ติดกับดักเฟดโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ที่ทุกคนรู้เหมือนกันในเวลานี้คือ แรงเทขายจากนักลงทุนสถาบันเกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับท่าทีของ FED ซึ่งเป็นนิยายน้ำเน่าที่หลอกให้ผู้คนติดตามได้ตลอดเวลา แถมบางคนยังรู้สึกอินกับเรื่องดังกล่าวอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู “โมนิก้า” ถึงแปลกใจที่กระแสของผู้คนในตลาดหุ้นจะเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศคนละทาง จนหาข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมไม่เจอนะซี


*สถานการณ์ที่ทุกคนรู้เหมือนกันในเวลานี้คือ แรงเทขายจากนักลงทุนสถาบันเกิดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับท่าทีของ FED  ซึ่งเป็นนิยายน้ำเน่าที่หลอกให้ผู้คนติดตามได้ตลอดเวลา แถมบางคนยังรู้สึกอินกับเรื่องดังกล่าวอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู “โมนิก้า” ถึงแปลกใจที่กระแสของผู้คนในตลาดหุ้นจะเตลิดเปิดเปิงไปคนละทิศคนละทาง จนหาข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมไม่เจอนะซี

*เมื่อดูตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า ข้อมูลดังกล่าวที่มีการประโคมข่าวกันออกมาตลอดเวลานั้น น่าจะเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วม และข่าวนี้ก็ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนไปตามๆ กัน “โมนิก้า” ถึงมองว่า แมงเม่าไม่ควรมีอารมณ์คล้อยตามเรื่องดังกล่าวมากเกินไป เพราะดูจากรูปแบบของการนำเสนอข้อมูลในคราวนี้ ออกไปในทางคลุมเครือต่อไปอีกระยะหนึ่งเจ้าค่ะ

*ข้อมูลตรงนี้พิสูจน์ได้จากการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,377.15  จุด ลบไป 4.57 จุด ด้วยมูลค่า 3.20 หมื่นล้านบาท โดยคนที่คิดว่า น่าจะเป็นแกนหลักในการดันดัชนีอย่างกองทุน กลับสาดหุ้นออกมา 1.10 พันล้านบาท บวกกับนักลงทุนสถาบันรายอื่นๆ ก็โยนหุ้นทิ้งออกมาเหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงฟันธงลงไปในทันทีว่า ทุกคนติดกับดักของเฟดเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนฝรั่งไงล่ะจ๊ะ

*ที่สำคัญคือ ยิ่งปล่อยให้ทอดเวลาออกไปยาวเท่าไหร่ ยิ่งเป็นข้ออ้างที่ทุกคนนำมา “ดันหุ้น ทุบหุ้น” มากขึ้นเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่คำแถลงในวันพรุ่งนี้ควรเป็นลักษณะ “ขึ้นดอกเบี้ย” เพื่อทำให้ทุกอย่างเริ่มเซ็ตเกมกันใหม่ เพราะถ้าออกไปในลักษณะยังไม่ถึงเวลาขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นจะผันผวนตามข่าวสารเช่นนี้เกิดขึ้นอีกรอบ..ตัวเองจำได้ไหม?

*คิดดูแล้วกัน!..ขนาดพี่เบิ้ม PTT ยังออกอาการเหมาหมัดทุกครั้งที่มีการเล่นข่าวเฟด “โมนิก้า” ถึงอยากให้เรื่องทุกอย่างจบอย่างเป็นทางการ ไม่เช่นนั้น..วันนี้จะได้เห็นคำอธิบายว่า ให้จับตาดูท่าทีของเฟด ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนได้ยินได้ฟังจนเกิดอาการคลื่นเหียนอยากจะอาเจียนทุกครั้ง (หนูไม่ได้ท้องป่องนะ) วานนี้ถึงเห็นหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 246 บาท ลบไป 5 บาท ด้วยมูลค่า 1.80 พันล้านบาท..มันเกี่ยวกับเรื่องที่เม้าท์กันไหม รอผู้รู้ออกมาเม้นท์ดีกว่านะคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ CPF เพราะรายนี้มีภูมิคุ้มกันค่อนข้างดี ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 21.20 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่า 2.10 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการบวก 5 วันติดต่อกันแบบนี้ “โมนิก้า” ขอปรบมือดังๆ ให้กับการแก้เกมด้วยการใช้มาตรการ “ซื้อหุ้นคืน” ทิศทางของหุ้นถึงแจ่มจรัสกว่าใครเพื่อน งานนี้ใครจะทำตามก็ได้ ไม่มีการเก็บค่าลิขสิทธิ์แน่นอน น้องโมเอาหัวเป็นประกัน!

