BROOK กับกระแส ‘เห่อคอยน์’
หลังจากบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK เผยแพร่สารสนเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ว่า บริษัทได้เข้าลงทุน บิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นจํานวน 122.3158 เหรียญ มูลค่าลงทุนประมาณ 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 200 ล้านบาท ผ่านบริษัทย่อยที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง และบันทึกบัญชีเป็น “สินค้าคงเหลือสินทรัพย์ดิจิทัล” โดยใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนในสหรัฐฯ แห่งหนึ่ง เพื่อจัดเก็บและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว
เมกะเทรนด์ : สุภชัย ปกป้อง
หลังจากบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK เผยแพร่สารสนเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ว่า บริษัทได้เข้าลงทุน บิตคอยน์ (Bitcoin) เป็นจํานวน 122.3158 เหรียญ มูลค่าลงทุนประมาณ 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 200 ล้านบาท ผ่านบริษัทย่อยที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง และบันทึกบัญชีเป็น “สินค้าคงเหลือสินทรัพย์ดิจิทัล” โดยใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนในสหรัฐฯ แห่งหนึ่ง เพื่อจัดเก็บและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว
พร้อมจะเข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลสูงถึง 1,500 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/2564 เตรียมนำเงินเพิ่มทุนเข้าลงทุนใน สินทรัพย์ดิจิทัลอีก พร้อมจัดตั้งแผนกสินทรัพย์ดิจิทัลขึ้นมาใหม่ โดย BROOK ระบุแนวทางธุรกิจที่วางไว้ องค์ประกอบ สินทรัพย์รวมจะเปลี่ยนไปเป็นอยู่ในรูปสินทรัพย์ดิจิทัลมากถึงประมาณ 50%
เท่านั้นแหละ..เช้าวันถัดมาหุ้น BROOK ปรับขึ้นชนซิลลิ่งทันที ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 300 ล้านบาท (จากเดิมหุ้น BROOK ซื้อขายเฉลี่ยวันละไม่กี่สิบล้านบาท แหละนั่นเป็นการเติมเชื้อทำให้ 2 วันทำการสุดท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการแห่เข้าเก็งกำไรกันอย่าง “บ้าคลั่ง” มูลค่าซื้อวันละกว่า 1,000 ล้านบาท เพียงแค่ 3 วัน ราคาหุ้น BROOK ปรับขึ้นกว่า 65%
แปลกแต่จริง!..ราคาหุ้นไม่ถึง 1 บาท แต่มูลค่าซื้อขายวันละ 1,000 ล้านบาท นั่นจึงเท่ากับว่า “เข้า ๆ ออก ๆ” เก็งกำไรกันตลอดทั้งวันเลยทีเดียว
นี่คือปรากฏการณ์ “เห่อคอยน์” แม้ว่า BROOK จะสร้างประวัติศาสตร์ประกาศลงทุน “สินทรัพย์ดิจิทัล” เป็นบริษัท จดทะเบียนรายแรก ถือเป็นการลงทุนที่ยังจับต้องแทบไม่ได้เลย แต่มีการ “โหนกระแส” มันจึงกลายเป็นเกมไล่ล่าอย่างเมามันบ้าคลั่ง ภายใต้ความเชื่อกันว่า “คอยน์” กำลังจะเปลี่ยนโลก (จริงหรือ.!?)..!?
ปัญหาคือ Bitcoin กำลังเล่นกับกระแส ด้วยการอาศัยความอ่อนแอด้านภูมิต้านทานของนักลงทุนที่ต้องการ “รวยฉับพลัน” หันมาแสวงโอกาสเก็งกำไรช่วงตลาดหุ้นไทยกำลังผันผวนจัดกระบวนกันไม่ได้ ทำให้หุ้น BROOK จึงเข้ามาอยู่ในเรดาร์การเก็งกำไรระยะสั้นทันที
และนั่น..ทำให้เกิดวาระแอบแฝงของหุ้นอีกหลายตัว..อาศัย “แรงเห่อคอยน์” ด้วยการออกมาให้ข้อมูลหรือสร้างกระแสว่า..จะลงทุน Bitcoin หรือว่า “คอยน์” สกุลอะไรก็แล้วแต่..ที่จะสรรหาเอามาช่วยปลุกปั้นสร้างราคาหุ้นให้กับบริษัทหรือผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ปรากฏการณ์เช่นนี้..เคยเกิดขึ้นมาแล้วสด ๆ ร้อน ๆ กับกระแส “เห่อกัญชง-กัญชา” ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่เพียงแค่บอกว่าสนใจ “ธุรกิจกัญชง-กัญชา” เท่านั้นแหละ..นักลงทุนก็แห่เข้าเก็งกำไรจนราคาหุ้นวิ่งพรวดชนซิลลิ่งกันเลยทีเดียว ทั้งที่บางบริษัททำธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องผลิตภัณฑ์หรือผลผลิตอะไรจาก “กัญชง-กัญชา” เลย..!!
เพียงแค่บอกว่า “สนใจทำธุรกิจกัญชง-กัญชา” ราคาก็วิ่งเสมือนมีกำไรจากธุรกิจนี้ไปแล้ว..แต่มาถึงตอนนี้ แค่นำเข้าเมล็ดกัญชง-กัญชา เรื่องยังคาอยู่ที่องค์การอาหารและยา (อย.) ยังไม่มีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
รายใดที่ได้ใบอนุญาตแม้แต่ใบเดียว..แค่จุดเริ่มต้นของธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับกัญชง-กัญชา ยังไม่เกิดขึ้นเลย..แต่ก็เกิดกระแส “บ้าคลั่ง” แห่เก็งกำไรล่วงหน้าไปไกลแล้ว
อีกหนึ่งตัวอย่าง..ที่เห็นได้ชัดคือกระแส “เห่อโซลาร์ฟาร์ม” ช่วงสัก 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่ว่าบริษัทไหนออกมา กระแอมให้ข่าวว่า “สนใจลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” เท่านั้นแหละ..ราคาหุ้นขึ้นทันทีทันใด ชนิดที่ว่า “แค่บอกว่าคิด..หุ้นก็วิ่งแล้ว”..!!
และครั้งนั้น..เป็นการ “สร้างบาดแผลอันแสนเจ็บปวด” ให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อย..จึงเป็นบทเรียนให้กรณีปรากฏการณ์ “เห่อกัญชง-กัญชา” มาจนถึง “เห่อคอยน์” อย่างบ้าคลั่งได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าจะเลือกจดจำกันหรือไม่เท่านั้นเอง..
งานนี้ “ใครเข้าเร็วกำไร..ใครออกช้าจ่ายรอบวง” คงเป็นเช่นนั้นแล..!?