พาราสาวะถี

จะโทษใครว่าให้ข่าวสร้างความปั่นป่วนหรือปั่นกระแส ให้ข่าวปลอม ปล่อยข่าวเท็จ เป็นเฟคนิวส์ ก็ประเด็นวัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องที่รัฐบาลไร้ความชัดเจนมาตั้งแต่แรก ยิ่งกรณีของแอสตราเซเนกาที่ออกอาการว่าจะไม่ได้ฉีดตามกำหนดคือเริ่มต้นตั้งแต่ 7 มิถุนายนนี้ เพราะการส่งมอบไม่ทันตามกรอบเวลาเดิมที่วางแผนกันไว้ แทนที่จะยอมรับสารภาพ พูดกันตามความเป็นจริงกลับแถไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะที่บอกว่าบริษัทส่งมอบแน่ภายในเดือนมิถุนายนแต่ไม่ได้บอกว่าต้องเป็น 1 มิถุนายนมันสะท้อนถึงอะไร


อรชุน

จะโทษใครว่าให้ข่าวสร้างความปั่นป่วนหรือปั่นกระแส ให้ข่าวปลอม ปล่อยข่าวเท็จ เป็นเฟคนิวส์ ก็ประเด็นวัคซีนโควิด-19 เป็นเรื่องที่รัฐบาลไร้ความชัดเจนมาตั้งแต่แรก ยิ่งกรณีของแอสตราเซเนกาที่ออกอาการว่าจะไม่ได้ฉีดตามกำหนดคือเริ่มต้นตั้งแต่ 7 มิถุนายนนี้ เพราะการส่งมอบไม่ทันตามกรอบเวลาเดิมที่วางแผนกันไว้ แทนที่จะยอมรับสารภาพ พูดกันตามความเป็นจริงกลับแถไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะที่บอกว่าบริษัทส่งมอบแน่ภายในเดือนมิถุนายนแต่ไม่ได้บอกว่าต้องเป็น 1 มิถุนายนมันสะท้อนถึงอะไร

มันเหมือนพวกปลิ้นปล้อนกะล่อนไปวัน ๆ ในเมื่อวางไทม์ไลน์ว่าจะเริ่มฉีดแบบปูพรมกันในวันที่ 7 มิถุนายน จะให้ประชาชนมองเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร พอของไม่มาตามนัดแทนที่จะเปิดปากพูดความจริงกลับออกอ่าวออกทะเลกันไปเรื่อย และอาการมันก็เริ่มรวนให้เห็นแล้วตั้งแต่การที่คนฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกไปแล้ว และถูกเลื่อนการฉีดเข็มสองออกไปโดยอ้างว่าระยะห่างจาก 10 สัปดาห์เป็น 16 สัปดาห์นั้นวัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงสุด

คำถามเกิดขึ้นทันควันเมื่อเห็นภาพผู้นำไปนั่งฉีดเข็มสอง ไหง! ไม่รอฉีดพร้อมประชาชนเพื่อจะได้ประสิทธิภาพที่สูงส่งของวัคซีนตามคำกล่าวอ้าง นอกจากจะมองได้ว่าเป็นความเห็นแก่ตัว เอาตัวรอดก่อนเพื่อนซึ่งไม่ควรอยู่ในวิสัยของผู้นำที่พึงกระทำแล้ว การเล่นลิ้นอยู่ตลอดเวลายิ่งสร้างความไม่เชื่อถือจากประชาชน แถมเสื่อมศรัทธาตามมาอีกต่างหาก และยิ่งสร้างความสับสนเข้าไปใหญ่เมื่อ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.แถลงข่าวช่วงเย็นวันพุธว่า ผู้นำเผด็จการสั่งให้ชะลอการลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านหมอพร้อมไปก่อน

อย่างที่บอกไปก่อนหน้า แอปพลิเคชันหมอพร้อมทำท่าว่าจะเป็นหมอไม่พร้อม แต่คล้อยหลังการแถลงข่าวหมอโฆษกศบค.ก็ไปโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันว่าใช้แต่คำว่า “ชะลอ” เพื่อให้รองรับแอปใหม่ที่จะเข้ามาเสริมเติมช่วยเรื่องลงทะเบียนไม่มีคำว่า “ยกเลิก” เพื่อช่วยให้ประชาชนได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนสะดวกขึ้น ขอร้องช่วยกันสื่อสารเชิงบวกเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศที่ดีของสังคมในการช่วยกันผ่านวิกฤติไปด้วยกัน ตรงนี้เป็นเหมือนไอโอที่ต้องตบท้ายเหมือนกันเป๊ะไม่ว่าใครก็ตาม

แต่คุณหมอคงลืมไปว่าในการแถลงข่าวก่อนหน้านั้นที่ทำให้คนแตกตื่นเพราะถ้อยคำที่แถลงนั้นระบุชัดว่า ในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มที่เป็น 7 โรคเสี่ยง ยืนยันว่าที่ได้ลงทะเบียนไปแล้วอยู่ในระบบของหมอพร้อม ซึ่ง จะได้รับวัคซีนในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนจะเป็นวันเวลาใดนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามา” นั่นมันสื่อไปในทิศทางที่ว่า วัคซีนแอสตราเซเนกาไม่มาตามนัด เป็นผลให้ต้องเลื่อนและชะลอกันอุตลุด ที่หนักข้อไปกว่านั้นคือ คนเชื่อกันว่าแทนที่จะได้ฉีดในเดือนมิถุนายนจะต้องถูกเลื่อนไปไม่รู้เมื่อไหร่

