คิดใหม่..เล่นใหม่โมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ก็เป็นเพียงละครปาหี่ที่หลอกให้ผู้คนทั่วไปขนหัวลุกมาระยะหนึ่ง ก่อนจะเฉลยอย่างเป็นทางการว่า นี่เป็นเพียงวาทกรรมที่ต้องการทำให้ตัวเองเป็นพระเอกตัวจริง แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่า นี่คือผู้ร้ายต่างหาก “โมนิก้า” ถึงรู้สึกอึดอัดใจที่เห็นการวิเคราะห์บางส่วนยังเทน้ำหนักไปที่ประเด็นดังกล่าวนะจะบอกให้


*ในที่สุดเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ก็เป็นเพียงละครปาหี่ที่หลอกให้ผู้คนทั่วไปขนหัวลุกมาระยะหนึ่ง ก่อนจะเฉลยอย่างเป็นทางการว่า นี่เป็นเพียงวาทกรรมที่ต้องการทำให้ตัวเองเป็นพระเอกตัวจริง แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่า  นี่คือผู้ร้ายต่างหาก “โมนิก้า” ถึงรู้สึกอึดอัดใจที่เห็นการวิเคราะห์บางส่วนยังเทน้ำหนักไปที่ประเด็นดังกล่าวนะจะบอกให้

*เนื่องจากสิ่งที่ปรากฏในยามนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ได้เวลาที่นักลงทุนจะต้องทบทวนการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 58 ควรเป็นการเล่นแบบ “เกมบุก” หรือเน้นอยู่ในโซนของตัวเองเพื่อแพ็ก “เกมรับ” ให้เหนียวแน่นกว่าเดิม เพราะการที่ดัชนีอ่อนตัวจากจุดสูงสุดที่ระดับ 1,397.77 จุด ลงมาปิดที่ระดับ 1,390.32  จุด บวกไป 0.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.91 หมื่นล้านบาท มันถึงเวลาที่นักเล่นต้อง “คิดใหม่ เล่นใหม่” แล้วนะจ๊ะ

*ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เกิดจาก “โมนิก้า” จิตนาการไปเอง แต่เป็นผลมาจากคำอธิบายจากในประเทศ และต่างประเทศที่เม้าท์เหมือนกันว่า การที่เฟดไม่ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนั้น น่าจะมาจากความไม่มั่นใจในระบบเศรษฐกิจโลก จึงจำเป็นต้องเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน และเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงระเนระนาด มันเป็นเป็นการตอกลิ่มว่า ทั่วโลกติดกับดักเฟดกันเสียแล้วเจ้าค่ะ

*งานนี้ต่อให้ปรับจูนทัศนคติกันอย่างไร? ก็คงไม่เป็นผลสักเท่าไหร่? เพราะผู้รู้หลายสำนักพุ่งเป้าไปที่เดือน ธ.ค. 58 น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ซึ่งผู้รู้ให้เหตุผลว่า นี่เป็นจังหวะที่เห็นการเคลื่อนไหวของสภาพเศรษฐกิจโลกได้ชัดเจนสุด “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับพิจารณาถึงความพร้อมของตัวเอง เพราะไปๆ มาๆ วันนี้ก็มาเล่นข่าวเรื่อง window dressing อีกแล้วนะซี

*ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาเม้าท์ถึงไทม์ไลน์ที่เป็นประเด็นสำคัญเพื่อแฟนคลับจะได้หาจังหวะ take profit ได้ทันท่วงที เพราะดูท่าทางแล้วพบว่า ดัชนีมีแนวโน้มทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,400 จุดเป็นครั้งที่ 2 หลังมีแรงซื้อเข้ามารับหุ้นเป็นระยะในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ วันนี้ถึงต้องกล้าเข้าเล่นใหม่อีกรอบนะจ๊ะ

