ช้อปหุ้นดี ซื้อหุ้นถูก

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ “โมนิก้า” สัมผัสได้โดยตรงกับตัวเองก็คือ วันนี้ผู้คน (ใช้ชีวิตกลางวัน) ยังคงดำเนินชีวิตปกติเหมือนที่ผ่านมา เพราะรู้แนวทางการปฎิบัติตัวเมื่อไปข้างนอก ผสานกับทุกคนพร้อมใจยกการ์ดสูงอีกครั้ง เดี๊ยนถึงมองผลกระทบที่เกิดขึ้นคราวนี้อาจไม่หนักหนาสาหัสเหมือนครั้งแรก และครั้งสอง จึงอยากให้แฟนคลับประเมินสถานการณ์ไปพร้อมกัน เพื่อจะได้เห็นสภาพเศรษฐกิจ และการลงทุนที่ชัดขึ้นพะยะค่ะ

* ที่น่าสนใจคือ หากไทม์ไลน์ของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนครั้งก่อน ๆ “โมนิก้า” ก็อนุมานได้ทันทีว่า 2 สัปดาห์ต่อจากนี้จะเป็นช่วงที่สังคมแพนิกสุด ๆ ต่อจากนั้นจะเริ่มปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเริ่มคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด จนทำให้ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติอีกครั้ง และจะวนลูปแบบนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่งจนถึงสิ้นปี..เดี๊ยนถึงอยากถามแฟนคลับว่า ชินกับเรื่องแบบนี้หรือยังเจ้าคะ

* ประเด็นนี้ทำให้การทรุดตัวของตลาดหุ้นไทยมีความหมายสำหรับ “นักเก็งกำไร” และนักลงทุน “สไตล์คุณค่า” เพราะปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนไปในทางที่แย่สุดขั้ว แถมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดีกว่าเห็น ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,558.83 จุด บวกไป 2.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.36 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่สวมวิญญาณเป็นชาวสวนอ๊ะป่าว ?

* เหมือนกับกรณีของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว WFH ยังคงเป็นหุ้นเนื้อหอมที่ขาลุยเข้ามาเล่นกันสนุกสนาน ประจวบกับอุปกรณ์หลายอย่างยังขาดตลาด จึงเหมือนเป็นการบอกใบ้ให้รู้ว่า หุ้นกลุ่มนี้จะเล่นต่ออีกหนึ่งไตรมาสอย่างแน่นอน หลังพรายกระซิบยืนยันเรื่องการส่งของให้ลูกค้าจะเสร็จสมบูรณ์ทะลักไปถึงเดือน ก.ค. จึงมีแก๊ปให้เล่นกันยาว ๆ อย่างแน่นอนนะจ๊ะ

* ส่วนหุ้นที่ “โมนิก้า” ชอบสุดในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังเมาหมัด คงโฟกัสไปที่หุ้นตราใบโพธิ์อย่าง SCB เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า ยังมีแก๊ปให้ขยับขึ้นอีกเยอะพอสมควร เพียงแต่ภาวะการลงทุนไม่เป็นใจให้กองทุนเข้ามาไล่หุ้นแบบสุดซอย เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ 109.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาท เทียบกับบุ๊กแวลู 1.50 เท่าที่ระดับ 180 บาท มันน่าสนใจไงล่ะตัวเอง!

* เช่นเดียวกับในรายของหุ้นฟอร์มแรงอย่าง JMT กำลังโดนรินลงมาเรื่อย ๆ ทั้งที่ผลงานยังโตอีกเรื่อย ๆ มันเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเหลียวมองแบบไม่ละสายตากันเลยทีเดียว เพราะเมื่อเทียบกับยอดเดิมที่ทำไว้แถว 49 บาท เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันยืนที่ระดับ 44.50 บาท บวกไป 0.25บาท หรือขึ้นไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 452 ล้านบาท โดยที่หุ้นกำลังอ่อนตัวลงไปหาแนวรับที่สามบริเวณ 41 บาท มันเป็นไฟต์ที่ต้องเล่นไหมเอ่ย?

* คล้ายกับช็อตที่เกิดขึ้นกับ WHA ไม่มีผิดเพี้ยน เพราะโมเมนตัมไม่เป็นใจให้สักอย่าง และยังต้องร้องเพลงรอต่อไปอีกระยะหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงมองการทรุดตัวจากยอดเดิมบริเวณ 3.66 บาท ลงมากองใกล้เส้นแนวรับ 200 วันบริเวณ 3.20 บาท เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ 3.32 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 486 ล้านบาท โดนใจไหม ?..ลองไปคิดกันดูนะคะ

* ส่วนหุ้นไซส์เล็กที่เคาะมันในยามนี้ ต้องยกให้สองแม่ลูก AI และ AIE เพราะสตอรี่ที่เอามาเล่นในเที่ยวนี้เป็นเรื่อง growth เพียว ๆ จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องดูกันยาว ๆ และเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องติดตามดูข้อมูลจากเกจิอาจารย์ดังที่ให้เป้าการเล่นเที่ยวนี้อยู่แถว 4.50 กับ 3.70 บาท จะเป็นจริงเหมือนที่ว่าไหม หลังตัวแม่ขึ้นมายืนปิดที่ 3.56 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท ส่วนหุ้นลูกยืนปิดที่ 2.34 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 499 ล้านบาท มันใช่ทางของเราไหม ?..อิอิอิ

* เหมือนกับในรายของ ECF ที่วิ่งขึ้นมาปิดบริเวณ 2.12 บาท บวกไป 0.27 บาท หรือขึ้นไป 14.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 141 ล้านบาท ท่ามกลางความหวังรายได้ปีนี้โต 10% ก็เป็นอีกหนึ่งสตอรี่ที่ขาลุยเม้าท์ถึงเยอะมาก “โมนิก้า” ถึงอยากให้คนที่คิดจะเล่นต้องหาข้อมูลเพิ่มอีกนิดหนึ่งว่า ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์มาดีแค่ไหน ? และธุรกิจพลังงานทำเงินแค่ไหน ? เพราะทั้งสองตัวแปรจะเป็นตัวชี้ว่า หุ้นควรอยู่ตรงจุดไหนพะยะค่ะ