sideway และ sell in may

ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ

ขึ้นไปสูงสุด 1,570 จุด และต่ำสุด 1,557 จุด มูลค่าการซื้อ 83,533 ล้านบาท น้อยกว่าหลายวันก่อนหน้านี้

ภาษาของนักวิเคราะห์เขาจะบอกภาวะตลาดหุ้นแบบนี้ว่า “แกว่งตัว” หรือ sideway

ส่วนแนวโน้มวันนี้ดัชนีมีแนวต้าน 1,570 จุด

และแนวรับ 1,550 จุด

หรือยังแกว่งตัวเช่นเดิมเหมือนวานนี้

ภาวะที่ตลาดหุ้นแกว่งตัวหรือ sideway จะค่อนข้างเล่น หรือลงทุนยาก

แรงซื้อกับขายหุ้นจะพอ ๆ กัน

แถมตลาดยังมีมูลค่าการซื้อขายหรือ วอลุ่มที่ค่อนข้างบาง หรือลดลงจากภาวะปกติ

ดัชนีตลาดหุ้นจึงไม่เคลื่อนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแบบแรง ๆ เช่น ขึ้นแรง ลงแรง จนกว่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นบวก หรือลบ เข้ามากระทบนั่นแหล่ะ

และปัจจัยนั้น ๆ ที่เข้ามาจะเข้ามาช่วยสร้างเทรนด์ได้

เหตุที่วอลุ่มหายไป เพราะนักลงทุน นักเก็งกำไร มักจะชะลอการลงทุน หรือเฝ้าดูตลาดไปก่อน เพราะวิเคราะห์ได้ยาก

และจะรอไปจนกว่าจะเห็นปัจจัยที่จะเข้ามาหนุน หรือกระทบกับตลาดหุ้น

ประเด็นที่เฝ้าจับตากันอยู่ตอนนี้ น่าจะเป็นเรื่องตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ

27-28 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด น่าจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อ

เรื่องเงินเฟ้อนี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า จะเป็นผลกระทบกับตลาดหุ้น

แต่ก็อาจเป็นเพียงระยะสั้น

ปัจจัยภายในของไทยเองมีเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาทเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

เรื่องนี้ทำให้มีมุมมองว่า เศรษฐกิจไทยอาจปรับลงแบบ “จำกัด” จากเม็ดเงินก่อนนี้จะเข้ามาช่วยพยุง

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 นักลงทุนน่าจะเริ่ม ๆ ชินกับตัวเลข แต่ยังจับตาเรื่อง “วัคซีน”

ปัจจัยลบ และบวก เข้ามาแบบนี้

เลยเป็นที่มาของคำว่าแกว่งตัว

หากเป็นนักลงทุนน่าจะพอรู้กันดีว่า ภาวการณ์แบบนี้ “เล่นยาก”

ทำให้เวลาเข้าแต่ละไม้ จะมีวอลุ่มลดลง เพื่อป้องกันความเสี่ยง และหากมีกำไรนิดหน่อย เพียงไม่กี่ช่อง ต่างจะทราบดีว่า ต้องรีบขายทำกำไร ก่อนจะไม่มีกำไร

ตลาดแกว่งตัวแบบนี้มีคำแนะนำว่า “อย่ากลัวตกขบวน”

แต่ให้ “กลัวขาดทุน” ไว้ก่อนดีกว่า

มาถึงเรื่อง sell in may

sell in May and Go Away นี่ก็นำมาพูดกันทุกปี เมื่อตลาดหุ้นเข้าสู่ช่วงเดือนพฤษภาคม

เหตุที่มีการพูดถึงกันมาก เพราะช่วงเดือนพฤษภาคม นักลงทุนจะเทขายทำกำไร หลังบริษัทจดทะเบียนแจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกกันออกมา

บวกกับหุ้นเกือบทั้งหมด ได้ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล

ภาวการณ์นี้นักลงทุน จะเทขายหุ้นในช่วงนี้เยอะ

ตลาดจะเป็นช่วงของการปรับฐาน

ที่นี้ของตลาดหุ้นไทย บรรดานักวิเคราะห์มองว่า sell in may ไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะแต่ละปีจะมีปัจจัยที่แตกต่างกัน อย่าง 1-2 ปีนี้ มีเรื่องโควิด-19 เข้ามา ทำให้หุ้นไทยลงมาค่อนข้างมาก

และยังไม่ได้ฟื้นมากนัก

sell in may จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะนักลงทุนต่างพยายามสะสมหุ้นเพื่อรอรับข่าวในช่วงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว หลังการเข้ามาของวัคซีนในช่วงครึ่งปีหลัง

ดูแล้วก็น่าจะใช่

เพราะจะพบว่า ในช่วงนี้นักลงทุนจะเล่นหุ้นแบบเลือกเป็นรายตัวเป็นหลัก

มีปัจจัยบวกแบบเฉพาะตัว หรือได้รับผลบวกจากนโยบายของรัฐเรื่องการฟื้นเศรษฐกิจ

หุ้นกลุ่มนี้จะมีแรงซื้อสะสมเข้ามาเรื่อย ๆ เช่น ท่องเที่ยว ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ หรือเข้ามาสะสมในช่วงที่ราคายังถูก ๆ แล้วไปรอขายตอนที่ราคาพุ่งขึ้น

ในช่วงที่ตลาดหุ้นแกว่งตัว

ไม่ใช่ว่าตลาดหุ้นถึงกับเล่นไม่ได้เลย

ขึ้นอยู่กับแนวคิด การวิเคราะห์ ของนักลงทุนแต่ละคนว่าจะมีมุมมองกันอย่างไร

Back to top button