รายย่อยอุ้มตลาดหุ้น

ผ่านมาเกือบ 5 เดือนแรกปี 2564


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ผ่านมาเกือบ 5 เดือนแรกปี 2564

นักลงทุนสถาบันขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 42,113 ล้านบาท

แล้วนักลงทุนต่างประเทศล่ะ?

คำตอบ…ขายเช่นกัน และขายหนักกว่านักลงทุนสถาบันอีก หรือ 63,677 ล้านบาท

หากดูตามคำนิยามของนักลงทุนสถาบัน จะแบ่งนักลงทุนออกเป็นอีกหลายกลุ่มมาก

ทว่าที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ ทุกวันนี้ในนามนักลงทุนสถาบัน ปฎิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนสถาบันประเภท “กองทุน” ต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่

ส่วนพอร์ตของโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิเพียง 805 ล้านบาท

ประเด็นที่น่าสนใจคือ นักลงทุนทั่วไปในประเทศ หรือ ที่เราเรียกกันกลุ่มรายย่อย แมลงเม่า ฯลฯ กลับซื้อสุทธิกว่า  104,948 ล้านบาท

ทีนี้มาดูดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ กัน

สิ้นปี 2563 ปิด 1,449 จุด

ล่าสุด วันอังคารที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาปิด 1,568 จุด

เท่ากับว่านับจากสิ้นปีก่อนมาจนถึง 25 พ.ค. 2564 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 8.21%

ดัชนีที่วิ่งขึ้นมานี้ “นักลงทุนรายย่อย” เป็นกลุ่มที่อุ้มหรือดันขึ้นมา

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ล่าสุด ระบุว่า นับจากต้นปีมาจนถึงเดือนเมษายน 2564 มีนักลงทุนรายย่อยมาเปิดบัญชี 7 แสนบัญชี

ตัวเลขนี้นับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งปี ที่มีนักลงทุนเปิดบัญชี 8 แสนบัญชี

ส่วนปีก่อน ๆ หน้านี้ จะมีรายย่อยเปิดบัญชีเฉลี่ย 3-4 แสนบัญชีต่อปี

ในปีนี้นักลงทุนที่เปิดบัญชีเพิ่มขึ้นอย่างมาก (และคาดว่าจะเปิดถึง 1 ล้านบัญชีในปีนี้)

ปัจจัยสำคัญมาจากการเปิดจองหุ้นไอพีโอของ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR

สรุป ณ สิ้นเดือนเมษายน 2564 มียอดเปิดบัญชีรวม 4.2 ล้านบัญชี

ขณะที่ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า สัดส่วนของรายย่อยที่ซื้อขายหุ้นกันอยู่ในปัจจุบัน คิดเห็น 55% ของนักลงทุนทั้งหมดในตลาดหุ้น

ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายยุค หลายสมัย

มักจะออกมาให้นโยบายที่จะพยายามเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนสถาบัน หรือให้เป็นกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทย

นัยสำคัญว่า จะทำให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพ อะไรทำนองนั้น นั่นแหละ

ทว่า ผ่านมาจนถึงวันนี้ ขณะนี้

กลุ่มนักลงทุนรายย่อย หรือบรรดาแมงเม่า ยังคงเป็นกลุ่มหลักที่ซื้อขายหุ้น

จนวอลุ่มหรือมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใกล้ทะลุ 1 แสนล้านบาทแล้ว

นักลงทุนรายย่อยหลายคนทำการบ้านหรือศึกษาข้อมูล ดูกราฟ ดูสัญญาณทางเทคนิคกันเก่งมาก

มีการสอน และแนะนำแลกเปลี่ยนความรู้กันในกลุ่มห้องลงทุนต่าง ๆ

มีการแนะนำวิธีเข้าลงทุนแบบทีละตัว ทีละไม้ และไม่วู่วาม ฯลฯ

หลายครั้งที่นักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์มา เรามักจะเห็นรายย่อยเข้าไปแสดงความคิดเห็นที่เป็นเชิง “ไม่เห็นด้วย” หากมีการเชียร์หุ้นนั้น ๆ มากเกินพื้นฐาน

หรือเป็นข้อมูลที่สวนกลับความเห็นที่เป็นมุมมองของรายย่อย

รายย่อยส่วนมาก และมีประสบการณ์ จะรู้จักการประเมินความเสี่ยง

รู้ว่าหุ้นตัวไหนที่มีการเก็งกำไรกันสูง ก็จะระวังการเข้าลงทุน

ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลย

ดูจากดัชนี วอลุ่มเทรด ตลาดหุ้นไทยตอนนี้และแนวโน้มต่อไป

เหมือนว่ารายย่อยนี่แหละที่จะอุ้มหุ้นไทยไปข้างหน้า

Back to top button