เก็งหุ้นงบสวย

* อันที่จริง “โมนิก้า” พยายามหาข่าวดีมาเล่าให้แฟนคลับฟังเนือง ๆ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดหนักทุกหย่อมหญ้า บวกกับเศรษฐกิจยังมีลักษณะฝืดเคืองให้เห็นเป็นระลอก ทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” และดัชนีก็ตอบรับเรื่องดังกล่าวด้วยการแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,530-1,600 จุดเป็นเวลาร่วม  3 เดือนเห็นจะได้นะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* อันที่จริง “โมนิก้า” พยายามหาข่าวดีมาเล่าให้แฟนคลับฟังเนือง ๆ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดหนักทุกหย่อมหญ้า บวกกับเศรษฐกิจยังมีลักษณะฝืดเคืองให้เห็นเป็นระลอก ทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” และดัชนีก็ตอบรับเรื่องดังกล่าวด้วยการแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,530-1,600 จุดเป็นเวลาร่วม  3 เดือนเห็นจะได้นะคะ

* ด้วยเหตุนี้เลยไม่แปลกใจที่ดัชนีพยายามเทคตัวขึ้นตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็โดนดักขายเป็นระลอกเช่นกัน ส่งผลให้ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไปไหนไม่ได้สักที! “โมนิก้า” จึงต้องตั้งคำถามกับแฟนคลับว่า การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,593.59 จุด บวกไป 11.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.98 หมื่นล้านบาท คือจุดที่เหมาะต่อการ “ซื้อ” หรือ “ขาย” เพราะจังหวะนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการลงทุนพะยะค่ะ

* ถึงกระนั้น “โมนิก้า” ก็ได้เห็นยุทธการไล่หุ้นที่คาดว่า งบสวยกันอย่างคึกคัก ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดโมเมนตัมของการเล่นเที่ยวนี้ให้ความสำคัญกับงบไตรมาส 2 เป็นที่ตั้ง จึงเห็นหุ้นบางตัวแรลลี่ยาวแบบไม่เหน็ดเหนื่อย พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเล่นโหนกระแสได้อย่างเต็มที่ เพราะแรงขายไม้ใหญ่ ๆ จะออกมาอีกครั้งตอนประกาศงบอย่างเป็นทางการ จึงเหลือเวลาให้บรรเลงเพลงรักอีกนานโขเจ้าค่ะ

* โดยเฉพาะในรายของ RCL ตอนนี้ขึ้นชั้นหุ้นพิมพ์นิยมสำหรับทุกคนไปแล้ว และดูเหมือนเที่ยวนี้จะเป็นการไล่ราคาด้วยความมั่นใจที่ล้นปรี่ หุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ 54.25 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.85 พันล้านบาทแบบชิล ๆ  ผสานกับการเทรดอย่างเมามันอยู่บนค่า PE 10 เท่า จึงกลายเป็นตัวบิวท์อารมณ์นักเล่นในทันที แถมทุกคนรู้อยู่เต็มอกโต ๆ ว่า ปีนี้ธุรกิจโลจิสติกส์โตเท่าตัว เป้าราคา 60 บาท เลยกลายเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ ไงล่ะคะ

* ส่วนที่มาแรงแซงทางโค้งแบบน่าตกใจ “โมนิก้า” คงยื่นคอไปดูหุ้น III เป็นรายถัดมาในทันที เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.20 บาท บวกไป 2.80 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดนับตั้งแต่เข้ามาในตลาดหุ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ล้วนมาจากการเก็งงบไตรมาส 2 น่าจะออกมาปังปุริเย่! บรรดาขาเผือกเลยเชื่อว่า ยังมีแก๊ปให้เล่นกันอีกเยอะ เพราะหุ้นเทรดบนค่า PE 26 เท่าเองจ้า!

* คล้ายกับการมาของหุ้น NWR ก็มาจากผลงานที่ดีขึ้นผิดจาก “หลังเท้าเป็นหน้ามือ” ผสานกับได้งานใหม่เข้ามาเพิ่ม ราคาหุ้นเลยปึ๋งปั๋งราวกับโด๊ปม้ากระทืบโลงมาหมดขวด วานนี้จึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.36 บาท บวกไป 0.23 บาท หรือขึ้นไป 20.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาทแบบชิล ๆ  พร้อมกับจุดประกายความหวัง วันนี้น่าจะเคาะขวารัว ต่ออีกวัน เพราะหุ้นเพิ่งวิ่งผ่านบุ๊กแวลูที่ระดับ 1.18 บาท ไปเมื่อกี้เองค่ะ

* เมื่อเล่นในมุมสตอรี่สวย บวกกับมีเรื่องของบุ๊กแวลูเข้ามาเกี่ยวข้อง “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงน้องแอ่นแอ๊น ANAN เพื่อให้เข้ากับกระแสไล่หุ้นอสังหาฯ กันสักหน่อย เพราะมองในมุมของเรื่องคริปโทที่กำลังเป็นกระแส หุ้นตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในยุทธจักรด้วยเหมือนกัน แถมเมื่อดูบุ๊กแวลูที่อยู่สูงถึง 4.71 บาท เทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 2.22 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242 ล้านบาท ก็กลายเป็นไฟต์ที่ต้องตามน้ำนะออเจ้า

* ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นเก็งกำไรสุดซอยอย่าง AEC ขึ้นมาทันที เพราะการไล่หุ้นแบบดุเดือดเลือดพล่านมาพร้อมกับความหวังเรื่องฟ้าหลังฝน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาชนซิลลิ่ง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1.36 บาท บวกไป 0.31 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 136 ล้านบาท มันมาจากความเชื่อมั่นที่มีต่อแม่ทัพหญิงคนใหม่อย่าง คุณพี่ “ออมสิน” อ่ะป่าว!..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

* ส่วนรายที่ไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ของเขาดีจริง! คงต้องยกให้กับหุ้น IMH เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกตัวในยามนี้ แถมเมื่อดูจากพัฒนาการที่สำคัญของบริษัทจะเห็นว่า มีการต่อยอดธุรกิจเพื่อปั้นกำไรได้อย่างยอดเยี่ยม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 6.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท มันน่าลุ้นสำหรับคำว่า “เทิร์นอะราวด์” ขนาดไหน?..อิอิอิ

Back to top button