*ส่วนหุ้น “ไอติดดอย”  ITD วันนี้ไม่ได้แก้เกมด้วยแนวทางดังกล่าว แต่อาศัยพวกมากลากไป บวกกับมีความพยายามในการสร้างความเชื่อด้วยโปรเจ็กต์ต่างๆ เป็นตัวหลอกล่อ ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 8.35 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” ขอพูดตรงๆ ว่า 2 ครั้งก่อนหน้านี้ หุ้นแตะ 8.50 บาทแล้วรูดลงไปกองแถว 7 บาท ก็หวังว่า รอบนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องฮอตฮิตประจำวันขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอกระทบไหล่หุ้นดังอย่าง AJD เพื่อให้ต่อมอะดรีนาลีนได้ทำงานกันเขาบ้าง เพราะทันทีที่แถลงข่าวเรื่องทำตู้เติมเงินกลางวงที่ประชุมเท่านั้นแหละ..อาเจ๊ก อาแปะ อาหมวย อาซิ่ม หงายเงิบกันเป็นแถบ เพราะสิ่งที่หลายคนกำลังเงี่ยหูฟัง มันเป็นเรื่องของธุรกิจโลจิสติกส์ ส่งผลให้ราคาหุ้นรูดลงมาปิดเสมอตัวที่ 1.76 บาท ทั้งที่ขึ้นไปถึง 1.84 บาทแบบนี้..สงสัยการสื่อสารข้อมูล Error กระมั้ง!

*เรื่องนี้ยังกระทบไปถึง FORTHและFSMART เพราะผู้คนทั่วไปเข้าใจไปถึงขั้นที่ว่า เจอคู่แข่งคนใหม่! ทั้งที่ในความเป็นจริง ตลาดเติมเงินค่อนข้างใหญ่ ทุกคนยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเยอะ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวของแม่ลงมาปิดที่ 9.10 บาท ลบไป 0.40 บาท และตัวลูกลงมาปิดที่ 13.90 บาท ลบไป 0.20 บาท มันเป็นการเสียของอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่รอช้อนของถูก

*ส่วนหุ้นเหล็กที่พาเหรดขึ้นมาเป็นขบวนนั้น “โมนิก้า” ได้ยินข่าวเม้าท์กันว่า จะมีการงัดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดออกมาจัดการกับเหล็กของประเทศจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่มาตรการนี้จะเป็นการนำร่องด้วยเหล็กลวดเพียงอย่างเดียวก่อน ซึ่งแมงลือเม้าท์ให้ฟังว่า คนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เต็มๆ มีอยู่แค่ 2 เจ้า คือ TSTH กับ MILL จริงเท็จประการใด ไปสืบเสาะข้อมูลกันเอาเอง เพราะเดี๊ยนไม่ได้ไปสิงสถิตที่ท่าน้ำนนท์ เลยไม่รู้เรื่องของคนในกระทรวงดังกล่าวนะซี

*ป.ล. วันนี้อยากย้ำให้ทุกคนเห็นว่า ต่างชาติถือครองหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 10 ปี มันก็ควรถึงเวลาที่จะพูดเรื่องพื้นฐานของหุ้นจริงๆ เสียที จึงขอรบกวนผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาคอมเม้นท์ให้ทุกคนเห็นภาพการลงทุนในตลาดหุ้นแบบแจ่มแจ้งเสียที..น้องโมขอร้อง!

 

Back to top button