ขายตัวนั้น..ซื้อตัวนี้

* การแกว่งตัวไปมาในลักษณะไซด์เวย์ของดัชนีช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทั่วไปได้รู้ว่า การเล่นหุ้นต่อจากนี้จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน เพราะตลอดเส้นทางการขึ้นจะเต็มไปด้วยแรงขาย ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า แรงซื้อรอบใหม่ที่เข้ามามีมากพอที่จะดันดัชนีขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,630 จุดได้ถาวรหรือเปล่า? พร้อมกับชี้ให้เห็นโอกาสทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650 จุดจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ไหม?


* การแกว่งตัวไปมาในลักษณะไซด์เวย์ของดัชนีช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนทั่วไปได้รู้ว่า การเล่นหุ้นต่อจากนี้จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน เพราะตลอดเส้นทางการขึ้นจะเต็มไปด้วยแรงขาย ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า แรงซื้อรอบใหม่ที่เข้ามามีมากพอที่จะดันดัชนีขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,630 จุดได้ถาวรหรือเปล่า? พร้อมกับชี้ให้เห็นโอกาสทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,650 จุดจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ไหม?

* ตรงนี้เป็นเรื่องราวที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกตื่นเต้น และลุ้นระทึกตลอดเวลา เพราะเกมหุ้นต่อจากนี้จะเป็นลักษณะเข้าทำเร็ว ซึ่งจะทำให้ในแต่ละวันดัชนีผันผวนหนักขึ้นกันเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับช่วยกันประเมินอีกครั้งว่า การยืนปิดที่ระดับ 1,636.56 จุด บวกไป 11.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาท ยังเป็นจุดที่เหมาะต่อการ “เล่นสั้น” หรือ “เล่นยาว” กันแน่..อิอิอิ

* สำหรับความโหลยโท่ยการทำงานของรัฐบาลที่ชอบมาในแนวผักชีโรยหน้า แต่สุดท้ายก็ผ่านไปแบบทุลักทุเล (ต้องโดนด่าก่อน ถึงจะทำงานดี) “โมนิก้า” บอกได้เลยว่า มันเป็นสไตล์ที่คนทั้งประเทศต้องอยู่กับแบบนี้ไปอีกนาน จึงอยากให้ทุกคนค่อย ๆ มองปัจจัยที่จะทำให้ประเทศไทยสะดุดล้มอีกครั้งเหลืออะไรบ้าง? หากไม่แน่ใจ..ก็ควรเลือกวิธีขายทำกำไรออกไปบางส่วนดีกว่ามั๊ง!

* เหมือนแรงขายที่ประเดประดังมาที่หุ้น TTA แบบต่อเนื่องนั้น “โมนิก้า” มองเป็นผลพวงที่เกิดจากหุ้นใกล้เต็มแวลู บวกกับตลาดหุ้นซึมซับข่าวดีไปหมดแล้ว จึงได้เวลาต้องแยกย้ายวงอย่างเป็นทางการ ราคาหุ้นถึงไหลลงมากองอยู่ที่ 18.20 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.30 พันล้านบาทแบบนี้ เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ไม่มีความจำเป็นต้องยื่นมือไปรับของร้อนเลยนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของหุ้นประกันชีวิต BLA ถูกขายออกมาเรื่อย ๆ 3 วันติด จนสุดท้ายยืนปิดที่ 28.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 285 ล้านบาท ทั้งที่เคยป้วนเปี้ยนไปมาแถว 32 บาทพักใหญ่ ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่บอกให้นักเล่นรู้ว่า เมื่อถึงเวลาจบรอบ พร้อมกับหมดสตอรี่ ผู้เล่นแกนหลักมักมีพฤติกรรมขายหุ้นทิ้ง แล้วโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวอื่น เพื่อรอเวลากลับมาเล่นใหม่นะจะบอกให้

* ส่วนรายที่เล่นยาวกันจริง ๆ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นถ่านหินตัวจิ๋วอย่าง AGE ของคุณ “ป๋าพนม” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสมุทรสาคร แบบไม่ลังเลใจ เพราะราคาหุ้นไต่เพดานบินสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากต้นปีทำท่ายึกยักบริเวณ 1.70 บาท ล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ 4.26 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 366 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 13 เท่าแบบนี้..มันมีอะไรต้องวอรี่อีกไหมล่ะคะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองหุ้นโลกลืมที่ทำธุรกิจพลังงานอย่าง MDX เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบของแปลกใหม่ เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับชีวิต โดยเฉพาะในมุมของการเทรดบนค่า PE 12 เท่า ผสานกับตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ปี 2564 ปาเข้าไปครึ่งหนึ่งของกำไรทั้งปี 2563 มันเป็นตัวชูโรงที่ทำให้การยืนปิดที่ 6.05 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท น่าสนใจขึ้นเป็นกองเจ้าค่ะ

* เรื่องนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องวิ่งแจ้นมาดูหุ้น SITHAI เป็นรายถัดมา เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.39 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 16.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 407 ล้านบาท มาพร้อมกับสตอรี่เทิร์นอะราวด์แบบขั้นเทพ ผสานกับหุ้นมีบุ๊กแวลูอยู่ที่ระดับ 1.35 บาท ยิ่งทำให้เดี๊ยนสนใจหุ้นตัวนี้มากเป็นทวีคูณ เพราะเมื่อคิดตามสูตรที่นิยมใช้กันทั่วไป เขามักให้ค่า PBV ที่ระดับ 1.50 เท่า ราคาหุ้นควรขึ้นไปอยู่แถว 2 บาทนะคะ

* ตบท้ายกันที่พ่อดอกมะลิ JAS เพื่อเป็นเกร็ดความรู้สำหรับการเคาะขวากันสักหน่อย เพราะอาการ “ขึ้นวัน ลงวัน” พร้อมกับยกฐานราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะสื่อความหมายให้รู้ว่า ไตรมาส 2 น่าจะมีอะไรดีมาโชว์กระมัง! เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินราคาปิดที่ 2.96 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275 ล้านบาท มันน่าสนใจเหมือนที่น้องโมเม้าท์ให้ฟังไหมล่ะจ๊ะ

Back to top button