IVL วันเวลาเทิร์นอะราวด์
ชะตากรรมของราคาหุ้นที่นักลงทุนขาเล็กและใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นวีไอ. ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL มีวงจรชีวิตในรูป “ขึ้น 3 ปี ลง 3 ปี” ตามผลประกอบการของธุรกิจ เรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จกันเลยทีเดียว
ชะตากรรมของราคาหุ้นที่นักลงทุนขาเล็กและใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นวีไอ. ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL มีวงจรชีวิตในรูป “ขึ้น 3 ปี ลง 3 ปี” ตามผลประกอบการของธุรกิจ เรียกว่าเป็นสูตรสำเร็จกันเลยทีเดียว
ความผันผวนของราคาหุ้นดังกล่าว เป็นตามวงจรขาขึ้น-ขาลงของธุรกิจ แต่นั่นไม่รวมถึงพฤติกรรมนักเทกโอเวอร์กิจการข้ามประเทศระดับโลกของผู้ถือหุ้นใหญ่สุดและผู้บริหารอย่างนาย อาลก โลเฮีย ที่ยังคงเดินหน้าทำตัวเป็นนักล่ากิจการระดับโลกที่ “ฉลาดซื้อ” ตามเงื่อนไขและจังหวะจะเปิดให้
ที่ผ่านมา ผลจากการเข้าทุ่มเงินซื้อกิจการในกลุ่มโพลีเอสเตอร์และบรรจุภัณฑ์พลาสติก อันเป็นปิโตรเคมีปลายน้ำเสมือน “ปอกกล้วยเข้าปาก” ของ IVL ทำให้กิจการเติบโตต่อเนื่องมีสินทรัพย์หลายแสนล้านบาท บางปีก็มาก บางปีก็น้อย แต่แทบไม่เคยมีปีไหนเลยที่ไม่มีการควบรวมกิจการ
ปีนี้ ถือว่าดีลซื้อกิจการเพิ่มของ IVL มีน้อยมาก ล่าสุดเพิ่งจะสำเร็จเสร็จสิ้น (ซึ่งจะมีการบันทึกเข้ามาในไตรมาสสองนี้เลย) คือการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PET) และบริษัทย่อยในรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ มูลค่าประมาณ 68.2 ล้านดอลลาร์ โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนสุทธิที่มีอยู่เหลือเฟือ ไม่ต้องกู้เงินให้เสียดอกเบี้ย
ปฏิบัติการควบรวมกิจการจะทำให้การเติบโตไม่หยุดชะงักลง แม้อัตรากำไรสุทธิของ IVL ก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นเกินระดับ 8% ซึ่งถือว่าเป็นอัตรากำไรที่ต่ำสำหรับบริษัทโฮลดิ้งส์ …. แต่จุดอ่อนนี้นักวิเคราะห์มองข้ามไป เมื่อการเติบโตเชิงปริมาณยังดำเนินต่อไปหักกลบจุดอ่อนได้สนิท
ปีนี้เป็นปีพิเศษ เพราะเป็นจังหวะดีที่บริษัทมีผลประกอบการเข้าข่ายเทิร์นอะราวด์พอดี จากขาขึ้นของธุรกิจที่เข้าไปซื้อกิจการในประเทศต่าง ๆ เริ่มทะยานกลับมาทำกำไรแข็งแกร่ง แม้จะยังไม่ชัดเจนดีนักในไตรมาสแรก
กำไรสุทธิของ IVL ในไตรมาสแรก มากกว่ากำไรสุทธิของทั้งปีในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับใกล้เคียงกับ 3 ปีก่อนที่ราคาวิ่งแรงจนปิดสิ้นปีนั้นที่ระดับราคาสูงกว่า 58 บาท ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ IVL ย่ำแย่ลงเพราะพิษสงของโควิด-19 ทำกำไรหดหายมามาก แต่ยังสามารถประคองตัวอยู่จนปิดตลาดเมื่อวันสิ้นปีที่ระดับเหนือ 35 บาท
ไตรมาสสองของปีนี้ นักวิเคราะห์ “ขาเชียร์” มีมุมมองทางบวกกับราคาหุ้นนี้มาก แนะนำให้ “ซื้อสะสม” กันทั่วหน้า โดยสำนักที่ให้ราคาต่ำสุดยังยอมให้ถึง 55.00 บาท
ราคาเป้าหมายดังกล่าวทำให้แมงเม่าเข้ามาช้อนซื้อกันอย่างคึกคักในสัปดาห์นี้ ซึ่งราคาหุ้นกำลังร่วงลงมาใต้ระดับแนวรับจิตวิทยา 42.00 บาท ต่างซื้อขายที่เกินระดับ 2.5 พันล้านบาทต่อวัน (เมื่อวานนี้พุ่งขึ้นไปกว่า 3 พันล้านบาทเศษ) ตอกย้ำความนิยมของขาประจำได้ดีว่า พวกเขาเชื่อว่างานนี้ไม่มีรายการ “พาคนไปตาย” แน่นอน
เบื้องหลังความเชื่อมั่น เกิดจากข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยบวกที่รออยู่ข้างหน้าหลายด้านเช่น
– กำไรต่อหน่วยการผลิตเพิ่มขึ้น ตามส่วนต่างของต้นทุนและราคาขายผลิตภัณฑ์
– ปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นของธุรกิจขวด PET ตามอุปสงค์การใช้เม็ดพลาสติกที่ดีขึ้น สอดคล้องกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (product spread) ที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ทั่วโลกมีการเร่งใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างแพร่หลาย
– ความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นของธุรกิจ IOD
– ความสามารถลดต้นทุน ในกระบวนการผลิต การลดค่าใช้จ่ายในธุรกิจ จากการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ Olympus
ปัจจัยบวกทั้งหลายนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรสุทธิงวดสิ้นปีนี้ของ IVL จะทะยานขึ้นไปถึงระดับดีสุดในรอบ 5 ปี ที่ระดับมากถึง 1.5 หมื่นล้านบาท มากกว่าปีก่อนถึง 5 เท่าเศษ หรือ 521% และ 1.6 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ตามลำดับ
กำไรช่วงเทิร์นอะราวด์ที่คาดโดยนักวิเคราะห์เช่นนี้ ดู “เกินจริง” ไปสักนิด แต่หากว่าทำได้แค่ที่คาดเอาไว้แค่ร้อยละ 80 ที่ถือว่าราคาใต้ระดับ 42.00 บาท ยามนี้ ถูกเกินไปเสียแล้ว
ยิ่งถ้าหากทำได้ตามคาดหรือดีกว่าคาด คงไม่ต้องบอกว่าควรซื้อ หรือ ถือ หรือบอกไปเลยว่า ซื้อปีนี้ ขายปีหน้า
เรื่องดี ๆ อย่างนี้ มีคนชี้โพรงให้แล้ว กระรอกที่ชาญฉลาดรู้ดีว่าควรทำอย่างไร