‘บลูชิพ’ เดือนมี.ค.ราคาวิ่งเกือบยกแผง

เส้นทางนักลงทุน

เดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ดัชนี SET Index เคลื่อนไหวลักษณะไซด์เวย์ แต่ภาพรวมยังสามารถบวกได้อยู่ เนื่องจากดัชนีขึ้นมา ณ วันที่ 31 มี.ค. 2564 ปิดที่ระดับ 1,587.21 จุด ปรับตัวขึ้นมาจากช่วงวันที่ 25 ก.พ. 2564 ที่ปิดอยู่ระดับ 1,496.78 จุด โดยปรับตัวขึ้น 90.43 จุด หรือขึ้นไป 6.04%

สอดคล้องไปทิศทางเดียวกับดัชนีกลุ่ม SET50 ปรับตัวขึ้น ด้วยดัชนีขึ้นมา ณ วันที่ 31 มี.ค. 2564 ปิดที่ระดับ 971.24 จุด ปรับตัวขึ้นจากช่วงวันที่ 25 ก.พ. 2564 ที่ปิดอยู่ระดับ 929.95 จุด โดยปรับตัวขึ้น 41.29 จุด หรือขึ้นไป 4.44%

ทั้งนี้ ผลจากดัชนีทั้งสองปรับตัวขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการเข้าเก็งกำไรเป็นรายตัวและสลับตัวเล่น จากปัจจัยหนุนเฉพาะทางซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่ทั่วโลกทยอยฉีดไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตามด้วยเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มที่คาดหวังการเปิดประเทศ หลังจากที่มีการกระจายวัคซีนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เร็ว ทำให้มีความคาดหวังการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

ประกอบกับช่วงท้ายเดือนซึ่งเข้าช่วงที่ทางสถาบันต้องทำการปิดงวดบัญชีในช่วงไตรมาส 1/2564 ซึ่งมักจะทำ “Window Dressing” ช่วงสิ้นสุดไตรมาส โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ตัวเลขทางบัญชีได้แสดงผลกำไรจากการถือหุ้นของแต่ละกองทุนในรอบไตรมาสนั้น

นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งที่หุ้นบลูชิพราคาปรับตัวขึ้นเกือบยกแผงก็เป็นการเข้าเก็งกำไรหลังจากช่วงเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นบลูชิพไม่ค่อยขยับและมีการปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่

ในส่วนของราคาหุ้นกลุ่ม SET50 มีการเคลื่อนไหวช่วงเดือนมีนาคม 2564 ดังนี้ โดยมีราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 41 ตัว ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลง 6 ตัว ส่วนราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง 3 ตัว

สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นในเดือนมีนาคม ได้แก่ SAWAD, COM7, KTC, CPALL, IVL, HMPRO, CRC, BEM, CPN, EGCO, OR, SCC, TMB, MTC, TRUE, SCB, LH, BDMS, AOT, BH, MINT, VGI, BJC, TU, AWC, ADVANC, INTUCH, BBL, DTAC, BTS, CPF, TOP, PTT, KBANK, TISCO, GPSC, KTB, TOA, OSP, GULF และ GLOBAL

ส่วนราคาหุ้นปรับตัวลงในเดือนมีนาคม ได้แก่ DELTA, CBG, BGRIM, PTTEP, EA และ SCGP

ขณะที่ราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเดือนมีนาคม ได้แก่ BAM, PTTGC และ RATCH

ทั้งนี้ จะเห็นว่าจากภาพรวมที่ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ส่วนหนึ่งยังเป็นแรงขับเคลื่อนจากหุ้นกลุ่ม SET50 ที่ต่างปรับตัวขึ้น!!!