เลือกเล่นรายตัว
* ตลาดหุ้นไทยท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้พลิกโผไปจากที่คาดการณ์กันเอาไว้นัก เพราะในขณะที่หุ้นปรับตัวลงมาเกิน 50 จุดด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายคนมองว่าถึงจังหวะเก็บของถูกจึงรีบกระโจนเข้าใส่ทันที แต่ในขณะเดียวกันอีกหลายเสียงยังมองว่าสถานการณ์ในประเทศยังคุกรุ่นจึงขอใช้กลยุทธ์ Play Safe ส่วน “โมนิก้า” ขอแนะนำนักเล่นมือไวใช้วิธีแบบ “เข้าแล้วรีบถอย” แล้วค่อยตั้งรับใหม่อีกครั้งเพื่อกินกำไรสั้น ๆ ไปก่อนเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
* ตลาดหุ้นไทยท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้พลิกโผไปจากที่คาดการณ์กันเอาไว้นัก เพราะในขณะที่หุ้นปรับตัวลงมาเกิน 50 จุดด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายคนมองว่าถึงจังหวะเก็บของถูกจึงรีบกระโจนเข้าใส่ทันที แต่ในขณะเดียวกันอีกหลายเสียงยังมองว่าสถานการณ์ในประเทศยังคุกรุ่นจึงขอใช้กลยุทธ์ Play Safe ส่วน “โมนิก้า” ขอแนะนำนักเล่นมือไวใช้วิธีแบบ “เข้าแล้วรีบถอย” แล้วค่อยตั้งรับใหม่อีกครั้งเพื่อกินกำไรสั้น ๆ ไปก่อนเจ้าค่ะ
* สาเหตุที่ต้องใช้การเล่นแบบระมัดระวัง เพราะตลาดหุ้นบ้านเรายังคงมีปัจจัยที่ต้องคอยเฝ้าระวัง อย่างตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังเป็นตัวกดดัน ทำให้เศรษฐกิจและการเปิดประเทศล่าช้าลงไปจากเดิม ความหวังที่ภาคธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยยังคงเลือนลาง ดังนั้นจึงต้องมีแผนสำหรับการเล่นหุ้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแรงกระแทกรอบใหม่ และมีโอกาสสูงที่จะได้เห็นดัชนีผันผวนรุนแรงอีกระยะจนกว่าจะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน
* ดังนั้นในวันนี้ “โมนิก้า” ถึงยังมองว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนเกิดขึ้น ถึงแม้การไม่ล็อกดาวน์ประเทศจะทำให้ดัชนีเด้งขึ้นมาเกือบ 8 จุด จนมาปิดที่ 1,548.96 จุด แต่ยังคงเป็นผลมาจากวันก่อน ๆ หุ้นไทยลงแรงเกินไป จึงมีแรงซื้อกลับมาช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น แถมกองทุนตัวแสบยังตั้งหน้าตั้งตากระหน่ำขายหุ้น ยิ่งทำให้สถานการณ์รอบด้านไว้ใจไม่ได้ ดังนั้นหากต้องการทำกำไรควรเริ่มจากการเฟ้นหาหุ้นที่เหมาะจะเข้าลงทุนให้ดีก่อนเจ้าค่ะ!
* อย่างในรายของ GREEN ออกอาการโอเวอร์แอคติ้ง ถึงแม้ผลงานในปีที่ผ่านมาจะขึ้นสวนทางชาวบ้านชาวช่อง แต่ลักษณะของการถีบตัวขึ้นรอบนี้เป็นรูปแบบที่ไม่ปกตินัก จึงขอเตือนคนที่คิดจะเล่นหุ้นตัวนี้เอาไว้เสียหน่อย เพราะการที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.33 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 10.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112.04 ล้านบาท ท่ามกลางสัญญาณเทคนิคที่เข้าเขต “ซื้อมากเกินไป” ค่อนข้างจะอันตรายเจ้าค่ะ
* กลับกันกับหุ้นใหญ่ PTTEP ที่แสดงให้เห็นแบบเต็ม “ลูกกะตา” ว่าเป็นการปรับตัวขึ้นแบบมีพื้นฐานรองรับ ด้วยแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2564 ที่คาดว่าจะออกมาเด็ดสะระตี่ การขึ้นมายืนปิดที่ 116 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 4.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.72 พันล้านบาท เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าหากปั้นพื้นฐานได้ หุ้นก็จะมาตาม แถมดูราคาเป้าหมายแถว ๆ 130 บาทแล้ว เดี๊ยนบอกได้เลยว่ายังสามารถเคาะหุ้นได้อีกยาว!
* ส่วนในรายของ COM7 เป็นอีกหนึ่งหุ้นไอทีในดวงใจที่ “โมนิก้า” ปลาบปลื้มเป็นพิเศษ หลังเห็นการทะยานทำออลไทม์ไฮได้แบบไม่ลดละ บวกกับสตอรี่หนุนเป็นผลงานไตรมาส 1/2564 ที่จะออกมาแบบสุดปัง จึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์จะกระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 72.50 บาท บวก 6.25 บาท หรือบวกไป 9.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 1.77 พันล้านบาทเจ้าค่ะ
* หุ้น CHAYO เป็นอีกตัวที่ราคาหุ้นกระโจนขึ้นมาปิดที่ระดับ 14 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 13.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 346.69 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งหุ้นฮอตฮิตติดลมบนที่มีพื้นฐานแน่นเป็นทุนเดิม แถมยังได้กระแสไวรัสโควิด-19 ระบาดใหม่เป็นแรงกระเพื่อม “โมนิก้า” คงไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืด เพราะเห็นกันทนโท่ว่าหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นกำลังรอการเก็บเกี่ยวเข้าพอร์ตไปเต็ม ๆ แล้วอย่างนี้จะไม่โตวันโตคืนได้ยังไงล่ะเจ้าคะ
* ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับหุ้น PSL ที่ราคาหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 13.90 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 14.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.2 พันล้านบาท การปรับตัวขึ้นรอบนี้มาจากความคาดหวังว่าผลประกอบการมีลุ้น “เทิร์นอะราวด์” หลังค่าระวางเรือทำนิวไฮในรอบ 10 ปี ด้านสัญญาณทางเทคนิคยังมีแก๊ปให้วิ่งต่อ มองเป้าแถว ๆ 14.80 บาทเอาไว้เลย เพราะจังหวะนี้เป็นช็อตที่ต้องตามไปดูแล้วนะจ๊ะ
* ปิดท้ายที่ AS หลังจากซึมตัวไปหลายวันเริ่มได้โอกาสฟื้นตัว ท้ายสัปดาห์หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.80 บาท บวก 0.55 บาท หรือเพิ่มขึ้น 8.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 81.51 ล้านบาท “โมนิก้า” เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนทั้งในแง่ของธุรกิจที่กำลังรุ่งไปตามแผนเปิดตัวเกมใหม่ แถมราคาหุ้นเพิ่งตั้งลำเป็นขาขึ้นรอบใหม่ บอกได้คำเดียวว่าโอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปทดสอบระดับ 8 บาท ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอนเจ้าค่ะ