TVO ยังสดใส

แม้ราคาถั่วเหลืองจะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดเมื่อปี 2557 ถึง 43% แต่อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของ TVO ยังแข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง 2558 จนไปถึงปี 2559 โดยมีความต้องการเนื้อสัตว์ในตลาดโลกที่แข็งแกร่งน่าจะช่วยรักษาส่วนต่างราคากากถั่วเหลืองเพื่อผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์


–คุณค่าบริษัท–

 

แม้ราคาถั่วเหลืองจะปรับตัวลงจากจุดสูงสุดเมื่อปี 2557 ถึง 43% แต่อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO ยังคงแข็งแกร่งและมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง 2558 จนไปถึงปี 2559 โดยมีความต้องการเนื้อสัตว์ในตลาดโลกที่แข็งแกร่งน่าจะช่วยรักษาส่วนต่างราคากากถั่วเหลืองเพื่อผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์

ผนวกกับความต้องการน้ำมันถั่วเหลืองโลกที่อ่อนแอช่วยจำกัดการเพิ่มขึ้นของการขายกากถั่วเหลือง เนื่องจากกากถั่วเหลืองเป็นผลพลอยได้จากการสกัดน้ำมันถั่วเหลือง และราคาถั่วเหลืองที่เป็นวัตถุดิบของ TVO คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากความต้องการขายถั่วเหลืองยังมีมากพอควร

ที่สำคัญ ความต้องการการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศและการส่งออกที่มากขึ้น ทำให้ TVO ซึ่งเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบให้แก่ผู้ผลิตอาหารสัตว์และฟาร์มได้ประโยชน์จากความต้องการสูงนี้ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยคาดว่าความต้องการกากถั่วเหลืองของไทยจะเพิ่มขึ้น 7-8% ในปีนี้ ขณะที่ปริมาณขายกากถั่วเหลืองของบริษัทอาจเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะเพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตของตลาด

จากการที่ TVO มีความสามารถในการแข่งขันด้านราคามากขึ้น เนื่องจากมีส่วนต่างระหว่างราคากากถั่วเหลืองและถั่วเหลืองที่กว้างกว่า และเงินบาทที่อ่อนค่า    

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6,359.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,340.96 ล้านบาท เหตุจากเงินปันผลรับเพิ่มขึ้น และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามา ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 549.54 ล้านบาท หรือ 0.68 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 490.33 ล้านบาท หรือ 0.61 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 13,292.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 13,048.57 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,047.05 ล้านบาท หรือ 1.29 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,009.39 ล้านบาท หรือ 1.25 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจในการลงทุน เห็นได้ว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 7,242.74 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียนเพียง 1,721.81 ล้านบาท และเมื่อนำมาเปรียบเทียบค่า CURRENT RATIO ได้ที่ระดับ 4.21 เท่า แสดงว่า บริษัทยังมีความคล่องตัวทางการเงินพอสมควร จนเกิดทุนจมได้

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อนำหนี้สินรวมที่มีอยู่ 1,827.19 ล้านบาท มาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับ 7,836.73 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.24 เท่า แสดงว่า บริษัทไม่มีหนี้สินใดๆ มารบกวนต่อการดำเนินงานในอนาคต

ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ธนชาต ได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างกำไรและราคาถั่วเหลืองที่เปลี่ยนไปทำให้ TVO มีความสามารถในการทำกำไรในช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแอได้ดีกว่าแต่ก่อน จึงเชื่อว่า TVO จะมีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้น นอกเหนือไปจากการได้ประโยชน์จากความต้องการในประเทศที่เติบโต ดังนั้นมองว่าบริษัทให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนที่มีคุณภาพมากขึ้นที่ 7-8% แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 35 บาท

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1. น.ส.สุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์ 61,787,400 หุ้น 7.64%

2. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 59,127,113 หุ้น 7.31%

3. นายวิชัย วิทยฐานกรณ์ 58,767,228 หุ้น 7.27%

4. นางรัตนา จันทร์พิทักษ์ 45,000,000 หุ้น 5.57%

5. นายไพวรรณ ชาติพิทักษ์ 23,680,000 หุ้น 2.93%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย สมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานกรรมการ

2.นายวิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร

3.นายศิริ การเจริญดี รองประธานกรรมการ

4.นายวิทูร ซื่อวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ

5.นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ กรรมการ

Back to top button