นั่นเท่ากับว่าเป็นการทำงานที่ไม่เอาไหนของรัฐบาล ที่พูดเหมือนไม่ปรึกษากันก็เป็นการออกมาแก้ต่างในคืนเดียวกันของ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาล ที่ยืนยันว่า “ประชาชนที่ได้ลงทะเบียนทางหมอพร้อม และได้รับการยืนยันวันเวลาและสถานที่แล้ว ยังคงสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามกำหนดเวลานัดเดิมได้ทั้งหมด” สรุปแล้วประชาชนจะเชื่อใครดี ไปคุยกันให้ตกผลึกก่อนดีกว่าไหมว่าเอาไง ที่สับสนอยู่แล้วมันจะอลหม่านกันไปใหญ่ แล้วแบบนี้จะไปโทษใคร

คำถามที่จะตามมาอีกจากคำยืนยันของโฆษกรัฐบาลคือ ที่จะได้ฉีดตามกำหนดเดิมนั้นเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาตามแผนเดิมหรือเปลี่ยนเป็นวัคซีนซิโนแวค เพราะได้มีการปลดล็อกไปก่อนหน้าแล้วว่าให้นำมาฉีดกับกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีได้ ด้วยท่วงทำนองเช่นนี้จึงไม่แปลกที่เราจะได้ปฏิกิริยาจากคนวงการแพทย์และคนกันเองของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ พากันออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารจัดการวัคซีนของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ

ล่าสุด รองศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ออกมากระทุ้งปมวัคซีน อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายกับการเมืองที่ไปสร้างความปั่นป่วนในทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่นโยบายรับมือกับโควิดของรัฐบาล เห็นได้ชัดจากการกระจายตัวของวัคซีนโควิดที่บิดเบี้ยวไปจากหลักการอย่างมาก จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ “เข็มสองนัดแล้วไม่มา” ในหลายพื้นที่

ยิ่งเห็นอาการชักเข้าชักออกแบบนี้ สิ่งที่คุณหมอนิธิพัฒน์ทิ้งท้ายจึงยิ่งเป็นการตอกย้ำ ยิ่งคนที่รับผิดชอบออกมาพูดแก้ตัวแบบไม่ระวังปาก (เป็นเยี่ยงนี้มาตั้งแต่ระลอกแรกยันระลอกสาม) ยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือที่ติดลบไปนานแล้วกลับเป็นลบหนักขึ้นอีก  ถ้าเป็นตัวละครหุ่นไม้ต่างประเทศจมูกคงยื่นยาวใกล้จรดพื้นเต็มทีแล้ว พอถึงเวลาที่จะพูดให้คนเขาเชื่อและร่วมมือทำตามก็คงจะเป็นไปได้ยากอย่างแน่แท้ ก่อนจะติดแฮชแท็กที่เจ็บปวด #ปอดอักเสบโควิดไม่ง่ายอย่างที่คิด #ภาครัฐโปรดสื่อสารความจริงกับประชาชน

ทว่าดูแล้วคงจะไม่มีประโยชน์อันใดที่จะกระตุกหาสำเหนียกความรับผิดชอบจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ รวมกระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะล่าสุดเจ้ากระทรวงคุณหมอก็ยังเล่นลิ้นตามเดิม แอสตราเซเนกาส่งมอบวัคซีนให้แน่แต่ไม่รู้วันไหนของเดือนมิถุนายน พร้อมกับพูดในทำนองปัดความรำคาญด้วยว่า ที่มีอยู่ก็ฉีด ๆ ไป โดยเฉพาะคนอายุ 60 ปีขึ้นไปซิโนแวคก็ฉีดได้ คนทั้งประเทศก็อยากจะถามดัง ๆ ว่า แล้วทำไมตอนนั้นท่านผู้นำถึงไม่ยอมฉีดรอของแอสตราเซเนกาทำไม และยังดอดไปฉีดเข็มสองแซงหน้าประชาชนอีกต่างหาก

สถานการณ์เรื่องวัคซีนเวลานี้กลายเป็นว่าเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่ การกระจายวัคซีนปรับเปลี่ยนวิธีกันอุตลุดเหมือนเล่นขายของ จนกระทั่งส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยต้องออกมาโวยขอจัดสรรให้เป็นธรรมกันหน่อย ถึงขนาดที่ กรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง ประกาศลั่นเลิกมองคนต่างจังหวัดเป็นพลเมืองชั้นสองเสียที ที่ระดมให้คนกรุงเทพฯ ลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีนภายใต้สโลแกนไทยร่วมใจ หมายความว่าคนไทยทั่วประเทศร่วมใจให้กรุงเทพฯ ปลอดภัย แล้วคนอีก 76 จังหวัดจะเป็นอย่างไรก็ช่างหัวมันอย่างนั้นหรือ

Back to top button