Krispy Kreme รีเทิร์นตลาดหุ้น
เมื่อ 20 ปีก่อน (ช่วงปี 2000) นักลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างรู้จักหุ้น Krispy Kreme กันเป็นอย่างดี มีหลายคนที่ลงทุนและมีกำไรอย่างมาก..ในทางกลับกันอีกหลายคนประสบผลขาดทุนกับหุ้นตัวนี้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะหลังเข้าตลาดหุ้นได้ประมาณ 16 ปี เกิดประสบมรสุมทางธุรกิจ จนทำให้ Krispy Kreme ต้องถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมเกิดการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่
เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง
เมื่อ 20 ปีก่อน (ช่วงปี 2000) นักลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างรู้จักหุ้น Krispy Kreme กันเป็นอย่างดี มีหลายคนที่ลงทุนและมีกำไรอย่างมาก..ในทางกลับกันอีกหลายคนประสบผลขาดทุนกับหุ้นตัวนี้ไม่น้อยเช่นกัน เพราะหลังเข้าตลาดหุ้นได้ประมาณ 16 ปี เกิดประสบมรสุมทางธุรกิจ จนทำให้ Krispy Kreme ต้องถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ พร้อมเกิดการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่
ล่าสุด Krispy Kreme มีการยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) และหากสำเร็จ นั่นหมายถึง Krispy Kreme ได้หวนกลับคืนสู่ตลาดหุ้นอีกครั้ง หลังพ้นสภาพจากบริษัทจดทะเบียนมากว่า 5 ปี
จุดกำเนิด Krispy Kreme ก่อตั้งขึ้นโดย “เวอร์นอน รูดอล์ฟ” เมื่อปี 1937 ส่วน “โดนัทเคลือบน้ำตาล (Original Glazed)” อันเป็นลายเซ็นของ Krispy Kreme เริ่มวางจำหน่ายปี 1945 จนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนมีการขยายสาขาทั่วสหรัฐอเมริกา และด้วยกระแสความนิยมนี่เอง ผลักดันให้ Krispy Kreme เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ สำเร็จช่วงปี 2000
แต่ทว่า..ด้วยกระแสรักสุขภาพ เข้ามาเบียดบังและลดทอนกระแสความนิยม Krispy Kreme ลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทั้งมีการเปิดตัวเมนูใหม่ การเพิ่มช่องทางการขายรูปแบบต่าง ๆ หรือการขายแฟรนไชส์นอกสหรัฐอเมริกาก็ตาม
นั่นไม่เพียงพอ..จนทำให้ Krispy Kreme ประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนัก ทำให้บริษัทต้องยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ หลังจากทำการปรับปรุงงบการเงิน รวมทั้งถูกตรวจสอบพฤติกรรมด้านการทำบัญชีและเผชิญกับวิกฤตยอดขายที่ตกต่ำลงจากแฟรนไชส์หลายแห่ง
ทำให้ปี 2016 ต้องขายกิจการให้ JAB Holding Company บริษัทสัญชาติเยอรมนี มูลค่า 1,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 40,000 ล้านบาท) หลังจากนั้น JAB เข้าถือหุ้นใหญ่กิจการเบเกอรี่ ภายใต้แบรนด์ “อินซัมเนีย คุ้กกี้” (Insomnia Cookies) ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า เป็นการขยายกิจการเบเกอรี่ครั้งสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่เพียงสัญลักษณ์ “โดนัทเคลือบน้ำตาล” เพียงเท่านั้น
โดย “อินซัมเนีย คุ้กกี้” มีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลการรับประทานเบเกอรี่และเครื่องดื่มหวาน ๆ ช่วงกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นมากกว่าวัยทำงาน ขณะที่ Krispy Kreme จะเป็นกลุ่มลูกค้าช่วงกลางวัน นั่นจึงทำให้ตอบสนอง “ของหวาน” ให้กลุ่มลูกค้าหลากหลายทั้งกลางวันและกลางคืนนั่นเอง..
มีการประเมินกันว่า การเสนอขายหุ้น IPO ครั้งใหม่นี้ จะช่วยให้ Krispy Kreme สามารถระดมเงินทุนจำนวนมาก จากช่วงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังคึกคักสุดขีด ประจวบเหมาะกับการเสนอขายหุ้น IPO เกิดขึ้นช่วงเวลาที่ความต้องการอาหารขบเคี้ยวและขนมหวานเพิ่มขึ้น เหตุด้วยประชาชนต้องอยู่ที่บ้าน ระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั่นทำให้เกิดการกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมาก..
น่าจับตาการรีเทิร์น Krispy Kreme ครั้งนี้ จะร้อนแรงสมคำร่ำลือหรือไม่..ที่สำคัญกระแสความนิยมของหวาน จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ “คุณปู่” ที่มีอายุยาวนานกว่า 80 ปี ได้มากน้อยเพียงใด..!?