ฝรั่งซื้อจริงหรือหลอก
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,846 ล้านบาท
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,846 ล้านบาท
ถือเป็นการซื้อต่อเนื่องอีก 1 วันจากก่อนหน้านี้
ส่งผลให้นับจาก 1–9 มิถุนายน 2564 ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้วกว่า 7,521 ล้านบาท
ตัวเลขซื้อสุทธินี้ นับว่ามากสุดในตลาดหุ้นภูมิภาค
ทว่า หากเป็นตัวเลขซื้อขายตั้งแต่ช่วงต้นปี มาถึงเมื่อวานนี้ ยังคงเป็น “ขายสุทธิ” กว่า 58,692 ล้านบาท
มีคำถามว่า ต่างชาติซื้อแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ หรือไม่
คำตอบอยู่ที่ตรงนี้
เริ่มจากแผนการซื้อ และฉีดวัคซีนของรัฐบาลเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และหากตัวเลขการฉีดวัคซีนยังออกมาเฉลี่ย 4-5 แสนคนต่อวันแบบนี้ในช่วง 2-3 วันแรก
ประเด็นนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้น
โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ
ข้อมูลจากสภาธุรกิจตลาดทุนล่าสุด ได้ออกมาเผยเมื่อวันก่อนว่า นักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัยการฉีดวัคซีนมาเป็นอันดับแรก
ส่วนนักวิเคราะห์คนอื่น ๆ เท่าที่ดูบทวิเคราะห์และสอบถามเพิ่มเติม
ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ปัจจัยอยู่ที่วัคซีน
และนักลงทุนต่างชาติก็ให้ความสำคัญเรื่องวัคซีนเป็นหลัก
การพิจารณากลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยของไทยเริ่มจากดูว่า เมื่อการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า
นั่นแสดงให้เห็นว่า แผนการเปิดประเทศเริ่มใกล้เข้ามา ทั้งธุรกิจการท่องเที่ยวจะค่อย ๆ กลับมาคึกคัก รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเปิดประเทศ
ตัวเลขจีดีพี แม้ก่อนหน้านี้จะออกมาเป็นลบ
แต่มีแนวโน้มเริ่มใกล้กลับมาเป็นบวก
เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF แม้จะปรับลดตัวเลขจีดีพีไทยในปี 2564 ลงมาเหลือ 2% กว่า ๆ
แต่นั่นก็ยังคือสัญญาณที่ดี เพราะในปี 2565 ตัวเลขจีดีพี จะเป็นบวกเพิ่มขึ้นมาเป็น 5%
นอกจากจะดูเรื่องของจีดีพีด้วยแล้ว
ต่างชาติยังดูตัวเลข “เงินเฟ้อ” ที่เป็นอีกเครื่องมือสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนด้วย
ล่าสุด ประมาณการเงินเฟ้อของไทยปีนี้ อยู่ที่ 1% กว่า เท่านั้น
ทั้งแนวโน้มตัวเลขจีดีพี และเงินเฟ้อ นี้ หากเทียบกับประเทศในภูมิภาค
ของไทยนั้น ค่อนข้างจะมีภาษีหรือมีแนวโน้มที่ดีกว่า และเหมาะต่อการกลับเข้ามาลงทุน
มีการเปรียบเทียบด้วยว่า อย่างตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น ของจีน ที่ปรับตัวขึ้น จะเป็นการปรับขึ้นตามจำนวนเข็มที่ฉีด (วัคซีน) อย่างที่เรารับทราบกันก่อนหน้านี้
ตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน เมื่อการระดมฉีดวัคซีนยังเพิ่มขึ้นตามแผนของรัฐบาล
ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจในทุกเซคเตอร์ ก็จะค่อย ๆ ขยับตามขึ้นไป
มุมมองของนักวิเคราะห์จึงมองว่า นับจากนี้ จะเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเรื่อย ๆ และยาวไปจนถึงต้นปี 2565 หรือในช่วงไตรมาส 1/2565
ยอดขายของต่างชาตินับจากต้นปี 2564 ที่ 58,692 ล้านบาท
ก็มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิได้
แต่ก็มีคำเตือนว่า การกลับเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติ
อาจจะมีการสลับขายเพื่อทำกำไรออกมาบ้างในบางช่วง หากราคาหุ้นตัวนั้น ๆ เต็มมูลค่า
ส่วนกลุ่มหุ้นที่ต่างชาติสนใจเข้าลงทุน
หลัก ๆ ยังอยู่ในกลุ่ม SET50 และรวมถึงจะมี SET100 บ้าง ที่ราคาหุ้นยังแลกการ์ด และมีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตสูง
มาลุ้นกันว่า ต่างชาติกลับมารอบนี้
จะมาแบบแรลลี่ หรือหลอก ๆ