20 ร้าน
สำหรับร้าน เท็กซัส ชิคเก้น มีเครือข่าย 78 สาขา และธุรกิจ Non-Oil อื่น มีร้านสะดวกซื้อ ภายใต้ แบรนด์ 7-Eleven และภายใต้แบรนด์ จิฟฟี่ จำนวนรวม 1,977 ร้านค้า
ร้านคาเฟ่ อเมซอนในปี 2563 มียอดจำหน่ายรวม 274 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้นจาก 264 ล้านแก้ว (+ 3.8%) เมื่อเทียบกับปีก่อน
ผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง
และความเชื่อมั่นที่ยังมีต่อหุ้น OR อยู่ระดับสูง
หลายคนจึงพร้อมที่จะถือ หรือเลือกลงทุนเพิ่มเมื่อราคาย่อตัวลงมา