*เหมือนกับการเข้าลงทุนในหุ้น KBANK กับ BBL ในช่วงตลาดหุ้นผันผวน “โมนิก้า” มองได้แค่ประเด็นเดียวก็คือ “ซื้อกลับ” หลังจากหุ้นลงมาเยอะเกินไป บวกกับสถานการณ์ของแบงก์ไม่ได้ล่อแหลมเหมือนกับ SCB  KTB  TCAP  ซึ่งมีปัญหาเรื่องหนี้เสียคอยรบกวนตลอดเวลา วันนี้ถึงต้องโฟกัสหุ้นเป็นรายตัว เพื่อความคล่องตัวในการเล่นรอบ เพราะช่วงนี้ต้องว่ากันด้วยพื้นฐานล้วนๆ นะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องพื้นฐานขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นที่อยู่ในกลุ่มโซลาร์ฟาร์มขึ้นมาในทันที หลังมีการประกาศหลักเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าของหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งมีหุ้นหลายตัวที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว แต่ตัวเด่นๆ ที่มีประกาศช่วงชิงเค้กชิ้นนี้ได้แก่ IFEC-SUPER-SOLAR-SPCG-GUNKUL โดย 2 ตัวแรกที่เดี๊ยนกล่าวถึงถือเป็นตัวหลักในการเล่นเที่ยวนี้ เพราะเจ้าแรกสายสัมพันธ์แน่นปึ้กในกลุ่มราชการ ส่วนตัวหลังก็มีคอนเน็กชั่นกับกลุ่มสหกรณ์ จริงเท็จประการใด..ลองไปสอบถามกับเจ้าตัวกันเอาเองนะคะ

*วันนี้ถึงต้องมาวิเคราะห์กันต่อว่า เจ้าแรกปิดที่ในระดับ 10.40 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ส่วนรายหลังปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.03 บาท ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องคิดกันอีกทอดหนึ่งว่า นี่เป็นจุดที่ลงทุนได้สบายๆ ใช่ไหม?  “โมนิก้า” ถือเป็นโพซิชั่นที่นักลุยจะต้องวางแผนกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหลังจากนี้จะมีคนประกาศตัวร่วมชิงชัยกันเยอะขึ้นพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ FER มากน้อยขนาดไหน? “โมนิก้า” ไม่อาจล่วงรู้ได้ เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้ กลายเป็นว่า มีหุ้นหลายตัวที่ถูกจับไปโยงกับประเด็นดังกล่าว เมื่อวันศุกร์ถึงเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.34 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 13.60% ด้วยมูลค่า 305 ล้านบาท มันเป็นอีกหนึ่งความแรงที่ทำให้เดี๊ยนต้องเหลียวหลังไปมองในทันที..ไม่เชื่อลองถาม ดร.ประสิทธิ์ ดูซิค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องพลังงานทางเลือกขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็จำเป็นต้องเม้าท์ถึงมวยหลักอย่าง EA เพื่อเปิดเป็นออปชั่นให้แฟนพันธุ์แท้ขาลุย ล่าสุดเห็นหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 21.40 บาท บวกไป 0.40 บาท ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท เท่ากับเป็นการแสดงให้เห็นว่า ยังเป็นเบอร์หนึ่งที่อยู่ในหัวใจแมงเม่า จึงมีโอกาสไต่ระดับกลับขึ้นไปแถว 28 บาทในไม่ช้านะตัวเอง

*ตบท้ายกันที่หุ้น BH ซึ่งคับคั่งไปด้วยกองทุนไทยและกองทุนเทศ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจพวกหัวอ่อนที่เห็นอะไรผิดรูปผิดร่างก็รีบทิ้งหุ้นทันทีนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะคิดจะเล่นหุ้นประเภทนี้ ต้องมีสายป่านที่ค่อนข้างยาว ลงทุนทีเป็นหนึ่งปีสองปีเลยทีเดียว คิดดูแล้วกัน! 2 ปีที่แล้วหุ้นอยู่แถว 75 บาท ถัดมาอีกหนึ่งปีขึ้นมายืนอยู่ที่ 150 บาท ขณะที่ล่าสุดปิดที่ 229 บาท ลบไป 8 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท..แล้วปีต่อไปจะเป็นเท่าไหร่ ลองไปเทียบตรรกะกันเอาเองนะคะ

Back to top button