แบงก์กับปัญหาSSI ลูบคมตลาดทุน
คิดเหมือนกันไหมว่าวานนี้ (21 ก.ย.) หุ้น 3 แบงก์เจ้าหนี้ SSI ลงน้อยกว่าคาด
ธนะชัย ณ นคร
คิดเหมือนกันไหมว่าวานนี้ (21 ก.ย.) หุ้น 3 แบงก์เจ้าหนี้ SSI ลงน้อยกว่าคาด
กรุงไทย หรือ KTB ลดลง 0.40 บาท มาที่ 17.80 บาท เปลี่ยนแปลง 2.20%
แนวรับที่ราคา 17.80 บาทนี้ มีแรงเข้ามารอซื้อจำนวนมาก แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ราคาหลุดไปที่ 17.60 บาท แต่ก็ดีดเด้งกลับมาที่ 17.80 บาทได้
มีข่าวว่าพวกกองทุนมารอรับ
ส่วนอีกด้านก็ยังมีข่าวดีเรื่องจะได้รับเงินจาก AQ อีก 1 หมื่นล้านบาท (ไม่รู้ตอนไหน)
แต่ในมุมมองของโบรกฯ ก็บอกว่า ราคาในกระดานตอนนี้ ตอบรับกับปัญหาหนี้ SSI ไปหมดแล้ว
ส่วนปัญหาหนี้ของสหฟาร์ม หากดูจากข่าวและคำให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารกรุงไทย ก็บอกเช่นกันว่า ตั้งสำรองฯไปหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง
ไทยพาณิชย์ หรือ SCB ราคาหุ้นก็ลงไม่มาก
บางวัน ไม่ได้มีข่าวร้ายอะไรเข้ามาเลย หุ้น SCB ยังเคยลงหนักกว่านี้
วานนี้ SCB ปรับลงแค่ 3 บาท มาที่ 141 บาท เปลี่ยนแปลง 2.08% เพราะมีแรงเข้ามารับซื้ออยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่ร่วงลงไปที่ 138 บาท
แต่ SCB เองนั้น ก็ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เช้า ว่าจะต้องตั้งสำรองฯปัญหา SSI เพิ่มเท่าไหร่
และจำนวนเงินที่ต้องเพิ่มนั้น จะมาจากส่วนไหน นั่นก็คือ กำไรพิเศษจากการขายหลักทรัพย์ที่มีกำไรเข้ามากว่า 7-8 พันล้านบาทในไตรมาส 3/2558
ปกติ SCB จะมีกำไรต่อไตรมาส 1.25-1.35 หมื่นล้านบาท
หากไตรมาส 3 นี้ ต้องตั้งสำรองฯของ SSI อีก 1.1 หมื่นล้านบาท และนำกำไรพิเศษ 8 พันล้านบาทมาหักออกไป ก็จะทำให้เหลือภาระอีก 3 พันล้านบาท
ก็น่าจะสอดคล้องกับ คุณญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCB ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อนตลาดหุ้นเปิดทำการ 10.00 น. เพียงไม่กี่นาทีว่า “กระทบกำไรไม่มาก”
ฟังแบบนี้ก็พอจะนั่งไขว่ห้าง กระดิกเท้าชิลๆ ได้
มาถึงหุ้นของทิสโก้ หรือ TISCO กันบ้าง
หากใครตามหุ้น TISCO และเมื่อดูจากเส้นกราฟ ก็จะพบว่า ราคาหุ้นลงมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 วัน
พูดง่ายก็คือ รับข่าวไปหมดแล้ว
ราคาตอนนี้ ก็ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน อะไรแบบนั้นแหละ
ปัญหาที่เหลือตอนนี้ จะต้องตั้งสำรองฯอีก 1.4-1.5 พันล้านบาท สำหรับ SSI ในประเทศไทยเท่านั้น
นั่นเพราะ SSI ที่อังกฤษ ตั้งสำรองฯไปครบ 100% ก่อนหน้านี้แล้ว หรือตั้งแต่สิ้นไตรมาส 2/2558 ซึ่งหากจำไม่ผิดทาง “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ก็เคยนำเสนอข่าวนี้ไปแล้วด้วย
ส่วนกำไรค่ายแบงก์ไหนจะเหลือเท่าไหร่ สิ้นปี 2558 จะเป็นอย่างไร คงต้องรอดูตัวเลขที่ทางนักวิเคราะห์ของโบรกฯแต่ละสำนักจะดีดลูกคิดกันออกมาให้ชมกันอีกครั้ง
อย่างของบล.ธนชาต คาดการณ์ว่า ของทิสโก้จะกระทบกำไรปีนี้ราวๆ 32%
รองลงมาเป็นกรุงไทยซัก 22%
และไทยพาณิชย์น้อยสุดเพียง 13%
มีประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติมกับนายแบงก์ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ว่า กรณีของ SSI โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อที่ไปลงทุนต่างประเทศ
และยิ่งเป็นธุรกิจเหล็กด้วยแล้ว ต่อไปต้องระวังกันเป็นพิเศษ
อย่าง SSI แม้จะเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กรายใหญ่มากๆ แต่สินค้าเหล็กนั้น เวลาคนซื้อ เขาไม่ดู “แบรนด์ของเหล็ก”
เหล็กมันก็เหมือนๆ กันหมดนั่นแหละ
นี่เป็นบทเรียนราคาแพงของนายแบงก์ไทย