หุ้น-โควิด-รัฐบาล
ในที่สุด ประเด็นการรับมือที่ล้มเหลวของการระบาดไวรัสโควิค-19 ก็เป็นเรื่องที่กระทบตลาดหุ้นและคนไทยทั่วไป แม้จะมาช้า แต่ก็มาแล้ว สะท้อนว่ามัจจุราชไร้พรมแดนจริง ๆ
พลวัตปี 2021 : วิษณุ โชลิตกุล
ในที่สุด ประเด็นการรับมือที่ล้มเหลวของการระบาดไวรัสโควิค-19 ก็เป็นเรื่องที่กระทบตลาดหุ้นและคนไทยทั่วไป แม้จะมาช้า แต่ก็มาแล้ว สะท้อนว่ามัจจุราชไร้พรมแดนจริง ๆ
ที่น่าสนใจคือการระบาดของโควิด-19 ในเมืองไทยยามนี้ ดูเหมือนรัฐบาลจะต้องแบกรับในฐานะ “แพะ” เต็ม ๆ เพราะไม่มีปัจจัยอื่นใดให้กล่าวโทษได้อีก นอกจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการรับมือปัญหานี้
ขนาดข้อเท็จจริงที่ว่า อากาศร้อนช่วยระงับความรุนแรงของการแพร่ระบาด จนยอดคนไข้ที่พุ่งขึ้นสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว จนล่าสุดทะลุกว่า 2,000 คนต่อวัน ถ้าไม่เรียกว่าความล้มเหลว จะให้เรียกว่าความสำเร็จได้อย่างไร
คำโอ้อวดของรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ว่า ประเทศไทยมีระบบป้องกันดีที่สุดในเอเชียหรือในโลก หรือการกระจายวัคซีนที่แพร่หลายทั่วประเทศ แต่มียอดผู้รับการฉีดไปแค่ 2 แสนกว่ารายเท่านั้น ทำให้คำโอ้อวดกลายเป็นแค่ การประชาสัมพันธ์ที่เกินจริง ทำลายสินค้าที่เลวได้ชะงัดดีแท้
ที่ผ่านมา ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ มีความร่วมมือชั้นเยี่ยม ถึงขั้นยอมให้รัฐบาลจับเป็นตัวประกันเพื่อสร้างความชอบธรรมโดยไม่ปริปากมากมาย ไม่ว่าจะชอบหรือชังรัฐบาล ในการสวมหน้ากาก หรือ ล็อกดาวน์ หรือรักษาระยะห่างทางสังคม จนทำให้การแพร่กระจายของโควิด-19 ในประเทศไทยน้อยกว่าต่างชาติ แต่เวลาที่ผ่านไปกว่า 1 ปี กลายเป็นความสูญเปล่าเพราะหน่วยงานรัฐ ไม่ได้ใช้ความพยายามเพียงพอในการจัดหาวัคซีนมาดูแลสุขภาพประชาชนเรียกว่าหย่อนยานเลยทีเดียว
หลายเดือนมานี้ ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีภาวะจิตวิทยาเชิงบวก ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นสวนผลประกอบการ จนกระทั่งเกือบทะลุแนวต้าน 1,600 จุดขึ้นไปได้ พร้อมกับปรากฏการณ์ “หุ้นขึ้นวันจันทร์ ร่วงวันศุกร์” ได้กลายเป็นแค่การ “คิดไปเอง” ทั้งสิ้น
นักลงทุนที่รู้จักกันดีหลายคน ที่เคยมองว่าดัชนีรอบนี้มีโอกาสทะลุผ่านแนวต้าน 1,600 จุดไม่ยาก แม้ค่าพี/อีของตลาดจะสูงมากเป็นประวัติการณ์ เริ่มพากันถอดใจในช่วงหลังสงกรานต์เป็นต้นมา ที่พบการระบาดที่พุ่งแรงชนิดยั้งไม่อยู่ แถมเปลี่ยนจากเดิมที่เคยมีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศเป็นหลัก เปลี่ยนเป็นการระบาดจากคนในประเทศด้วยกันเองอีก
ความกังวลต่อโควิด-19 ยามนี้จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจหาแพะตัวไหนมารับบาปแทนรัฐบาลได้ ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์จะไปประชุมอาเซียนหรือไม่ก็ไม่มีความหมายอะไร
สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นยามนี้ ที่ยังรู้สึกกังวลใจในทุกครั้ง เมื่อเวลาผ่านมาจนถึงวันศุกร์ เนื่องจากคิดว่าตลาดหุ้นมักจะเผชิญแรงขายออกมา เพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงถือข้ามสัปดาห์ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเราเห็นตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในแทบทุกวันศุกร์…ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่……คงไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันอีกแล้ว
สัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าโอกาสที่ดัชนีของตลาดมีโอกาสทดสอบแนวรับใต้ 1,500 จุดในสัปดาห์นี้ อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น หากว่า การระบาดของโควิค-19 ยังไม่ยอมหยุด และถึงขั้นต้องใช้มาตรการเข้มข้น ด้วยการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ อันเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมเกือบทั้งหมดของประเทศ ที่มีการกระจุกตัวเกินขีดจำกัด จากโครงสร้างที่บิดเบี้ยวของการพัฒนาประเทศที่เลอะเทอะและสายตาสั้น
ความชอบธรรมของอำนาจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่พยายามดันทุรังใช้อำนาจปกครองประเทศอย่างเลอะเทอะ ได้หมดสิ้นลงไปจากการล้มเหลวรับมือโควิค-19 เสียแล้ว เหลือแค่ฟางเส้นสุดท้ายที่จะชี้ขาด คือการที่ประชาชนเกิดความกล้าลุกขึ้นมาบอกว่า “ไปได้แล้ว” ห้วงเวลาที่ว่าจะช้าหรือเร็ว ขึ้นกับตัวเลขจำนวนคนป่วยและเสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นสำคัญ
ได้เวลานับถอยหลังแล้ว หากดัชนีต่ำกว่า 1,500 จุดเมื่อใด จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น จะไม่เชื่อก็ไม่ว่ากัน เราเตือนคุณแล้ว