IPO ฟีเว่อร์

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ก่อนจะเข้าสู่เรื่องที่จั่วหัวอย่างเป็นทางการ “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงดราม่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้ชาวบ้านรู้สึกแปลกในชีวิตกันสักหน่อย โดยเฉพาะเรื่องค่าปรับจากการไม่ใส่แมสก์ มันเป็นเรื่องที่ลักลั่นแบบพิกลพิการอย่างไรก็ไม่รู้? โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ “ลุงตู่” ไม่ใส่หน้ากากเข้าประชุม จนนำไปสู่ปาหี่เสียค่าปรับกันแบบนี้..มันเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้จริง ๆ เพราะคนต้นทางไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีเลยพับผ่าซิ!..แล้วอิฉันจะหวังอะไรได้ล่ะคะ

* ประเด็นถัดมาเป็นเรื่องครอบครัวเดียวกัน นั่งรถยนต์คันเดียวกัน ก็ต้องใส่แมสก์ตลอดเวลา..มันเป็นเรื่องที่หลายคนอยากถามผู้ออกกฎอย่าง กทม. ว่า กลับไปบ้านทุกคนก็ถอดแมสก์กันทั้งนั้น! จึงค่อนข้างสับสนกับวิธีคิดของคนออกกฎพอสมควร (หรือพวกท่านอยู่บ้านกับครอบครัวก็ใส่แมสก์ตลอดเวลา)..รวมทั้งเรื่องค่าปรับที่เกิดขึ้นก็ควรเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำในช่วง เศรษฐกิจฝืดเคืองกันบ้าง (เงินห้าร้อย หรือหนึ่งพัน มันมีความหมายสำหรับชีวิตคนรายได้น้อย) นะคะ

* ถึงกระนั้นต้องยอมรับว่า แม้กฎระเบียบบางอย่างอาจเบี้ยว ๆ บูด ๆ ไปบ้าง! แต่ทุกคนก็ยินดีที่จะปฏิบัติตาม และหันมาใช้แนวทาง WFH เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กันอย่างเต็มที่ “โมนิก้า” จึงขอชื่นชมคนไทยทุกคนที่ช่วยกันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ เพราะแนวทางที่ทุกคนทำน่าจะช่วยให้การติดเชื้อใน 2 สัปดาห์ข้างหน้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และจะทำให้ระบบเศรษฐกิจเริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้งนะจะบอกให้

* วันนี้ถึงต้องเข้าใจเหตุผลที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ 1,559.23  ลบไป 0.30 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.75 หมื่นล้านบาท เพราะมันเป็นจังหวะของการรอข่าวดีเข้ามาซัพพอร์ตอย่างเต็มตัว บวกกับนักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ยังอิงข่าวรายวันเป็นหลัก จึงทำให้หลายอย่างวุ่นวายไปตามสถานภาพ ซึ่งเหมือนกับข่าว “ลุงตู่” ออกมาประกาศเบรกขึ้นเหล็ก จนทำให้หุ้นเหล็กร่วงระนาวไงล่ะคะ

* ท่ามกลางกระแสความวุ่นวายมากมาย “โมนิก้า” กลับเห็นความคึกคักที่เกิดขึ้นหับหุ้น IPO และดูเหมือนเรื่องนี้จะทำให้การยื่นไฟลิ่ง และการเข้าเทรดวันแรกของหุ้นน้องใหม่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะราคาที่เปิดจองซื้อให้ส่วนลดค่อนข้างเยอะ ผสานกับตัวเลขกำไรที่เอามาโชว์ก็เป็นของปีก่อน ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดของธุรกิจต่าง ๆ จึงทำให้หุ้นน้องใหม่มีอัพไซด์ให้ไล่ราคากันบานตะเกียงเจ้าค่ะ

* เช่นเดียวกับในรายของหุ้นน้องใหม่ PROS โชว์ฟอร์มสดด้วยการยืนปิดที่ 3.36 บาท บวกไป 1.36 บาท หรือขึ้นไป 68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.33 พันล้านบาท กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ทุกคนพร้อมกระโจนใส่แบบไม่ต้องคิดให้รกสมอง เพราะเชื่อกันเหลือเกินว่า ในอนาคตทุกอย่างน่าจะดีขึ้น! จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องติดตามดูกันไป และควรเผื่อใจไว้บ้างนะตัวเอง

* รายถัดมาที่จะเข้าเทรดอย่าง ASW ถือเป็นหุ้นอสังหาฯ ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และยังทำผลงานในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักในปี 2563 ได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับโครงการใหม่ที่เปิดขายก็ยังไปได้เรื่อย ๆ จึงกลายเป็นหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตาในมุมมองของคนที่เน้นเรื่องพื้นฐานเป็นลำดับแรก แถมเมื่อเหลือบดูค่า PE อยู่แค่ระดับ 8 เท่า ขณะที่คู่เทียบในตลาดหุ้นอยู่แถว 11 เท่า เดี๊ยนเลยนำเรื่องราวดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของหุ้น PROEN ที่กำลังจะเข้าเทรดไล่ ๆ กันมา ก็กลายเป็นหุ้นเทคโนโลยีดาวเด่นที่เข้ากับสถานการณ์สุด ๆ เพราะที่ผ่านมาได้เห็นกันแล้วว่า ยุคดิจิทัลต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาซัพพอร์ตมากขนาดไหน? “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ชิ้นส่วนไอทีขาดตลาดอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แถมของที่จะส่งให้กับลูกค้าก็ทะลักยาวไปถึง ก.ค. แบบนี้..กระแสมันได้จริง ๆ นะพ่อคุณ

* ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น WINMED ขึ้นมาทันที! เพราะเป็นหุ้นที่รับกระแสโควิด-19 แบบเห็นเนื้อเห็นหนัง ยิ่งได้เห็นระบบคัดกรองคนที่จะร่วมงานด้วยวิธี Rapid Test ซึ่งมีความแม่นยำ 96% และจะรู้ผลภายใน 15 นาที ยิ่งทำให้รู้ว่า นี่เป็นหนึ่งในบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องการหาเชื้อ แถมเมื่อพลิกดูประวัติความเป็นมาจะเห็นว่า นี่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยในการตรวจเชื้อมะเร็งเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองติดตามการเซ็นอันเดอร์ไรท์ในรูปแบบออนไลน์วันนี้..มีมุมที่ตรงกับเม้าท์ให้ฟัง หรือเปล่า?