กล้าได้..กลัวอด
* ดูเหมือนดราม่า “ความเป็นอยู่” และ “การลงทุน” ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยจะทำให้สังคมแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแต่ละคนเอาที่ตั้งของตนเองเป็นใหญ่ จนหลงลืมประโยชน์ของสังคมส่วนรวมคืออะไร? “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาดับอารมณ์ร้อน ๆ ที่ปะทุขึ้นมาเป็นดอกเห็ด จึงอยากให้ทุกคนมองเกมที่เกิดขึ้นไปทีละช็อต เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่การพูดความจริงครึ่งเดียวไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
* ดูเหมือนดราม่า “ความเป็นอยู่” และ “การลงทุน” ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยจะทำให้สังคมแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะแต่ละคนเอาที่ตั้งของตนเองเป็นใหญ่ จนหลงลืมประโยชน์ของสังคมส่วนรวมคืออะไร? “โมนิก้า” ถึงต้องออกมาดับอารมณ์ร้อน ๆ ที่ปะทุขึ้นมาเป็นดอกเห็ด จึงอยากให้ทุกคนมองเกมที่เกิดขึ้นไปทีละช็อต เพื่อจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่การพูดความจริงครึ่งเดียวไงล่ะคะ
* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ไม่อยากไปโทษใครทั้งสิ้น เพราะแต่ละคนก็มีข้อแก้ต่างที่หลากหลาย และยังมีการฟาดกลับใส่คนที่เห็นต่างอีกด้วยแบบนี้..สังคมไทยป่วยหนักแล้วนะเนี่ย! ซึ่งเริ่มตั้งแต่โทนี่วู้ดซั่มที่ลุกขึ้นมาโพนทะนาเรื่องวัคซีนไฟเซอร์เป็นตุเป็นตะ ทำให้บริษัทต้องออกมาตอกหน้าหงายไม่เป็นท่ากันเลย หรือแม้แต่ความเฉื่อยชาของรัฐบาล “ลุงตู่” ในการจัดการปัญหาโควิด-19 ก็ถูกชาวบ้านก่นด่ากันทุกวันอย่างนี้..แล้วจะเดินหน้ากันอย่างไร?
* โชคดีที่คนส่วนหนึ่งตัดทิ้งเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน และพยายามช่วยประคับประคองทุกอย่างให้เดินหน้าต่อไป ส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมไม่ได้แย่ลงจากที่เป็นอยู่สักเท่าไหร่ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลหันมาใช้มุกเดิมด้วยการเดินหน้าแจกเงินรัว ๆ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่รัฐบาลชุดนี้ทำเป็น! ซึ่งช่วยทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเริ่มหมุนอีกรอบ และเพิ่มความหวังในการพลิกฟื้นชีวิตอีกครั้งไงล่ะคะ
* เรื่องนี้น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,571.91 จุด บวกไป 22.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.13 หมื่นล้านบาท พร้อมกับปลุกความหวังที่จะได้เห็นดัชนีกลับขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุดอีกครั้ง มันเป็นโมเมนต์ของคนกล้าที่จะคิดในแง่บวก ส่วนคนที่ยังมีความรู้สึกกลัวอยู่ในใจ อาจต้องอดทนรอให้รูปการณ์โดยรวมดีขึ้นกว่านี้ ถึงจะเข้าซื้อหุ้นรอบใหม่นะจะบอกให้
* คล้ายกับการเด้งกลับอย่างรวดเร็วของหุ้น SCGP ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 55.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท ทั้งที่ต้นเดือนก่อนย่ำต๊อกต๋อยอยู่บริเวณ 45 บาท มันเป็นภาพที่ชี้ว่า ใครมองเห็น “วิกฤตคือโอกาส” ได้ดีกว่ากัน..คนนั้นชนะตลาด! เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับมองสตอรี่ของหุ้นลังกระดาษมีอะไรที่เป็นไฮไลต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้บ้าง..แล้วจะเห็นแวลู ของหุ้นจริง ๆ ควรอยู่ที่ไหนเจ้าค่ะ
* เหมือนกับการ “ขยับซ้าย ขยับขวา” ของหุ้นบ้านปู BANPU ในช่วง 2 เดือนครึ่ง ล้วนเป็นมุมที่ทำให้เสือปืนไวเล่นเก็งกำไรกันสนุกสนาน “โมนิก้า” จึงต้องตั้งคำถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ 12.70 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.18 พันล้านบาท ท่ามกลางสตอรี่เทิร์นอะราวด์ พ่วงด้วยการ COD ไฟฟ้าในญี่ปุ่น และมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดกำไรแบบนี้..มันน่าสนใจอ๊ะป่าว?
* เช่นเดียวกับการเด้งขึ้นของหุ้นควายทอง CBG หลังจากโดนรินขายเป็นแรมเดือน กลายเป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องโฟกัสไปที่กำไรปี 2564 จะโตไหม? เพราะเป็นเพียงตัวแปรเดียวที่บอกให้แฟนคลับรู้ว่า การยืนปิดที่ 112.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 826 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นไปต่อไหม? หลังราคาเทรดล่าสุดตั้งอยู่บนค่า PE 32 เท่าแล้วน่ะสิ
* ในเมื่อมาแนวลุยสุดซอย พ่วงด้วยสตอรี่เติบโตเป็นหลัก “โมนิก้า” คงโฟกัสไปที่หุ้น RPC เพื่อย้ำให้เห็นการไล่หุ้นแบบดุเดือดเลือดพล่าน จนหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.14 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 17.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 425 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 29 เท่า มันเป็นภาพที่นักเล่นต้องตามเกมให้ทันว่า เที่ยวนี้เป็นการไล่ราคาก่อนประกาศงบไตรมาส 1 ใช่ไหม? และผลของการประกาศงบจะทำให้เกิด Sell on Fact ไหม?..ลองคิดดูนะจ๊ะ
* เรื่องดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นเกม AS เพื่อชี้ให้เห็นช่วงเดียวกันของปีก่อนหุ้นอยู่แค่แถว ๆ 0.50 บาท แต่วานนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 10.50 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 8.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 376 ล้านบาท แถมเป็นการเทรดบนค่า PE 15 เท่าแบบนี้ มันเป็นจังหวะที่ต้องกล้าหรือเปล่า? แถมเมื่อมองในมุมของโลกออนไลน์ที่เล่นเกมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะทำให้หุ้นตัวนี้ไปโลดไหม? ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคิดทั้งนั้นเจ้าค่ะ
* ป.ล.สุดท้ายฝรั่งก็ย้อนกลับมาซื้อคืน 1.17 พันล้าน หลังจากวันก่อนขายทิ้งรวดเดียวหมื่นกว่าล้าน..ก็บอกแล้วไงว่า มันคือแป้ง..อุ๊ย..มันคือเกม อิอิอิ