วินโดว์ฯ กับ 1,600 จุด
SET เมื่อวานนี้บวก 9.03 จุด ปิด 1,583.89 จุด
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
SET เมื่อวานนี้บวก 9.03 จุด ปิด 1,583.89 จุด
ระหว่างวันดัชนีขึ้นไปสูงสุด 1,592.47 จุด และต่ำสุด 1,580.90 จุด
ทว่า เมื่อชะโงกไปดูมูลค่าการซื้อขายกลับค่อนข้างเบาบาง หรือ 71,308 ล้านบาท แตกต่างจากวอลุ่มเทรดของ SET ในพักหลังจะอยู่เฉลี่ยต่อวันที่ระดับ 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท
เวลาที่หุ้นปิดขึ้นค่อนข้างเยอะ หรือเกือบ ๆ เยอะแบบเมื่อวานนี้
แล้ววอลุ่มหดหายผิดปกติ
บรรดานักวิเคราะห์หรือเซียนหุ้นต่างมองว่า อาจจะมีอะไรที่เป็นเชิงลบซ่อนอยู่
ทว่า ข้อสันนิษฐานนี้ไม่แน่นอนเสมอไป
เพราะอาจจะอยู่ในช่วงที่นักลงทุนบางกลุ่ม (รายใหญ่) มีความมั่นใจต่อการไล่ซื้อหุ้น
ในทางกลับกัน
ก็อาจจะมีนักลงทุนอีกกลุ่ม เช่น รายย่อย อาจจะรอดูสถานการณ์ ดูความแน่นอน และทิศทางตลาดเพื่อความชัดเจน
อาการของรายย่อยแบบนี้แหละที่ทำให้นักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน และนักลงทุนต่างประเทศ สบโอกาสไล่ซื้อหุ้นไปเรื่อย ๆ กระทั่งมีรายย่อยเข้ามาซื้อตาม
วานนี้กองทุนซื้อสุทธิไป 707 ล้านบาท
และต่างชาติซื้อสุทธิ 1,740 ล้านบาท
ส่วนรายย่อยกับพอร์ตโบรกเกอร์ต่างทยอยขายออกจากพอร์ต
เข้าใจว่า การเข้าซื้อของกองทุนวานนี้ น่าจะคือส่วนหนึ่งของการทำ วินโดว์ เดรสซิ่ง ของบรรดากองทุนที่มักจะเข้ามาปั้นพอร์ต เพื่อปิดประจำไตรมาส
นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ไตรมาส 1/2564 ของปีนี้
มีโอกาสที่จะเกิดวินโดว์ เดรสซิ่งราว ๆ 65-70% เลยล่ะ
หุ้นหลัก ๆ ที่กองทุนไล่ซื้อจะอยู่ในกลุ่ม SET50
เมื่อวานนี้ ดัชนี SET50 บวก 4.03 จุด มาที่ 967.69 จุด เปลี่ยนแปลง +0.42% และมีมูลค่าซื้อขาย (เฉพาะ SET50) กว่า 30,044 ล้านบาท หรือเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าการซื้อขายรวมวานนี้
กลุ่มหุ้นที่เป็นเป้าหมายของกองทุนที่ต้องการทำวินโดว์ เดรสซิ่ง ต่างปิดในแดนบวกกันพร้อมหน้า เช่น AOT AWC BDMS BJC HMPRO และ INTUCH
สัปดาห์นี้จะเหลืออีก 2 วันก่อนปิดไตรมาส 1/2564
มีความเป็นไปได้ที่กองทุนอาจจะไล่ซื้อหุ้นต่อไปอีก เพื่อปิดงบสวย ๆ
มีมุมมองของนักวิเคราะห์ที่น่าสนใจ
เขามองว่า นอกจากการไล่ซื้อหุ้นของกองทุนเพื่อทำวินโดว์ เดรสซิ่ง
ในเชิงสัญญาณทางเทคนิคมีการบ่งบอกว่า สัปดาห์นี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET มีโอกาสจะวิ่งขึ้นมาแตะระดับ 1,600 จุดได้ (อาจจะทดสอบ)
“ดัชนี SET ควรจะต้องเดินหน้าต่อ” นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว
เขามองด้วยนะครับว่า ดัชนีไม่ควรต่ำกว่า 1,570 จุด (ในรอบสัปดาห์นี้)
หรือควรจะอยู่ในกรอบ 1,592 – 1,600 จุด
ส่วนเมื่อวานนี้ที่ดัชนีขึ้นมาแตะ 1,592 จุด แล้วย่อตัวลงไป ยังถือเป็นสัญญาณบวกที่ไม่ได้ปิดระดับสูงสุดของวัน
นอกจากหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของกองทุน และนักลงทุนต่างชาติ
ยังมีหุ้นขนาดกลาง เล็กๆ หลายหลักทรัพย์ที่ขับเคลื่อนในทางบวกพร้อม ๆ กัน จะช่วยหนุนดัชนีให้วิ่งขึ้นมาอีกได้
มาลุ้นกันครับว่า สัปดาห์นี้
ดัชนีจะวิ่งขึ้นมาที่ 1,600 จุดได้หรือไม่