กองทุนโหนกระแส

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* ดูเหมือนดราม่าวัคซีนจะมีออกมาเรื่อย ๆ จนไม่รู้เรื่องไหนเป็น “เรื่องจริง” และเรื่องไหนเป็น “เรื่องปลอม” ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความโหลยโท่ยของเจ้ากระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่สามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ประกอบกับมีคนจำพวก “มือไม่พาย เอาส้น..ราน้ำ” โดยเฉพาะแก๊งสามกีบที่ด่าวัคซีนตัวนั้นไม่ดี แต่ตัวเองดอดไปฉีดตั้งแต่หัววันก่อนชาวบ้านตาดำ ๆ ทั้งประเทศ ยิ่งทำให้เห็นว่า อุดมการณ์มันสั้นยิ่งกว่าหางเต่า และยังทำให้เห็นธาตุแท้ของคนที่เรียกตัวเองว่า นักต่อสู้เพื่อ…!!..อิอิอิ

* ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงกับท่าทีของกองทุนที่กำลังเล่นบทพระเอกในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมานั้น มันเป็นเกมหุ้นที่ต้องการโหนกระแสฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นช็อตที่แมงเม่าต้องระวังตัวมากขึ้นเมื่อดัชนีวิ่งเข้าใกล้ระดับ 1,600 จุด เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุด Take Profit ของผู้เล่นทุกกลุ่ม ผนวกกับข้อมูลสถิติยืนยันว่า กองทุนขายมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นเดือน และเพิ่งซื้อกลับเมื่อไม่กี่วันนี้เองนะคะ

* เรื่องนี้ดูได้จากยอดซื้อวันศุกร์ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 666 ล้านบาท ขณะที่ยอดสะสมเดือน พ.ค. อยู่ในฝั่งซื้อแค่ระดับ 540 ล้านบาท และเมื่อรวมตั้งแต่ต้นปีก็มียอดขายทิ้งสะสมสูงถึงระดับ 3.64 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกแหยงอยู่ในใจตลอดเวลา เพราะภาพรวมของประเทศไทยไม่ได้ดีขนาดนั้น และตัวชี้ขาดเศรษฐกิจไทยก็อยู่ที่ไตรมาส 3 จะมีเงินสะพัดขนาดไหน?

* วันนี้ถึงต้องบอกกันตามตรงว่า ไม่ง่ายที่เจ้าประคุณรุนช่อง “กองทุน” จะเปิดปฎิบัติการทุ่มซื้อสุดตัวเหมือนพลพรรคแมงเม่าที่ทำในเวลานี้ และการทิ้งตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 1,581.98 จุด  ลบไป 0.98 จุด ทั้งที่ช่วงเช้าขึ้นไปถึง 1,595.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.95 หมื่นล้านบาท ก็มาจากอิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศธรรมดา ๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่า เกมนี้ต้องเน้นเล่นรอบมากกว่าเล่นยาวเพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋านะจ๊ะ

* โดยเฉพาะในรายของหุ้นเสือดำ ITD  กระชากขึ้นต่อเนื่องพร้อมกับข่าวดีมากมาย จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ 2.76 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 16.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.46 พันล้านบาท  ถือเป็นเกมวัดใจผู้เล่นอย่างแท้จริง เพราะถ้าดูประวัติเก่าเป็นทุนเดิมจะเห็นว่า บริษัทขาดทุนเรื้อรังเป็นเวลาหลายปี แต่ปีไหนที่เริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ต้นปี ปีนั้นจะเป็นปีที่ดีสำหรับหุ้นเต็ม ๆ จึงอยากให้แฟนคลับกลับไปนอนคิดสักคืนว่า จริงไหม?

* คล้ายกับในรายของหุ้นควายทอง CBG กระชากขึ้นมาปิดที่ 131.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.86 พันล้านบาท ล้วนมาจากความเชื่อที่ว่า ยอดขายที่จีนเป็นช่วงไฮซีซั่น บวกกับกำลังซื้อในประเทศเริ่มฟื้นตัว พวกกองทุนเลยกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง “โมนิก้า” จึงอยากถามแฟนคลับว่า ไตรมาส 1 กำไรหดตัว 12% ไตรมาส 2 จะกลับโตได้จริงหรือเปล่า?..เฮียเถียรเท่านั้นที่รู้..อิอิอิ

* เช่นเดียวกับหุ้นตามเก็บหนี้ CHAYO ก็อาศัยจังหวะตลาดหุ้นเขียวปี๋ กระชากขึ้นมาปิดที่ 17.60 บาท บวกไป 1.90 บาท หรือขึ้นไป 12.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 645 ล้านบาท ผสานกับผลงานงวดแรกปังสุด ๆ จึงอนุมานได้ทันทีว่า งวดสองก็คงสวยไม่สร่าง พร้อมเปิดช่องให้นักเก็งกำไรเข้ามาตะลุมบอลอีกยก จนหุ้นขึ้นมาทำออลไทม์ไฮแบบสบายเกือก บนการเทรดของค่า PE 73 เท่าอย่างนี้..เดิมพันสูงนะเนี่ย..ยย

* ในเมื่อจะลุยถั่วกันทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเสนอชื่อหุ้นจอมแสบในอดีตอย่าง ML เข้าไปอยู่ในทำเนียบหุ้นซิ่งอีกหนึ่งตัวเลยดีกว่า บวกกับในช่วงหลัง ๆ วอลุ่มแน่นผิดปกติไปมาก จึงน่าจะมีเจ้ามือเข้ามาเก็บหุ้นเพื่อนับตัวผู้เล่นแหง ๆ ราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นไปถึง 1.75 บาท ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ 1.60 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 609 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 14 เท่า แบบนี้..เคาะขวากันมันหยดแน่ ๆ เจ้าค่ะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาดูเกมเดิมพันสูงที่เกิดขึ้นกับ SAMART สักนิดหนึ่ง! เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 10 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 9.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 392 ล้านบาท มันแขวนไว้บนเส้นด้ายที่เปื่อยยุ่ยสุด ๆ ผสานกับคอนเนคชั่นทางการเมืองก็ไม่เหมือนเดิม เพราะโดนลูกรักที่เป็นสายตรง 3 ป. พุ่งขึ้นมาเบียดทุกโค้ง จึงไม่มีอะไรการันตีการฟื้นตัวจะยั่งยืน..จริงหรือไม่ต้องถาม “วัฒน์ชัย” กันเอาเองนะจ๊า!

* ตบท้ายเดี๊ยนขอชมเชยการทำงานของ ก.ล.ต. สมัยนี้ค่อนข้าง “รวดเร็ว” และ “ฉับไว” จนผู้คนเข้าใจถึงกฎระเบียบที่เอามาบังคับใช้กับ JKN อย่างแจ่มแจ้ง และการปรับเงินดังกล่าวก็เป็นกรณีศึกษาที่ดีให้กับผู้บริหารรายอื่น ๆ น้องโมเลยมองเรื่องนี้ว่า “ผิดเป็นครู”..รักทุกคนนะ..จุ๊บ..จุ๊บ!